สมาชิกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่านักรบด่านเถื่อน เข้าไปป่วนการปฏิบัติหน้าที่ เจอรองสารวัตรปราบปรามโต้กลับ มีอำนาจอะไรมาตรวจสอบตำรวจ ทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว มีคนแบบนี้เป็นล้านก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ย้ำด้วยว่าไม่กลัว ด้าน รอง ผบ.ตร.มอบเงินให้กำลังใจ ผู้การภาค 7 เตรียมดำเนินคดี พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ
วันนี้ (28 ม.ค.) บนโซเชียลฯ แชร์คลิปที่นายเล็ก โพธิ์อ่อง สมาชิกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่านักรบด่านเถื่อน ของนายเกรียงไกร ไทยอ่อน ได้จอดรถและเฟซบุ๊กไลฟ์ระหว่างที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย และจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักลอบขนอาวุธปืนเถื่อน บริเวณทางแยกต่างระดับห้วยมงคล ถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าทำอะไร นายเล็กกล่าวว่า "มาเยี่ยมชมด่านไง" ตำรวจพยายามเชิญออกจากพื้นที่เพราะมีผู้ต้องหาอยู่ แต่นายเล็กกลับไม่ยอมออก อ้างว่าทำหน้าที่ของคุณไป ตนแวะเข้ามาดูด่านในการปฏิบัติหน้าที่ และพยายามถามจี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายว่าเปิดกล้องบอดี้คาเมรา (Body Camera) ระหว่างตรวจค้นหรือไม่
จากนั้น ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ เก้าสด รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหัวหิน สอบถามว่ามีอะไร ถามว่าเป็นใคร นายเล็กจึงตอบว่า ตนชื่อเล็ก โพธิ์อ่อง สมาชิกนักรบด่านเถื่อน เข้ามาสอบถามเพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ถามว่าจุดนี้คือจุดอะไร ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า เป็นจุดสกัด นายเล็กถามว่า สกัดเร่งด่วนอะไร มีคนร้ายอยู่แถวนี้เหรอ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ ตนไม่มีเวลา มีชาวบ้านที่ต้องดูแล ไม่ได้มีหน้าที่มาตอบเรื่องแบบนี้ ตนมีหน้าที่ต้องดูความปลอดภัยคนที่อยู่ข้างทาง แม้แต่นายเล็กเอง เกิดโดนรถเฉี่ยวชนจะทำยังไง การมาแบบนี้มันไม่ถูกต้อง มีอำนาจอะไรมาตรวจสอบ นายเล็กอ้างว่าตามรัฐธรรมนูญ
ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ถ้ามีคนแบบนี้ตั้งล้านคนตำรวจก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ต้องไปถามผู้บังคับบัญชา ตนไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้เพราะนายเล็กทำผิดกฎหมาย เป็นสิทธิของตนจะมาคาดคั้นอะไรกับตน ถามว่าใช้โทรศัพท์เบอร์อะไร นายเล็กถามว่าถามทำไม ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ตนจะได้รู้ว่าคุณเป็นคนยังไง เพราะไปถามก่อนว่าจุดสกัดมีอะไร เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาถามตน ตนถามคุณได้แต่คุณไม่ตอบ ตนไม่มีสิทธิ์ถามคุณเหรอ นายเล็กถามว่ามีกล้องหรือเปล่า ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า มีอยู่ข้างลำตัว นายเล็กถามว่าเปิดหรือไม่ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า จะเปิดไม่เปิดก็เป็นสิทธิของตน คุณจะรู้ได้ยังไงว่าตนเปิดหรือไม่เปิด
จากนั้น ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ เชิญนายเล็กกลับบ้าน เพราะตำรวจจะปฏิบัติงาน แต่นายเล็กอ้างว่า คุณก็ทำงานไป ตนมีหน้าที่ตรวจสอบ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ถามว่า มีอำนาจอะไรมาตรวจสอบตำรวจ คุณเป็นนายตนเหรอ เป็นผู้กำกับการ เป็นผู้การ (ผู้บังคับการตำรวจภูธร) เหรอมาตรวจสอบตน นายเล็กอ้างว่า ไม่ได้เป็นนาย ตนเป็นประชาชน ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ประชาชนเป็นล้านมาตรวจสอบแบบนี้ตำรวจก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เขาจับอาวุธปืนเนี่ย นายเล็กอ้างว่าเป็นสิ่งที่ดี ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า ถ้าเป็นสิ่งที่ดีก็พูดให้ตำรวจหน่อย พรีเซ็นต์ภาพลักษณ์ตำรวจดีๆ หน่อย ตนอายุ 52 ธรรมะธรรโม สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน คุณไม่เป็นกลาง ตำรวจจับปืนได้คุณไม่ถ่ายให้ พรีเซ็นต์ให้ตนหน่อย ถ้าเขา (ผู้ต้องหา) เอาปืนไปยิงคนตายทำยังไง และให้กลับไป
แต่นายเล็กยังคงไม่ออกจากจุดเกิดเหตุ ยังคงถ่ายคลิปการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต่อไป ร.ต.อ.รุ่งโรจน์พยายามเข้ามาห้าม ตำรวจทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว มาเจอคนแบบนี้อีก แบบเรามากวนตำรวจ ตำรวจเขาจะไปโรงพัก นายเล็กถามว่าก็ไปสิ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ชักชวนให้นายเล็กตามไปที่โรงพัก เดี๋ยวจะพาไปหาผู้กำกับฯ ว่าทำอะไร นายเล็กอ้างว่ามีคำสั่งจาก ผบ.ตร. เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนที่จะไปตรวจค้นรถเขา (รถผู้ต้องหา) มีกล้องบอดี้คาเมราไหม มีการบันทึกภาพไหม ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ชักชวนให้ไปโรงพัก จะได้รู้ว่าการปฏิบัติหน้าที่เป็นยังไง นายเล็กกล่าวว่า ก็ทำไปสิ กลัวอะไร ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า เลิกได้แล้วนิสัยป่วนตำรวจ ถ้ามีคนแบบนี้เป็นล้านคน ตำรวจไม่ต้องทำอะไรแล้ว พ่อแม่พี่น้องเดือดร้อน จับผิดอะไร เพื่ออะไร
