1."บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" เปิดแถลงเคลียร์ใจไม่ทันไร ถูกนายกฯ สั่งเด้งแพ็กคู่เข้ากรุสำนักนายกฯ 60 วัน รอผลสอบ ยัน ไม่ใช่การลงโทษ!
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ BNK Master เว็บไซต์พนันชื่อดังเครือข่ายใหญ่พื้นที่ จ.สงขลา ในข้อหาสมคบฟอกเงินฯ ร่วมกันฟอกเงิน หลังจากสัปดาห์ก่อน มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 5 รายในคดีดังกล่าว โดยเป็นตำรวจ 4 นาย และพลเรือน 1 ราย แต่ศาลอนุมัติหมายจับแค่ 4 ราย คือ ตำรวจ 3 และพลเรือน 1 เหลือเพียง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ เพราะเห็นว่าควรออกหมายเรียกแทน เนื่องจากมีตำแหน่งสูง
สำหรับการออกหมายเรียกครั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำสำเนาอีก 1 ชุด เพื่อรายงานต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้รับทราบในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายจับ 4 รายในคดีนี้ ข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา อดีต ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 2.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว 3.ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร 4.นายณพรรษกร แหเกิด หรือ "เสี่ยอู๊ด สงขลา"
วันต่อมา (18 มี.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวระหว่างลงพื้นที่สถานที่ก่อสร้างสนามบินจังหวัดพะเยา พร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงกรณีถูกออกหมายเรียกว่า ไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอกลับกรุงเทพฯ ก่อน
ส่วนที่ ผบ.ตร.ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสอบวินัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังถูกหมายเรียกในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบการฟอกเงินนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ในเรื่องคดี ได้มอบหมายทนายความไปหมดแล้ว มั่นใจว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร.กล่าวกรณีพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า เป็นไปตามขั้นตอน ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง แล้วยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาออกหมายจับ
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การออกหมายเรียกครั้งนี้ มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการสอบสวนไม่ถูกต้อง เพราะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เนื่องจากสำนวนคดีอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า คดีที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบเป็นคดีเว็บพนันมินนี่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับคดี BNK Master
ส่วนที่ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะออกมาแฉเส้นทางการเงิน โดยอ้างว่าจะสะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าพยานหลักฐานถึงใครก็ต้องรับสภาพหากชี้แจงไม่ได้ รวมถึงถ้าเส้นเงินถึงตน ก็ต้องรับสภาพเช่นเดียวกัน ซึ่งพยานหลักฐานทุกอย่างพิสูจน์ได้ตามวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ วันต่อมา (19 มี.ค.) นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ และนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงข่าวกรณีออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในคดีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน BNK Master โดยยืนยันว่า จากการตรวจสอบและสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่พบความเชื่อมโยงทางการเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับเว็บพนันดังกล่าว แต่กลับมีความพยายามนำไปผูกโยงกับคดีเว็บพนันมินนี่ ให้ไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งพบว่า เส้นทางการเงินของผู้ต้องหาในคดีมินนี่ มีบัญชีของ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินผู้ทำเว็บ เชื่อมโยงกับบัญชีของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีต รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และยังมีการโอนเงินจาก น.ส.พิมพ์วิไล กว่าสิบล้านบาท ไปยังผู้ต้องหาในคดีเว็บ BNK Master ดังนั้นคดีนี้จึงเกี่ยวข้องกับคดีมินนี่ ที่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของ ป.ป.ช. ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีต ผบก.ศฝร.บช.น.เผยว่า ในฐานะผู้ต้องหาของคดีใน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขอชี้แจงถึงความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินเว็บ BNK Master ซึ่งในแถวหนึ่งพบความเชื่อมโยงไปยังบัญชีของ นายพล “ต.” ภรรยา “ก.” พี่สาว “จ.” พี่ชาย “ช.”
