อสส.ส่อแววไม่คืนสำนวน ตร.พันเว็บพนันให้ ป.ป.ช. พบหลักฐานโยงเงินบัญชีม้า

วันนี้ (17 มี.ค.) จากกรณีตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องนำหมายเรียกของ สน.เตาปูน ไปแจ้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และแปะไว้หน้าบ้านพักซอยวิภาวดีรังสิต 60 ข้อหาจากบัญชีม้าเว็บพนัน BNK MASTER นั้น และพบว่าบัญชีม้าในเว็บพนันนี้ทราบว่า พ.ต.ท.นายหนึ่งที่ใกล้ชิดบิ๊กตำรวจนำมาใช้ชำระค่าตั๋วเครื่องบินให้เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระบางแห่งให้ช่วยเหลือด้านเอกสารที่ต้องแสดงต่อองค์กร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีข้างต้น นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. 3 ราย คือ "นาย ส., นาย จ. และ นางสาว อ." ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าให้ความช่วยเหลือในการตกแต่งพยานหลักฐานประกอบคำชี้แจงแก่บิ๊กตำรวจนายหนึ่ง ในการจัดทำเอกสารเพื่อยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสำนักงาน ป.ป.ช. โดยทั้ง 3 รายจะมีความผิดตาม พ.ร.ป.ปปช. มาตรา 172 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยตอนนี้ ป.ป.ช.รอตำรวจ บก.ปปป.ส่งรายงานการสอบสวนมาให้เพื่อจะพิจารณาลงโทษทางวินัยและทางอาญาต่อไปนั้น

แหล่งข่าวจากพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า กรณีนี้มาจากการขยายผล พ.ต.ท.นายหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนัน BNK MASTER และยังเป็นคนใกล้ชิดบิ๊กตำรวจนายดังกล่าวนั้น พบว่าช่วงต้นปี 2565 พ.ต.ท.นายนี้ประสานงานทางแอปพลิเคชันแชตไลน์กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ขอให้ส่งข้อมูลส่วนตัว เช่น สำเนาบัตรประชาชน, ใบตรวจโรคโควิด-19 เพื่อไปจองตั๋วเครื่องบินเดินทางไปจัดทำบัญชีทรัพย์สินฯ ของบิ๊กตำรวจ

เนื่องจากการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.มีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีนาย ส.เป็นหัวหน้าทีม แบ่งงานให้คนอื่นๆ และประสานงานกับ พ.ต.ท.เป็นระยะ ทีมพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินโดยแบ่งหน้าที่กันทำ

รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนกล่าวว่า ตอนนี้รอผู้ใหญ่ใน บก.ปปป. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกับคดีเว็บพนัน "มินนี่" แม้ พ.ต.ท.นายนี้จะเป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันมินนี่ด้วยก็ตาม แต่การที่ พ.ต.ท.นายนี้ใช้เงินจากบัญชีม้าของคดีเว็บพนัน BNK ไปดูแลค่าเดินทางให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.นั้น หลักฐานนี้เป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นคนละคดี และแยกการดำเนินคดีได้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมของพนักงานอัยการที่มีการประชุมกันเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการประชุมตามที่คณะทำงานของอัยการสูงสุดขอความเห็นจากอธิบดีสำนักต่างๆ และผู้ใหญ่ในสำนักงานอัยการสูงสุดบอกว่าให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง เพราะกังวลว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้ง อีกทั้งยังวางแนวทางที่จะเป็นการกำหนดแนวทางการทำงานของอัยการในอนาคต โดยวันนั้นที่ประชุมอภิปรายอย่างกว้างขวางในหลายประเด็น

กรณีที่ ป.ป.ช.จะขอสำนวนคืน (คดีเว็บพนันมินนี่ส่วนที่หนึ่งและส่วนที่สอง)ในส่วนที่เห็นว่าควรคืนให้ ป.ป.ช.มีสองเสียง นอกนั้นเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าระเบียบของ ป.ป.ช.ไม่สามารถใช้กับสำนวนที่อัยการ รับพิจารณาแล้ว อีกทั้งเป็นการขัดหลัก nobisinidem จะทำให้คดีเสียหาย และมีการยกฎีกาที่ศาลฎีกาวางหลักกฎหมายเฉพาะยกเว้นกฎหมายทั่วไป ไม่มีการใช้เรื่อง พ.ร.ป.สูงกว่า พ.ร.บ.ที่เป็นหลักที่เฉพาะไทยคิดกล่าวอ้างเอง ไม่ใช่หลักสากล