xs
xsm
sm
md
lg

แฉจัสตินหนีคดี 112 ไปแคนาดา เที่ยวยืมเงินเป็นหมื่นๆ ซื้อกัญชา-ไอแพด-แอปเปิลวอตช์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้หลบหนีคดี 112 ที่แคนาดาแฉพฤติกรรม "ชูเกียรติ" หรือ "นุ๊ก" หรือ "จัสติน" ผู้ต้องหาหนีคดี 112 ยืมเงินไปทั่ว มากสุดกว่า 7 หมื่น อ้างไม่มีข้าวกิน ไม่มีเงินซื้อเครื่องสัก แต่ความจริงซื้อกัญชามาดูด ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ไอแพด แอปเปิลวอตช์ แถมพบรัฐบาลให้กรีนการ์ด ให้พักโรงแรมหรูเชอราตัน อยู่ดีกินฟรี เลี้ยงดูอย่างดี เตือนให้ยืมตังค์ระวังหัวจะปวด ด้าน "แม่ปวิน" สั่งสอนถ้าต้องลี้ภัยต้องพึ่งตัวเองให้ได้ เจอคนแบบนี้หนีไปไกลๆ

วันนี้ (3 ม.ค.) เฟซบุ๊ก Kritsada Aiken ของนายกฤษฎา เอเค่น ผู้ที่หลบหนีคดีมาตรา 112 ซึ่งปัจจุบันถือสัญชาติแคนาดา ได้โพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมของนายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือนุ๊ก หรือจัสติน ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีพฤติกรรมยืมเงินผู้ที่หลบหนีคดีมาตรา 112 คนอื่นๆ อ้างว่าไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินไปซื้อเครื่องสัก หลอกว่าได้งานประจำแล้ว เดี๋ยวทำงานได้เงินจะจ่ายคืน แต่ความจริงเป็นแค่งานชั่วคราว ทำสัปดาห์ละแค่ 1-2 วัน อีกทั้งรัฐบาลแคนาดาให้สถานะกรีนการ์ดแคนาดา พักโรงแรมเชอราตันชั่วคราวจนกว่าจะหาบ้านเช่าได้ อาหารการกินครบถ้วน และพบว่าเงินที่ยืมได้เอาไปซื้อกัญชา เสื้อผ้า รองเท้า iPad AppleWatch รุ่นล่าสุด โดยพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อให้นายชูเกียรติยืมเงินมากที่สุดถึง 3 พันดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 77,000 บาท

ระบุว่า "ขอเตือนมิตรสหายทุกท่าน ไม่ว่าจะอยู่แคนาดา หรือประเทศไหนๆ หาก นุ๊ก จัสติน ผู้ลี้ภัย 112 คนล่าสุดมายืมเงิน อย่าให้เด็ดขาด ถ้าไม่อยากปวดหัวทีหลัง

มาถึงแวนคูเวอร์ไม่ถึงเดือน นางวีรกรรมเยอะมาก เที่ยวยืมเงินคนนั้นคนนี้ หนักสุดโดนไป $3,000 (ส่วนเรารอดหวุดหวิดเพราะช่วงนั้นไม่อยู่แคนาดาพอดี)

Pattern ของนางคือ มายืมเงิน อ้างว่า ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินไปซื้อเครื่องสัก หลอกว่าได้งานประจำแล้ว เดี๋ยวทำงานได้เงินจะจ่ายคืน แต่ความจริงเป็นแค่งานชั่วคราว ทำสัปดาห์ละแค่ 1-2 วัน (นางยังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ถึงระดับ Conversational การหางานประจำเป็นไปไม่ได้เลย) แต่ความเป็นจริงคือ ตอนนี้รัฐบาลแคนาดาดูแลเรื่องที่อยู่ การกินเขาครบถ้วน ให้สถานะ PR เปิดโรงแรม Sheraton ให้นอนจนกว่าจะหาบ้านเช่าได้ ที่โรงแรมมี Fitness สระว่ายน้ำให้ใช้ฟรี มีอาหารให้กินครบสามมื้อ ส่วนเครื่องมือสักเขามีอยู่แล้ว (มีพี่ช่างสักกลุ่มสามกีบแวนคูเวอร์ให้ยืม+เขาเอามาเองจากไทย) เท่าที่ช่วยกันสืบ เขาสารภาพว่าเงินที่ยืมไปเขาไม่ได้เอาไปซื้อเครื่องสัก แต่เอาไปซื้อกัญชา เสื้อผ้า รองเท้า iPad AppleWatch รุ่นล่าสุด

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมโทร.ไปจิกคนให้มาคุย ขอความช่วยเหลือ ตอนตี 3 ตี 4 หรือโทร.ไปตอนกำลังทำงาน-เรียน กำลังนอน ไม่มีการส่งข้อความไปถามก่อนว่าสะดวกคุยมั้ย ทักไปให้คนที่ไม่รู้จักในกลุ่มสามกีบแวนคูเวอร์ให้เรียก Uber ให้ฟรี