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า มีตำรวจระดับนายพล “ต” รับเงินจากเว็บพนันว่า ถ้าคิดว่า ผิดจริงมั่นใจก็ระบุมาเลย การกล่าวอ้างเขาเรียกว่าการด้อยค่าทางสังคมซึ่งมันไม่ถูก พูดมาเลยใครผิด เส้นทางการเงินเป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์เข้ามากี่เส้น ตนก็จะตรวจสอบให้ทั้งหมด
วันต่อมา (20 มี.ค.) มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเคลียร์ใจปัญหาความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้น หลังเข้าพบพูดคุยกันประมาณ 10 นาที พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ไปแถลงข่าวพร้อมกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หลังเข้าพบ ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พบกับนายกฯ พร้อมกันทั้งสองคนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พบพร้อมกัน ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว ขอให้สื่อไปฟังแถลงที่ สตช.โดยตน และ ผบ.ตร.จะแถลงคู่กัน ส่วนในเรื่องของคดีก็ว่ากันไป ตอนนี้ตำรวจเราต้องกลับไปทำงานให้กับประชาชน
ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เผยว่า ตนได้โทรศัพท์ชวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปพบนายกรัฐมนตรี และได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้ง สน.เตาปูนและ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยคิดเตะสกัดขา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น และว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ รองผบ.ตร.ทุกคนมีสิทธิ์ในแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะแต่งตั้งช่วงปลายปีนี้
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้พาตนไปพบกับนายกฯ โดย ผบ.ตร. มีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวนทุกคนมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวคือ ผบ.ตร. วันนี้นายกรัฐมนตรี ผบ.ตร และตนเอง มีแนวคิดเดียวกัน คือเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน ส่วนหมายจับหมายเรียกก่อนหน้านี้ จะเป็นกระบวนการของ ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งจะออกหมายเรียก หรือหมายจับ ก็เป็นเรื่องของ ปปช. พร้อมย้ำว่า จะทำงานช่วย ผบ.ตร.
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันด้วยว่า จะไม่มีเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิและสังคมมองว่าตนก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย พร้อมระบุจะมีการถอนฟ้องคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น คดีแจ้งความเอาผิดตำรวจชุดบุกค้นกุมบ้านพัก กว่า 200 นาย ซึ่งมีนายตำรวจยศพลตำรวจเอกถูกแจ้งเอาผิดด้วย 2 นาย และคดีฟ้องหมิ่นประมาท พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่วนกรณี พล.ต.ต.นำเกียรติแถลงเส้นเงิน BNK Master ว่ามี ภรรยา, พี่สาว และคนใกล้ชิดนายตำรวจยศสูง ก็จะต้องมีการตรวจสอบวินัย อีกทั้งกรณีนี้ ยังเป็นแค่การพูด ไม่มีตัตน ส่วนลูกน้องตน 8 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ และถูก ผบ.ตร. สั่งมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ก็จะต้องช่วยราชการต่อไป ทั้งนี้ ย้ำว่า นั่งแถลงวันนี้ ไม่ใช่ ตร.การละคร ไม่ใช่อีเว้นท์
เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังแถลงข่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่างยกมือไหว้แสดงความเคารพและยืนชิดกันเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เอามือโอบเอว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้ามาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอ งผบ.ตร.รักษาการ ผบ.ตร.แทน
ซึ่งนายเศรษฐา ได้กล่าวถึงกรณีที่มีคำสั่งดังกล่าวว่า เนื่องจากมีประเด็นด้านการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เรื่องคดีความทั้งหลาย ซึ่งต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้ด้วยความเป็นธรรม ไม่มีการแทรกแซง พร้อมยืนยันว่า ทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่เพื่อให้การบริหารราชแผ่นดิน เป็นไปด้วยความสะดวก จึงขอโอนท่านทั้งสองมาช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เป็นเวลา 60 วัน ระหว่างที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง “เป็นการชั่วคราวและไม่ได้เป็นการลงโทษ เงินเดือน และทุกอย่างยังเหมือนเดิม”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ได้นำหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ครั้งที่ 2 ไปส่งมอบให้ที่บ้านย่านวิภาวดี 60 หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยเหตุที่ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เนื่องจากยังไม่มีหนังสือคำสั่งให้ยุติการสอบสวน หรือให้โอนสำนวนไปยัง ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลาราชการ โดยเดินทางไปยัง จ.หนองคาย เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว จากนั้นจะไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ประเทศอังกฤษในวันที่ 26 มี.ค. และจะเดินทางกลับมาวันที่ 1 เม.ย. จากนั้นจะนัดแถลงข่าวชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
2.ศาลราชบุรีสั่ง “ปารีณา” ชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อม 7.6 ล้าน ภายใน 30 วัน ผลจากคดีรุกป่า ด้านเจ้าตัวโอดอย่าถามมีใครดูแลไหม ไม่มีประโยชน์กับใครแล้ว เหมือนลอยน้ำอยู่คนเดียว!
