พบชื่อ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยาเศรษฐา เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 19
รายงานข่าวแจ้งว่า สถาบันวิทยาการพลังงาน (วพน.) ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 19 จำนวน 96 ราย พบว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นภริยาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นหนึ่งในผู้เข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของพลังงานต่อการดำเนินชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การจัดหาพลังงานในรูปแบบต่างๆ และกระตุ้นความสนใจในการวิเคราะห์แนวทางเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในอนาคต เสริมสร้างศักยภาพในการวิเคราะห์ผลกระทบของธุรกิจพลังงานที่มีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้อย่างสร้างสรรค์ในเชิงองค์รวม เพื่อนำไปสู่การวางนโยบายด้านพลังงานและการประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน พัฒนา ริเริ่มโครงการที่เกี่ยวกับพลังงาน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสะท้อนสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างเครือข่ายผู้นำในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม เพื่อการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้วิทยาการด้านพลังงาน
โดยระยะเวลาการอบรมประมาณ 19 สัปดาห์ โดยแบ่งออกเป็น การบรรยายในห้องเรียน ระดมสมอง และทำงานกลุ่ม เรียนทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์ละครึ่งวัน รวม 16 วิชา กิจกรรมศึกษาดูงาน แบ่งเป็นในประเทศ 2 ครั้ง แหล่งผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย หรือบนบก และกิจการพลังงานในจังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นที่ตั้งทางธุรกิจพลังงานที่น่าสนใจ ครั้งละ 1-2 วัน และต่างประเทศ 1 ครั้ง (ไม่บังคับ) เน้นประเทศที่มีการใช้พลังงานและนวัตกรรมด้านพลังงานที่น่าสนใจ มีความหลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการจัดทำโครงการกลุ่มด้านพลังงานและการนำเสนอโครงการ 2-3 วัน
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมอบรม ได้แก่ มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นผู้นำองค์กรภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ ผู้นำทางความคิดที่มีบทบาทในสังคมที่สามารถสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือกำหนดนโยบายและบทบาท เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกี่ยวกับการใช้พลังงานได้ มีเวลาเข้าร่วมการอบรมและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่ม เป็นต้น