เขามักให้สัมภาษณ์ตามรายการต่างๆ จะบอกว่าไม่อยากยุ่งกับคนไทยที่นี่ มีแต่แก๊งเพื่อนมอเตอร์ไซค์ช่วยเขา แต่ความเป็นจริงตอนที่เขากำลังขอลี้ภัยที่ประเทศที่สองมาแคนาดา ก็น้องๆ คนไทยที่แหละที่ช่วยแปลเอกสารลี้ภัยเขาเป็นภาษาอังกฤษ ช่วยกันติดต่อหน่วยงานต่างๆ ให้ จนเขาได้ลี้ภัยมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ยังไม่นับเรื่องที่ให้ยืมเงิน

เท่าที่สอบถามมาหลายคนเขามีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่ที่ไทยและขณะลี้ภัยอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เราช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในแคนาดามาหลายคน หลายปี แต่รายนี้คือหนักสุด เป็นคนแรกที่ต้องขอออกมาโพสต์เตือนภัย ก่อนหน้านี้มีน้องๆ อายุ 17-20 ปี มาลี้ภัยที่นี่หลายคน โดนที่บ้านตัดขาด เพราะพ่อแม่เป็นสลิ่ม ไม่มีเงินติดตัวมาก็สามารถพึ่งตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องไปหยิบยืมเงินใคร เพราะรัฐบาล ระบบสวัสดิการที่นี่ก็ดูแลผู้ลี้ภัยทางการเมืองดีพอสมควร

ที่ตัดสินใจออกมาโพสต์เตือนเพราะทราบมาว่าหลังเขาโดนตัดขาดออกจากกลุ่มคนไทยที่แคนาดา เขาเริ่มไปทำการขอ “ยืมเงิน” คนที่ไทยและประเทศอื่นๆ

ปล. ตัดสินใจเปิด public ทีหลัง เพราะคิดว่าเจ้าตัวคงได้อ่านแล้ว"

อนึ่ง สถานะ PR คือ Permanent Resident of Canada หรือกรีนการ์ดแคนาดา มีสถานะเท่าเทียมกับพลเมืองแคนาดาทุกประการ ยกเว้น ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง/ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และมีพันธะต้องพำนักในแคนาดาอย่างน้อย 730 วันในทุกๆ 5 ปี (Residency Obligations)

ด้านเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ ผู้ต้องหาหนีคดี 112 โพสต์ข้อความระบุว่า "สถานะผู้ลี้ภัยดิฉันต่างจากคนอื่นตรงที่ดิฉันอยู่ต่างประเทศแล้ว มีอาชีพ มีเงิน จึงไม่ต้องหนีออกจากไทย น้องๆ ที่ต้องหนีมา ดิฉันจึงเห็นใจทุกคน และในหมู่ผู้ลี้ภัยรู้ว่า ดิฉันพร้อมให้ความช่วยเหลือเรื่องเอกสารอย่างเต็มที่ แต่นี่เพิ่งได้ยินเรื่องผู้ลี้ภัยรายล่าสุดที่เมื่อลี้ภัยออกมาได้ก็ก่อปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเงิน การหยิบยืมเงินอาจเป็นเรื่องปกติในยามคับขัน แต่นี่ขอพูดจากปรัชญาการใช้ชีวิตของตัวเองว่า จะไม่ทำตัวให้เป็นภาระใครโดยไม่จำเป็น ถ้าตัวเองต้องลี้ภัย และมีทุนทรัพย์จำกัด ดิฉันต้องจัดลำดับความสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องค่าใช้จ่าย จริงๆ อันนี้ไม่ต้องสอนเลย เพราะคนที่มีสติก็คงรู้เรื่องลำดับความสำคัญของชีวิต ถ้าตกอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยและมีทุนทรัพย์จำกัด เราต้องอยู่ให้ได้และต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เราอาจจะเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว แต่ในสถานการณ์ลี้ภัย สิ่งเหล่านี้มันตัดออกไปได้ นี่เลยงงว่า ผู้ลี้ภัยที่มีปัญหาตอนนี้ เที่ยวยืมเงินคนไปทั่ว แล้วเอาไปชอปปิ้งเสื้อผ้า นาฬิกา บลา บลา บลา งงมาก คนอื่นที่เขาให้ยืมเงินเพราะเขาสงสาร คิดว่าจะเอาเงินไปซื้อข้าวกินและเอาไปต่อยอดในเรื่องอาชีพในชีวิต ที่ไหนได้ เอาไปซื้อของฟุ่มเฟือย ซื้อกัญชาสูบ โอ้ ว้าว ฟังแล้วเหนื่อย ขอหลีกหนีคนประเภทนี้่ไกลๆ เลยค่ะ"

อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2566 นายชูเกียรติโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งว่า ขณะนี้ได้ออกจากประเทศไทยมาอยู่ในต่างประเทศแล้ว ระบุว่า "ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่ต้องจากครอบครัวเพื่อนๆ มาไกลอีกนานแสนนาน อาจจะไร้ลมหายใจก่อนที่จะได้เจอเพื่อนๆ และครอบครัวอีกครั้ง ทุกคนต่างเสียสละในแบบของทุกคน"




กำลังโหลดความคิดเห็น