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดราชบุรีได้มีคำบังคับให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรี ให้กับสำนักงาน กกต.ผู้ฟ้องคดี จำนวน 7,673,243.38 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงิน 7,251,091.21 บาท นับถัดจากวันฟ้อง วันที่ 19 ก.ค.66 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ น.ส.ปารีณาดำเนินการภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับคำสั่ง ถ้าไม่ปฏิบัติตามภายในระยะเวลา หรือเงื่อนไขดังกล่าว จะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับและจำขัง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทั้งนี้ ศาลได้ปิดหมายคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มี.ค.หลังไม่มีผู้รับโดยชอบ
สำหรับคำบังคับชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว เนื่องจากหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า น.ส.ปารีณาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณี น.ส.ปารีณา เข้ายึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนโดยมิชอบในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711-2-93 ไร่ จึงมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง สส. นับจากวันที่ 25 มี.ค.2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ น.ส.ปารีณาตลอดไป ทำให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 ราชบุรีแทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 21 พ.ค.65 และสำนักงาน กกต.ได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ น.ส.ปารีณา ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว
วันต่อมา (19 มี.ค.) น.ส.ปารีณา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “#ยุติธรรม เมื่อข่าวปารีณาพุ่งเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจอันดับ 1 ของวันนี้ และมีสื่อมวลชนโทรฯ มาสอบถามรายละเอียดเยอะ เลยขอแจงว่า ทั้งทนายและปารีณาไม่ได้ไปฟังคำพิพากษา แต่กำลังจะไปคัดคำพิพากษาและชี้แจงรายละเอียดในรายการคุยแซ่บโชว์และโพสต์เฟซบุ๊กในวันพรุ่งนี้ (เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาที่กำลังเรียนกฎหมาย ยินดีไปบรรยายตามสถาบันศึกษากรณีคดีเก่าจริยธรรมด้วย)
“สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง และขอให้เลิกถามว่ามีใครดูแลไหม เพราะไม่ได้มีประโยชน์กับใครแล้ว ลอยอยู่ในน้ำคนเดียว ไม่มีแม้แต่แพให้เกาะนะคะ ขอให้สังคมตั้งคำถามที่มีประโยชน์มากกว่านี้ เช่น เรื่อง #ความยุติธรรม
“ขออภัยต้องงดสัมภาษณ์เนื่องจากทนายแจ้งว่า คดียังไม่สิ้นสุด ยังมีอุทธรณ์ ฎีกา และไม่ควรให้สัมภาษณ์ เพราะอาจเป็นการละเมิดอำนาจศาล จึงขอแจ้งว่า ของดสัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีนะคะ”
3. "หยก" ผู้ต้องหา ม.112 ประกาศผ่านเฟซ ยุติกิจกรรมทางการเมือง อยู่บ้าน หนุนวงการเพลง-เรียน กศน.!
วันนี้ (23 มี.ค.) นางสาวธนลภย์ หรือหยก เยาวชนอายุ 15 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง และผู้ต้องหา ม.112 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanalop Phalanchai ว่า “ยุติการเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองแล้วค่าา อยู่กับที่บ้านเรียบร้อย สนับสนุนวงการดนตรี + กศน.”
ทั้งนี้ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น เห็นด้วยและยินดีกับการตัดสินใจของหยกเป็นจำนวนมาก พร้อมอวยพรให้โชคดีกับเส้นทางที่เลือก และมีความสุขกับเส้นทางของตนเอง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หยกได้ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มทะลุวัง ตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยได้ออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” แกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายให้ยกเลิกมาตรา 112
สำหรับการเคลื่อนไหวที่ทำให้หยกเป็นที่รู้จัก เช่น ร่วมกิจกรรมวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ที่ลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ทำให้ถูกออกหมายเรียกไปรับทราบข้อหาตามมาตรา 112 และได้ร่วมในเหตุการณ์พ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เป็นต้น