"จับไปเลยตำรวจตั้งด่าน เรื่องผิดกฎหมาย อาจจะผิดแค่ระเบียบของตำรวจเท่านั้นเอง จะมาจับผิดตำรวจทำไม เพื่ออะไร ถ้าเมียเราโดนคนฉุดมาเนี่ย อยากจะเจอตำรวจเหลือเกิน แล้วนี่ตำรวจเนี่ยเราทำยังไง ช่วยเหลือเมียไง เอาเลย เต็มที่เลย ผมทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่และอุ่นใจ หัวหินไม่เคยมีเด็กแว้น เด็กแก๊ง ไปเช็กได้เลย จังหวัดไหนก็ช่าง ผมไม่ทราบ แต่หัวหินไม่มีเด็กแว้นแน่นอน ตำรวจที่นี่เข้มแข็ง แล้วไม่ได้กลัวเลยพวกนักรบด่านเถื่อนเนี่ย จริง" ร.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าว
ด้านเฟซบุ๊ก "พระจันทร์ ลายกระต่าย" กระบอกเสียงของตำรวจชั้นผู้น้อย โพสต์ข้อความระบุว่า "ขอชื่นชม ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ เก้าสด ตำรวจ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ทําหน้าที่อย่างถูกต้องเข้มแข็ง สมควรเป็นแบบอย่างของตํารวจผู้ปฏิบัติ และขอประณามกลุ่มคนที่ออกป่วนการทํางานของตํารวจ เพื่อหวังทําคอนเทนต์ หายอดไลก์ ยอดแชร์ เพื่อยอดเงินบริจาคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กลุ่มของตัวเอง" และว่า "ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ท่านเห็นคลิปพวกไปป่วนด่านตรวจในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์เเล้ว ท่านรับปากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"
ขณะที่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกตัว ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ไปพบ และมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และสั่งการให้รักษามาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อีกทั้งอย่าเสียกำลังใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ.รอยกล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะตั้งด่านกำลังสกัดจับอาวุธปืนเถื่อน ซึ่งอาจจะนำไปก่อเหตุได้ แต่กลับถูกบุคคลที่แสดงตนว่าเป็นสมาชิกนักรบด่านเถื่อน ก่อกวน ป่วน ยั่วยุ เจ้าหน้าตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยการถ่ายคลิปท้าทายตำรวจนายดังกล่าว แต่นายตำรวจนายดังกล่าวได้พูดจาด้วยความอดทนต่อการยั่วยุ ซึ่งบุคคลที่อ้างว่าเป็นสมาชิกนักรบด่านเถื่อนมักจะใช้วิธีแบบนี้ในหลายพื้นที่แล้วนำคลิปมานำเสนอเพื่อดิสเครดิตตำรวจ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกมองในภาพลบอยู่บ่อยครั้ง โดยตนก็แค่ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ จับกุมอาวุธปืนได้หลายคดี โดยเฉพาะหัวหินซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล เป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจดีๆ พร้อมได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้ดูแลขวัญกำลังใจ ซึ่งทราบว่า พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ติดตามและจะดำเนินการทางกฎหมายกรณีดังกล่าวแล้ว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า นักรบด่านเถื่อน ก่อตั้งโดย นายเกรียงไกร ไทยอ่อน มีสมาชิกในพื้นที่ต่างๆ จำนวนมาก มักจะมีพฤติกรรมเฟซบุ๊กไลฟ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามด่านตรวจต่างๆ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปแบบการตั้งด่านในกลุ่มเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยมีผู้ติดตามนับหมื่นคน กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจมานานหลายปี โดยมีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกละเมิดสิทธิ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังมีนายตำรวจบางนายให้ความเคารพยำเกรงกลุ่มนักรบด่านเถื่อน เช่น พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู (ขณะนั้น) เคยนำกระเช้าผลิตภัณฑ์ดอยคำไปสวัสดีปีใหม่นายเกรียงไกรเมื่อปี 2566 กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ตำรวจชั้นผู้น้อยจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ธเนศพล แสงโชติ สารวัตรสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เคยดำเนินคดีต่อ นายเล็ก โพธิ์อ่อง ในข้อหาแจ้งความเท็จให้พนักงานสอบสวนต้องหาคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173 และ 174 เพราะนายเล็กมาร้องทุกข์ตำรวจและขอค่าพยาน แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ นายเล็กจึงแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนว่ากระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 เพื่อกดดันให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพยาน แต่พนักงานสอบสวนยืนยันว่าไม่จ่าย พ.ต.ท.ธเนศพลจึงแจ้งความกลับนายเล็กในข้อหาแจ้งความเท็จ และเรียกค่าเสียหาย ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 ให้จำคุกนายเล็ก 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ และให้นายเล็กชดใช้ค่าสินไหมที่ทำให้ พ.ต.ท.ธเนศพลเสียชื่อเสียงเป็นเงิน 80,000 บาท