xs
xsm
sm
md
lg

GISTDA เผยจุดความร้อนไทยพุ่งกว่าพันจุด ขึ้นนำอันดับ 1 และพบในป่าอนุรักษ์มากที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



GISTDA เผยไทยพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นนำอันดับ 1 จำนวน 1,189 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 356 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 349 จุด พื้นที่เกษตร 212 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 148 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 113 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ กาญจนบุรี 289 จุด

วันนี้ (7 ก.พ.) เพจ “GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ไทยพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นนำอันดับ 1 จำนวน 1,189 จุด (นับว่าสูงสุดตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นมา) ตามด้วย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 947 จุด กัมพูชา 706 จุด เวียดนาม 296 จุด และ สปป.ลาว 291 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 356 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 349 จุด พื้นที่เกษตร 212 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 148 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 113 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ กาญจนบุรี 289 จุด

ทั้งนี้ จากการรวบรวมจำนวนจุดความร้อนในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2567 พบแล้วกว่า 11,704 จุด ซึ่งคิดเป็น 31.15% โดยลดลงจากปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกันที่มีจุดความร้อนจำนวน 17,000 จุด

ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10.00 น. พบว่าในหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร หนองคาย ชัยนาท นครพนม และสกลนคร อยู่ระดับสีแดงที่ส่งผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจแล้ว ในขณะที่หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครอยู่ระดับสีเขียวและสีฟ้า อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับสถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่า หมอกควัน ส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ ทั้งนี้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน "#เช็คฝุ่น"

คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น