ส่วนทางด้านการเรียนนั้น หยกจบมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ และสอบเรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเดิม แต่หยกไม่ได้เข้ารายงานตัวให้ครบถ้วนตามขั้นตอน รวมทั้งใช้เวลาออกไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับ “บุ้ง ทะลุวัง” เป็นส่วนใหญ่ จึงไม่สามารถเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการได้ กิจกรรมที่ทำให้หยกเป็นที่จับจ้องของสังคม คือการเรียกร้องเครื่องแต่งกายเสรีไปโรงเรียน ด้วยการแต่งชุดไปรเวท และการย้อมผม รวมถึงวีรกรรมบุกปีนรั้วเข้าไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ประท้วงให้รับตนเองเข้าเรียน หลังถูกประกาศสิ้นสภาพนักเรียน เพราะไม่ได้มามอบตัว และยังมีวีรกรรมโดดขวางรถบัสทัศนศึกษาของเพื่อนร่วมชั้น จนเพื่อนต้องมาห้ามปรามและขอร้องให้หยกลงจากรถ เพราะไม่ได้จ่ายค่าเทอมและค่าเรียน จึงไม่มีสิทธิเดินทางไปร่วมทริปด้วย
นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งประธานสภาเด็กและเยาวชนเขตกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา หยกได้ลงสมัครในเขตพระนครแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้มา 7 คะแนน หรือ 7.87% ของผู้ใช้สิทธิ ในวันนั้นหยกได้โพสต์ข้อความขอบคุณผู้ลงคะแนน พร้อมบอกว่าไม่เสียใจ และสิ่งที่อยากทำคืองานเพลง อยากทุ่มเวลาให้งานเพลงมากกว่า เพราะงานเพลงเป็นอะไรที่หยกมีความสุขกับมันมากที่สุด
4. ศาลยกฟ้อง "ดีเจแมน-ใบเตย" คดีเหยื่อ Forex-3D ฟ้องฉ้อโกง ด้าน "ดีเอสไอ" แจงเป็นคนละคดีกับที่ดีเอสไอสอบสวน อยู่ระหว่างศาลนัดสืบพยาน!
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษาสำนวนคดีย่อยที่นางพิกุล บำนิล, นายประสิทธิชัย วิวัฒน์ ผู้เสียหายบางส่วน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลิย จำกัด, นายอภิรักษ์ โกฏธิ ผู้บริหาร Forex-3D, นายกิตติเซษฐ์ หรือสรายุทช ไชยเดช, บริษัท มิติ เพย์ จำกัด, นายศิษฎ์ธนามย์ โพธิ์เงิน, นายสุภิญโญ มิสมปราชญ์, นายนิโก โวอุดา, นายพัฒนพล มันทะขิน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย จำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐานผิดสัญญาผู้ไม่มีชื่อ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
โดยศาลพิพากษายกฟ้องคดีส่วนอาญา ส่วนคดีแพ่งให้จำเลยที่ 1, 2, 4 ร่วมกันชำระเงิน 1,755,723.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 24 ส.ค.2563) ไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.2564 หลังจากนั้นให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท คำขอนอกจากนี้ให้ยก
ด้าน น.ส.สุธีวัน หรือใบเตย พร้อมนายอมร กุศล ทนายความ ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า คดีนี้เป็นคดีที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องดําเนินคดีส่วนบุคคล ซึ่งเป็นคนละสํานวนกับคดีที่อัยการยื่นฟ้อง โดยเป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ซึ่งทางทนายจะนําหลักฐานดังกล่าวที่ศาลยกฟ้องในวันนี้ ไปใช้ในสํานวนหลักของดีเอสไอที่ศาลนัดสืบพยานเดือน ก.ค. หลังจากนี้ทีมทนายจะพยายามยื่นขอประกันตัวดีเจแมนให้ได้ ส่วนการยื่นอุทธรณ์เป็นสิทธ์ของโจทก์ยื่นได้ ตนไม่ขอก้าวล่วงในประเด็นนี้ ส่วนการยื่นขอความเป็นธรรมเรื่องการชดใช้เงินเยียวยา อยู่ระหว่างการปรึกษาครอบครัวและทีมทนาย
ใบเตยกล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมและตัดสินว่าตนบริสุทธิ์และขอบคุณที่ยังมีตราชั่งความยุติธรรม ก่อนหน้านี้ไม่เคยออกรายการที่ไหนมาก่อน เพื่อรอคําตัดสินในวันนี้ที่เป็นบทพิสูจน์ของชีวิตจริงๆ และขอบคุณทางทนายที่สู้ด้วยเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มี ผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงที่ยังให้โอกาสตนเอง โดยหลังจากนี้จะตั้งใจกลับไปทํางานเต็มที่และจะเลี้ยงดูลูกให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เจอดีเจแมนหรือไม่ ใบเตย กล่าวว่า ดีเจแมนรู้คําตัดสินศาลในวันนี้แล้ว ซึ่งมีความดีใจเป็นอย่างมากและได้มีการพูดคุยพร้อมฝากความคิดถึงไปยังลูกอีกด้วย
