"อัญชะลี ไพรีรัก" กล่าวผ่านแนวหน้าออนไลน์ แจง "กนก รัตน์วงศ์สกุล" กล่าวว่าจะอุทธรณ์ ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกันก่อน หลังศาลยกฟ้องคดีไอซ์หมิ่นประมาทสมัยอยู่เนชั่น รอฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับมาว่าจะประชุมยังไงก่อน เผยถูกแฟนคลับกนกตำหนิ เปรียบตำบลกระสุนตก ย้ำโตป่านนี้แล้วไม่ทำอะไรแบบเด็กๆ
วันนี้ (30 ม.ค.) จากกรณีที่ศาลแขวงพระนครเหนือพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ยกฟ้องกรณีที่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก หรือปอง ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวแนวหน้าออนไลน์ และนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวท็อปนิวส์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กรณีที่ น.ส.รักชนกตะโกนพูดกับผู้สื่อข่าวในการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ที่บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 เมื่อครั้งที่ น.ส.อัญชะลี และนายกนก เป็นผู้ประกาศข่าวที่สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี โดยศาลเห็นว่าโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ คำพูดอาจจะมีความหยาบคายอยู่บ้างแต่ก็เป็นการติชมโดยสุจริต
ขณะที่นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวท็อปนิวส์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวท็อปนิวส์ว่า ยืนยันว่าตนเองจะยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน เพราะกล่าวหาว่าตนนำเสนอเฟกนิวส์ (Fake News) ทำให้ตนเองเสียหาย ตนเคารพคำตัดสินของศาล แต่เห็นว่าสิ่งที่ น.ส.รักชนกทำไม่ใช่การติชม ไม่ใช่แนะนำ และเป็นการกล่าวหา ว่าตนและ น.ส.อัญชะลี ทำให้สังคมเกลียดชัง จัดรายการทำให้ประชาชนมีแต่เกลียดชังกัน และจัดรายการข่าวที่มีแต่เฟกนิวส์ จากนี้คนดูก็จะเชื่อได้ว่าตนและ น.ส.อัญชะลี จัดรายการทำให้สังคมแตกแยกเกลียดชังกัน กนกจัดรายการมีแต่เฟกนิวส์ และตนจะอยู่ได้อย่างไร ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวแนวหน้าออนไลน์ กล่าวในรายการแนวหน้าข่าวเที่ยง ทางยูทูบแนวหน้าออนไลน์ ว่า คดีนี้เป็นคดีที่มีโจทก์ 2 คน คือนายกนกและตน เพราะฉะนั้นการจะประกาศอะไรออกไป ต้องเคารพคำตัดสินของศาลก่อน เพราะตัดสินภายใต้พระปรมาภิไธย และการประกาศว่าจะทำอะไรต่อไป ต้องประชุมกับทีมกฎหมายและนายกนกก่อน ซึ่งทีมกฎหมายและนายกนกยังไม่ได้มาคุยกับตนเลย ทั้งที่ตนรอทั้งวัน ถึงกับต้องประกาศตามหาบนเฟซบุ๊กเลย กล่าวกันตามตรงว่า ตอนที่ออกจากสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ตนไม่ได้โกรธกันเลย ยังคุยกัน ยังติดต่อกัน ที่มาทำที่นี่ (แนวหน้าออนไลน์) ก็เพราะอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่จากงานที่ทำมาตลอด เป็นเรื่องที่ถ้าหากคิดว่าจะทำอะไรต่อไปในคดีความต่างๆ ฝ่ายกฎหมายหรือทุกคนที่อยู่ในคดีนี้ต้องคุยกันก่อน ถึงจะมีประกาศอะไรออกไป
"มันไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งคำ ไม่ใช่เพียงแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้า แต่มันต้องคุยกัน เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วเราจึงมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกไป เพราะเราต่างอายุมากด้วยกันทั้งคู่ เราทำงานมาตลอด ชีวิตของเรา เราไม่เคยหยุดการทำงานเลยแม้แต่วันเดียว แล้วเราทำงานเราอยู่แถวหน้ามาตลอด ดังนั้นเราจะตอบอะไร ทุกคำสำคัญยิ่ง มันต้องประชุมกับทีมกฎหมาย กับคุณกนกก่อน ไม่ใช่ว่าเราจะไม่พูดอะไรเลย ไม่ใช่ ถูกไหม ถ้าคุณจะทำอะไรคุณต้องคุยกับทีมกฎหมาย คุยกับคุณกนกก่อน คุณกนกก็ต้องคุยกับพี่อัญชะลีด้วย ทีมกฎหมายก็ต้องโทร.มาหาเราด้วย แต่ทั้งทีมกฎหมายและคุณกนกยังไม่ได้โทร.มาหาเราเลย" น.ส.อัญชะลีกล่าว
น.ส.อัญชะลีกล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังเสร็จงานเลี้ยง โทร.ตามทั้งหนูนา (น.ส.พัชร์สิตา บวรรัฐฐานันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบริหาร สำนักข่าวท็อปนิวส์) ไม่รับสาย ทั้งใครต่อใคร กระทั่งเช้าวันนี้ นายสถาพร เกื้อสกุล ผู้ประกาศข่าวสถานีข่าวท็อปนิวส์ ติดต่อมาบอกว่า เดี๋ยวผมจะจัดการให้ ประสานงานนายกนกให้ สักพักนางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล ภรรยานายกนกโทร.มาก็คุยกัน ตนบอกว่า ทีมกฎหมาย และนายกนกอยู่ไหน มาคุยกัน ต้องมานั่งคุยกันเรื่องนี้ว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไป มันสะใจไม่ได้ แต่มันคือเรื่องจริงที่เราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ก่อนจะด่าใครให้ปรึกษากันก่อน พูดอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ก่อนที่เราจะทำอะไรทุกอย่างต้องปรึกษาหารือกันก่อน ถ้าคดีนี้มีตนคนเดียวก็ตอบได้ แต่คดีนี้มีโจทก์สองคน เรามีทีมกฎหมาย ทุกครั้งเราขึ้นศาล ไม่ว่าจะคดีพันธมิตรหรือ กปปส. พวกเราทุกคนจะต้องประชุมกับทีมกฎหมาย โดยต้องหยุดงาน 1 วันเพราะไม่รู้ว่าคดีจะไปถึงไหน และต้องหยุดงานอีก 1 วันเพื่อประชุมกับทีมกฎหมายตลอด เราจะพูดจาอะไรโดยที่ไม่ประชุมกับทีมกฎหมายไม่ได้เลย เพราะเราโตกันป่านนี้แล้ว เราไม่ทำอะไรแบบเด็กๆ
"คำพูดที่ว่าก่อนจะด่าใครให้ปรึกษากันก่อน เราไม่เคยด่าใคร เราเป็นบุคคลสาธารณะ เราอยู่ในแสงไฟ พวกคุณเห็นเรา พวกคุณต่างหากที่เราไม่เห็นคุณ อย่างเมื่อวานนี้หลายเพจที่ติดแฮชแท็ก #ทีมกนก แล้วก็ตำหนิพี่ปอง ก็เลยบอกว่า เราอยู่ตรงนี้มาตั้งนาน ตั้งแต่อายุ 21 ยัน 60 เราอยู่อย่างนี้ เราเคยทำยังไง พูดอะไร วันนี้เรา 60 เราก็ทำอย่างนั้น พูดอย่างนั้น" และว่า ที่นายกนกกล่าวว่าจะอุทธรณ์ เมื่อเช้าได้คุยกับนางลักขณาว่า ชะลอสักหนึ่งก้าว ฝ่ายกฎหมายอยู่ไหนมาคุยกัน ฝ่ายกฎหมายสำคัญที่สุด เมื่อวานนี้มีคนถามว่านายกนกกล่าวว่าจะอุทธรณ์ แล้วตนล่ะ กระสุนมาตกที่ตน ใครอย่ามาพูดอย่างนี้ รอฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับมาว่าจะประชุมที่ไหน วันไหน ได้เสมอ และจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว
