xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้อง “ไอซ์ รักชนก” คดีหมิ่นฯ “เจ๊ปอง-กนก” ชี้ โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ ติชมได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลาแขวงพระนครเหนือ ยกฟ้อง “รักชนก ศรีนอก” ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล คดีหมิ่นประมาท “เจ๊ปอง-กนก” กรณีวิจารณ์การทำงานของสื่อเมื่อปี 64 ชี้ โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ ติชมได้

วันนี้ (29 ม.ค.) ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดฟังคำพิพากษาเวลา 09.00 น. คดีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ นายกนก รัตน์วงศ์สกุล 2 พิธีกรจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ช่องท็อปนิวส์ จากกรณีปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชนในการชุมนุม #ม็อบ 6 มีนา ของกลุ่มรีเด็ม (REDEM) บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 นั้น

ล่าสุด น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ศาลยกฟ้อง คดีหมิ่นประมาท กนก-เจ๊ปอง พิธีกรช่องท็อปนิวส์ ด้วยโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะและเป็นการติชมโดยสุจริต”

คดีดังกล่าว โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ขณะจำเลยร่วมชุมนุมทางการเมืองทำกิจกรรมที่หน้าศาลอาญา จำเลยได้พูดใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อบุคคลที่สามด้วยการตะโกนพูดกับผู้สื่อข่าวที่กำลังรายงานสดการชุมนุมถ่ายทอดออกอากาศหมายถึงโจทก์ทั้งสองเป็นพิธีกรยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดกันเอง นำเสนอเฟกนิวส์ทุกอย่าง ข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ ไม่เป็นความจริง จากกรณีปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชน เมื่อ 6 มีนาคม 2564 ของม็อบกลุ่มรีเด็ม ที่บริเวณหน้าศาลอาญา


โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา ต่อมา น.ส.รักชนก ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลวินิจฉัยว่าคำพูดอาจจะมีความหยาบคายอยู่บ้างแต่พิเคราะห์พิจารณาแล้วเป็นการติชมโดยสุจริต คดีนี้โจทก์ทั้งสองได้เรียกค่าเสียหายมาคนละ10 ล้านบาท แต่เมื่อไม่มีความผิดทางอาญาก็พิพากษาให้ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายทางเเพ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสื่อมเสียชื่อเสียงจากคดีนี้หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่ ตนมองว่า เป็นการปิดปากมากกว่า ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส.เราเป็นประชาชน เรารู้สึกว่าเราก็พูดในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เรียกร้องให้สื่อทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เพราะการที่เราจะรับรู้เรื่องเรื่องนึงแล้วส่งต่อไปทั่วประเทศ สื่อคือตัวกลางสำคัญในการส่งต่อไปให้ประชาชน สื่อมีความสำคัญต่อระบบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ถ้าสื่อไม่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่นำเสนอตรงไปตรงมา แล้วทำตัวเป็นสิ่งที่สร้างความชอบธรรมให้รัฐสามารถใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ปี 2553 หรือว่าเหตุการณ์ปี 2563-2564 ที่ผ่านมา ถ้าสื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตำรวจ สามารถใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้ คือ ประเทศนี้ประชาชนก็ไม่รู้จะไปพึ่งพาใครแล้ว ถ้าสื่อไม่ทำหน้าที่ดังนั้นเราก็รู้สึกว่าในวันที่เราพูดไปแล้วก็ยืนยันว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตวันนี้ผลคำพิพากษาก็ออกมาตามนั้น


อยากให้คำพิพากษาคดีนี้เป็นบรรทัดฐานในการพิพากษาคดีอื่นๆ ที่ประชาชนได้วิพากษ์วิจารณ์ออกไป เพราะคิดว่าในเมื่อสื่อมีพื้นที่มากมายในการนำเสนอข่าวและวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์บุคคลอย่างตรงไปตรงมาก็ควรที่จะถูกตั้งคำถามแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตได้เช่นเดียวกันยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนทุกคนที่ทำหน้าที่นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและขอให้ในอนาคตเรามีสังคมที่เป็นประชาธิปไตยมีเสรีภาพสื่อที่เรียกว่าเป็นเสรีภาพสื่อจริงๆ ในด้านแรงงานภาคสื่อมวลชนทุกคนอยากให้ได้รับสวัสดิการที่มันดีขึ้นตรงไปตรงมา มีกฎหมายที่คุ้มครองรองรับในวันที่เรียกว่าบาดเจ็บหรือว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น


เมื่อถามว่า เรื่องเสรีภาพสื่อจะมีการไปเสนอญัตติอะไรในที่ประชุมสภาหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า พยายามผลักดันก็คงกลับไปวางแผนว่าคดีนี้สามารถไปต่อยอดให้เป็นแนวทางของคดีอื่นๆ หรือสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องฟ้องกลับ จริงๆ แล้วตั้งแต่เป็น สส.ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ฟ้องประชาชนไม่ฟ้องสื่อ ไม่อยากใช้วิธีการปิดปากที่รัฐทำกับประชาชนเราคงไม่อยากเข้ามามีอำนาจแล้วก็ไปฟ้อง นอกจากคดีนี้กับคู่กรณีคดีอื่นก็ไม่มีแล้ว

ส่วนคดีความตอนนี้ น.ส.รักชนก กล่าวว่า เหลือแค่ยื่นอุทธรณ์คดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ขอบคุณศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ให้การดูแลตลอดรวมถึงกองทุนราษฎรฯ ที่เสนอจะมาประกันตัวให้






กำลังโหลดความคิดเห็น