ผัวสารภาพ ฆ่าและเผา "น้องนุ่น" ที่ปราจีนฯ หลังมีปากเสียงกัน ล่าสุดพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาไหม้เกรียม สวมสร้อยข้อมือคล้ายของน้องนุ่นที่หายตัวไป
จากกรณีโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ภาพสาวรายหนึ่งหายตัวไป ซึ่งเพื่อนๆ และครอบครัวประกาศตามหาตั้งแต่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ. 2567) นายศิริชัย สามีของน้องนุ่น ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ตนพร้อมด้วย น.ส.ชลลดา และลูกวัย 1 ขวบ 2 เดือน เดินทางไปร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเลียบด่วนรามอินทรา หลังเสร็จสิ้นจากงานเลี้ยงเมื่อเวลาราว 01.00 น.ของวันที่ 18 ก.พ. 67 ตนได้ขับรถพา น.ส.ชลลดา และลูก มุ่งหน้าถนนเลียบคลองประปาเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างนั้นเกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรง เรื่องแฟนเก่าของตัวเอง และเรื่องเงินทองภายในครอบครัว ถึงขั้นตบตีกัน ทำให้น.ส.ชลลดาไม่พอใจ ตัดสินใจเปิดประตูหนีลงจากรถ 1 ครั้ง แต่ตัวเองตามกลับขึ้นรถมาได้
จากนั้น น.ส.ชลลดาพยายามหนีลงจากรถอีกหลายครั้ง จนหนีสำเร็จบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี ขณะตนกำลังชะลอรถเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เมื่อ น.ส.ชลลดาลงจากรถแล้ว เห็นวิ่งเข้าซอย ก่อนที่จะหายเข้ามุมมืด ซึ่งขณะนั้นตนไม่สามารถวิ่งตามไปได้เนื่องจากลูกอยู่ในรถ เชื่อ น.ส.ชลลดาวิ่งทะลุซอยดังกล่าวเพื่อขึ้นรถแท็กซี่
ต่อมาวันรุ่งขึ้นตนพยายามติดต่อหา น.ส.ชลลดา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อสอบถามเพื่อนสนิทที่คาดว่า น.ส.ชลลดาจะไปอยู่ด้วย ก็ไม่มีใครพบ จึงตัดสินใจแจ้งญาติผู้ใหญ่ให้รับทราบ
นายศิริชัยยอมรับว่า ที่ผ่านมาภรรยาเคยมีพฤติกรรมหนีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยทุกครั้งไม่เคยแจ้งว่าหนีไปที่ใด และแม้ตนจะเคยทะเลาะกับภรรยาหลายครั้งจนถึงขั้นเอาเท้าเหยียบหน้า น.ส.ชลลดา แต่ทุกครั้งก็จะเป็นฝ่ายง้อ น.ส.ชลลดาเสมอ ยืนยันไม่ได้ฆ่าอำพราง น.ส.ชลลดา และสร้างเรื่องตามหาแฟนตามกระแสข่าว เชื่อปัจจุบัน น.ส.ชลลดายังมีชีวิต พร้อมต้องการให้หายงอนและรีบกลับมาหาด่วน
ต่อมาตำรวจเค้นสอบนายศิริชัยก่อนยอมรับสารภาพว่าได้ลงมือสังหารน้องนุ่น เหตุมีปากเสียงกัน โดยใช้หินทุบศีรษะ ก่อนนำศพยัดท้ายรถเก๋งไปทิ้งและเผาที่ จ.ปราจีนฯ
ขณะที่มีรายงานพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาไหม้เกรียมที่จังหวัดปราจีนฯ คล้ายกับเป็นโครงกระดูกของนุ่น เนื่องจากพบว่าที่ข้อมือสวมสร้อยทองคล้ายนุ่นที่หายตัวไป