วันนี้ (19 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับพวกรวม 5 คน และลงนามตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงด้วยนั้น (คดีรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์ บีเอ็นเค มาสเตอร์)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เกี่ยวพันกับกรณีสำนวนที่ บก.ปปป. จำนวน 1,420 แผ่นที่สอบสวนพบว่าบุคลากรสำนักงาน ป.ป.ช.สามคน คือ นายสมบัติ ธรธรรม อดีตอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักการไต่สวนทุจริตภาครัฐ 1 และ 2, นายจัตุรงค์ พานิชเจริญ เจ้าหน้าที่ไต่สวน สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 2 และ น.ส.อารยา งามล้วน เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 3 รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์, พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ และ นายสมภพ ไทยธีระเสถียร (อั้ง เมืองชล) เซียนพระชื่อดัง มีการกระทำผิดในการช่วยเหลือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในการตกแต่งหลักฐานในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตรอง ผบ.ตร. กับภริยาต่อสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น
สำหรับสาระสำคัญบางส่วนในสำนวนการสอบสวนของ บก.ปปป. พบว่าการแชตไลน์ของนายสมบัติกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ระบุว่า นายสมบัติสั่งการให้ นายจัตุรงค์, น.ส.อารยา และคนอื่นๆ ในสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการช่วยเหลือการยื่นเอกสารและร่างหนังสือชี้แจงของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ต้องยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช.หลายครั้ง รวมทั้งการแนะนำและเตรียมตัวการชี้แจงให้อดีตรอง ผบ.ตร.รับทราบก่อนที่จะชี้แจงสำนวนที่กล่าวหา อดีตรอง ผบ.ตร.กับสำนักงาน ป.ป.ช. หลายครั้งและต่อเนื่อง เพราะจากการตรวจสอบสำนวนของ บก.ปปป.พบว่า นายสมบัติ และพวก ในสำนักงาน ป.ป.ช. ติดต่อกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ หลายวาระในหลายปีที่ผ่านมา เช่น แชตไลน์และการโทร.ไลน์เกี่ยวกับการหารือระหว่างนายสมบัติ กับ พ.ต.ท.คริษฐ์ เรื่องการตกแต่งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และภริยา
"เช่น นายสมบัติ สั่งให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ค้นหาข้อมูลของ ว่าที่ ร.ต.สมพร กุลวานิช อดีตผู้ว่าฯ ซึ่งอดีตรอง ผบ.ตร.อ้างว่าแนะนำอดีตผู้ว่าฯ ให้ อั้ง เมืองชล เซียนพระรู้จัก และสร้างหลักฐานว่ามีการติดต่อซื้อพระเครื่องสิบองค์จน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้รับค่านายหน้าด้วยเงินสดกว่าสิบล้านบาทจาก อั้ง เมืองชล และนำมาใช้กล่าวอ้างการซื้อปืนกว่าสองร้อยกระบอกของอดีตรอง ผบ.ตร.ที่ต้องแสดงแหล่งที่มาของรายได้ต่อสำนักงาน ป.ป.ช."
นายสมบัติ และนายจัตุรงค์ ช่วยร่างหนังสือชี้แจงให้ อั้ง เมืองชล ที่ต้องยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ด้วยว่า มอบเงินสดเป็นค่านายหน้ากว่าสิบล้านบาทให้อดีตรอง ผบ.ตร.เพราะเหตุใด ซึ่งพบว่านายสมบัติ ยังร่วมกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ จัดฉากถ่ายภาพ อั้ง เมืองชล กับกองเงินสดหลายสิบล้านบาทในห้องทำงานของ อั้ง เมืองชล ว่าอั้ง เมืองชล มีเงินสดเพียงพอซื้อพระเครื่อง
พนักงานสอบสวนยังพบว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ เขียนบัตรสนเท่ห์ในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง จากนั้นส่งให้ นายจัตุรงค์ นำไปแจกจ่ายในสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อโจมตีใส่ร้ายป้ายสีกรรมการ ป.ป.ช.บางคน เช่น นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ที่เป็นเสียงข้างน้อยในการลงมติวาระที่เกี่ยวกับอดีตรอง ผบ.ตร.เป็นเวลาต่อเนื่อง (ตั้งแต่ปี 2564-66) เพราะกรรมการ ป.ป.ช.คนนี้มีความเห็นให้ส่งสำนวนการฟอกเงินของอดีตรอง ผบ.ตร. (เว็บพนันมินนี่) ให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายเพราะเป็นคดีฟอกเงิน ทั้งนี้ พบว่านายจัตุรงค์ดำเนินการตามที่ นายสมบัติสั่งการ
ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าบัตรสนเท่ห์ดังกล่าวอยู่ในการควบคุมของนายสมบัติ และอดีตรอง ผบ.ตร.เพื่อหวังผลหลายด้านในสำนักงาน ป.ป.ช. เช่น ข่มขู่กรรมการ ป.ป.ช.คนอื่นๆ และบุคลากรในสำนักงาน ป.ป.ช.ไม่ให้ดำเนินการตรงกันข้ามกับแนวทางที่อดีตรอง ผบ.ตร.ต้องการ อีกทั้งทราบว่ากรรมการ ป.ป.ช.หลายคนมีความใกล้ชิดกับอดีตรอง ผบ.ตร.ด้วย รวมทั้งยังทราบว่าช่วงปีใหม่นั้น อดีตรอง ผบ.ตร. มาพบ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.อีกด้วย