ขณะที่แม่ของดีเจแมน เผยว่า ตนขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม เพราะมี่ผ่านมาลูกถูกตัดสินในโลกโซเชียลว่าทําผิด ซึ่งตนไปเยี่ยมลูกเกือบทุกครั้ง โดยดีเจแมน ยังคงมีกําลังใจที่ดีในการต่อสู้คดีต่อไป
ทั้งนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์ ปรากฎว่า รถควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจําได้ขับผ่าน โดยมีเสียงตะโกนเรียกใบเตยหลายครั้ง เมื่อใบเตยทราบว่าเป็นเสียงของดีเจแมน ได้ยกมือโบกพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม
อนึ่ง สำหรับคดีนี้ โจทก์ได้ยื่นฟ้องบริษัท อาร์เอ็มเอส แฟมิเลีย จำกัด กับพวกรวม 9 คน ซึ่งมีดีเจแมน เป็นจำเลยที่ 8 และใบเตย เป็นจำเลยที่ 9 โดยอ้างว่า ทั้งสองคนเป็นผู้สนับสนุน เหตุเกิดเมื่อปี 2561 โดยโจทก์ฟ้องว่า บริษัทดังกล่าวได้ประกาศชักชวนให้ลงทุนในแชร์ฟอเร็กซ์ ส่วนใบเตยยินยอมให้ใช้ชื่อในการชักชวนให้ร่วมลงทุน จนโจทก์หลงเชื่อถูกหลอกไป 5.5 ล้านบาท ซึ่งจำเลยส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ วันเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกเอกสารชึ้แจงว่า คดีที่ศาลยกฟ้อง น.ส.สุธีวัน หรือใบเตยนั้น เป็นเรื่องที่ราษฎรซึ่งเป็นผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ FOREX-3D เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาโดยตรงซึ่งสามารถทำได้ตามกฎหมาย และเป็นคนละคดีกับที่ดีเอสไอทำการสอบสวน
โดยในส่วนของดีเอสไอ เป็นการดำเนินคดีอาญาตามคำแนะนำของพนักงานอัยการ โดยเป็นคดีพิเศษซึ่งมีผู้ต้องหาทั้งหมด 16 คน รวมทั้ง น.ส.สุธีวันด้วย มูลค่าความเสียหายในคดี 2,489 ล้านบาทเศษ จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาแล้ว คดีอยู่ระหว่างการนัดสืบพยาน
5. ศาลกาญจนบุรีพิพากษาจำคุก "ครูปรีชา" 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีฟ้องเท็จกลั่นแกล้งให้ "หมวดจรูญ" ได้รับโทษอาญา กรณีหวย 30 ล้าน!
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา อายุ 55 ปี และทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา ในความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา จากกรณีครูปรีชาและทนายฟ้องร้องหมวดจรูญ ปมถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ รวมเงินรางวัล 30 ล้านบาท ซึ่งมีการต่อสู้คดีกันมาหลายปี จนศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดว่า ครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของสลาก
ทั้งนี้ ลุงจรูญเดินทางมาศาลพร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ขณะที่ครูปรีชา ชู 2 นิ้ว ก่อนขึ้นไปรับฟังคำตัดสินของศาล
ต่อมา หลังฟังคำพิพากษา นายษิทรา เผยว่า ศาลมีคำพิพากษาจำคุกครูปรีชา 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2461/2564 ในข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกครูปรีชา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่ครูปรีชาให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของครูปรีชาที่ถูกฟ้องด้วย ศาลยกฟ้อง
หลังครูปรีชาถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ทนายของครูปรีชาได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว โดยได้เช่าหลักทรัพย์จากบริษัทแห่งหนึ่งในวงเงิน 75,000 บาท ในการยื่นขอประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ทั้งนี้ ทนายษิทราได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในวันเดียวกันว่า "วันนี้ที่รอคอย ครูปรีชาถูกศาลตัดสินจำคุกสองปีไม่รอลงอาญา เหตุการกระทำมีลักษณะทำเป็นขบวนการ กระทบต่อกระบวนการยุติธรรม ชดใช้กรรมไปก่อนคดีแรก พวกเราสู้กันมานาน ไม่เคยคิดยอมแพ้ เพราะอยากสร้างมาตรฐานให้เห็นว่าการกระทำแบบนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคนตั้งใจกระทำผิด ก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ต้องได้รับโทษ สถานีต่อไปพวกพยานที่เบิกความเท็จ อย่าคิดว่าจะรอด"