อ.เจษฎ์เผยภาพแมลงบนผลสตรอว์เบอร์รีน่าจะเป็น "เพลี้ยอ่อน" ยันไม่มีพิษร้ายแต่ไม่ควรกินมันเข้าไป

อาจารย์เจษฎ์ไขข้อสงสัย หลังพบไวรัลภาพแมลงบนผลสตรอว์เบอร์รีนี้ คาดน่าจะเป็นเพลี้ยอ่อน ไม่ได้เป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกาย เพียงแต่ถ้าทำได้ก็ไม่ควรกินมันเข้าไป อย่างน้อยก็ควรจะทำความสะอาดผลสตรอว์เบอร์รีก่อน

วันนี้ (4 ก.พ.) เพจเฟซบุ๊ก “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” หรือ ศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า "แมลงบนผลสตรอว์เบอร์รีนี้น่าจะเป็น เพลี้ยอ่อน ครับ" มีคำถามหลังไมค์ถึงกรณีที่มีสมาชิกของกลุ่มเฟซบุ๊ก "นี่ตัวอะไร" ท่านหนึ่ง โพสต์ภาพที่น่าจะเป็นการเอาผลสตรอว์เบอร์รีมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ เห็นแมลงหลายขา ตัวหนึ่งบนสตรอว์เบอร์รี พร้อมเขียนแคปชันบอกว่า “ตัวอะไรเหรอคะ ส่องเจอใน strawberry กินไปหลายลูกแล้วไม่ได้ล้าง เอามานั่งส่องดูเล่นๆ ก็ดันเจอ”

ซึ่งถ้าดูจากพวกศัตรูพืชที่พบบ่อยๆ บนสตรอว์เบอร์รี เช่น เพลี้ยไฟ ไรสองจุด เพลี้ยอ่อน หนอนด้วงขาว หนอนกระทู้ผัก ทาก ฯลฯ ตัวที่เห็นผ่านกล้องจุลทรรศน์นั้นก็น่าจะเป็น "เพลี้ยอ่อน" ครับ จากลักษณะเด่นที่ด้านท้ายของตัวเพลี้ยอ่อนมีท่อยื่นออกมา 2 ท่อ

เพลี้ยอ่อน : เพลี้ยอ่อนในสตรอว์เบอร์รี เป็นแมลงปากดูด จะดูดน้ำเลี้ยงของใบ ก้านใบ ทำให้ใบหยิกย่น พืชจะสังเคราะห์แสงลดลง ทำให้ชะงักการเจริญเติบโต ความสูญเสียระดับเศรษฐกิจคือเมื่อพบตัวเต็มวัยมากกว่า 45 ตัวต่อใบ

ส่วนอีกตัวที่ไม่น่าใช่ตัวที่อยู่ในรูป แต่พบได้บ่อยครั้งเหมือนกัน คือ ไรสองจุด ครับ

ไรสองจุด : ไรสองจุด จะเข้าทำลายโดยดูดกินน้ำเลี้ยง โดยเฉพาะในส่วนใบบริเวณใต้ใบ ทำให้บริเวณที่ถูกทำลายมีลักษณะกร้าน ใต้ใบจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ทำให้สตรอว์เบอร์รีชะงักการเจริญเติบโต ต้นแคระแกร็น ให้ผลผลิตน้อย ถ้าเข้าทำลายผล จะทำให้ผิวของผลกร้านไม่เป็นที่ต้องการของตลาด และมักพบการระบาดในช่วงที่อากาศแห้งความชื้นต่ำ ความสูญเสียระดับเศรษฐกิจคือเมื่อพบตัวเต็มวัยมากกว่า 20 ตัวต่อใบ

เพลี้ยอ่อนบนสตรอว์เบอร์รีนั้น ถ้าเผลอรับประทานเข้าไปก็ไม่ได้เป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกายของเรา เพียงแต่ถ้าทำได้ ก็ไม่ควรจะกินมันเข้าไป อย่างน้อยก็ควรจะทำความสะอาดผลสตรอว์เบอร์รี ล้างออกไปให้มากที่สุดด้วยน้ำสะอาด หรือแช่น้ำผสมเบกกิ้งโซดา (อัตราส่วนผงเบกกิ้งโซดา ครึ่งช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 10 ลิตร) แช่ไว้ 15 นาที ก่อนล้างด้วยน้ำไหลผ่านให้สะอาดอีกครั้ง (วิธีนี้ยังช่วยลดสารเคมีตกค้างที่อยู่ในสตรอว์เบอร์รีด้วย) และถ้าคิดในแง่ดี สตรอว์เบอร์รีที่ซื้อมา แล้วเจอเพลี้ยปนอยู่ด้วย ก็แสดงว่าไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลงมากนักนะครับ”

คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