xs
xsm
sm
md
lg

เจาะเทรนด์ Event 2567 “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้...ถ้ายังไม่ได้ลองทำ” ยอดครีเอทีฟในตองอูแห่ง CMO Group “ก๊อบ-ชัยพฤกษ์ ว่องสกุล”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากเด็ก DPU สู่ยอดครีเอทีฟ บริษัท CMO Group 1 ใน 3 บริษัทผู้นำทางด้านอีเวนต์ของเมืองไทย “ก๊อบ-ชัยพฤกษ์ ว่องสกุล” แนะจับตาโลก Event 2567 ธีม 'Eco-Friendly' แรงไม่แผ่ว! เน้นเชื่อมโยง Carbon Credit และ Sustainability ผ่านนวัตกรรมอัจฉริยะ ด้านองค์กรต้องการคนมี Skills Search Engine พร้อมกับ Skills Presentation
หลังโลกเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 และการจบสิ้นลงของช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ส่งผลต่อการเติบโตในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ฟื้นฟู แต่กลับมาขาดแคลนกำลังพลคนรุ่นใหม่ และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านครีเอทีฟและการเล่าเรื่องสร้างสรรค์ในยุคเศรษฐกิจประสบการณ์หรืออีเวนต์นั้น ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้จัดงานใช้ในการสื่อสารกับผู้เข้าร่วมงานและกลุ่มคู่ค้า เพื่อนำไปสู่ความประทับใจในธุรกิจต่างๆ อย่างล้นหลาม
วันนี้เราจึงเดินทางมาพบกับ “ก๊อบ-ชัยพฤกษ์ ว่องสกุล” ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาด ซึ่งปัจจุบันเป็นเรี่ยวแรงอันสำคัญให้กับ บริษัท CMO Group 1 ใน 3 บริษัทผู้นำทางด้านอีเวนต์ของเมืองไทยและผู้รังสรรค์โลกเหนือจินตนาการยาวนานเกือบ 40 ปี


'Carbon Credit' และ 'Sustainability' ยังแรงแต่แฝงในนวัตกรรม

จากประสบการณ์กว่า 18 ปี คุณก๊อบเล่าให้ฟังว่า เทรนในปีหน้า 2567 สำหรับงานอีเวนต์ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 'การพัฒนาที่ยั่งยืน' และ 'การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์' ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะการทำธุรกิจ การใช้ชีวิตประจำวัน การคมนาคมขนส่ง หรือการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ โดยจะยังคงเป็นไปในรูปแบบ 'Eco-Friendly' ที่แฝงให้รู้สึกว่า 'คุณ' ก็เป็น 1 ในคนที่ช่วยรักษาโลก ได้ เช่น การใช้ Pavegen slab แผ่นพื้นที่สามารถเปลี่ยนแรงกดจากการเดินให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือการใช้เทคโนโลยีจอโฆษณา 3D Illusion บนจอ LED ที่สามารถเปิดประสบการณ์ให้ผู้ชมสัมผัสกับความเสมือนจริงได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

“เทรนการจัดงานอีเวนต์ปีหน้าจะผสมผสานระหว่าง Sustainability และ Carbon neutrality กับ Net zero ในรูปแบบที่ไม่ใช่การยัดเยียด แต่จะแฝงไปด้วยการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่อันอัจฉริยะต่างๆ ที่เกิดขึ้นเข้ามามีบทบาทและเป็นตัวช่วยมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา อาทิเช่น พวกป้ายบูธแบคดรอปและอิงค์เจ็ทอาจจะถูกแทนที่และไม่ค่อยมีให้ได้เห็นแล้ว จากความละเอียดของจอที่ละเอียดขึ้น และด้วยความสามารถของจอ ที่สร้างความรู้สึกกับผู้คนได้มากขึ้น แม้กระทั่ง lighting ภายในงาน ก็อาจจะไม่ใช่แค่ที่ให้ความสว่างเพียงอย่างเดียว หากแต่จะมีบทบาทที่มากขึ้นในการช่วยในเรื่องของการบอกเล่าเรื่องราวอย่างเหนือชั้นมากยิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ในเรื่องของ 'โทนสี' และ 'แฟชั่น' กับ trend สีของโลกในปี 2024 ที่จะมาในเฉดสี Rich Gold, Coral Gold, Butterfly, Carpi ก็จะสอดคล้องไปกับการพัฒนาความยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึง

“สีที่สื่อในเรื่องของความเท่าเทียม LGBTQ+ อย่างสีชมพูเข้ม Raspberry Rose หรือ ภาคแฟชั่นอย่าง สีฟ้าอมเขียวที่ได้รับความนิยมมาจาก Brand Tiffany & Co ในปี 2023 โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ TCDC ที่ได้ออกมาเปิดเผยกับเราในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา รวมทั้งคุณก๊อบยังวิเคราะห์ด้วยประสบการณ์จากที่ทำงานให้ลูกค้าปีนี้ โดยยึดจากภาพรวมอีเวนต์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ได้จัดงานในช่วงปีที่ผ่านมาและในปีหน้าที่จะถูกจัดขึ้น”


Search Engineกับ Presentation 'ทักษะ' ที่ทุกงานต้องการ

นักสร้างสรรค์แห่ง CMO Group บอกกับเราต่อในเรื่องของทักษะวิชาชีพ หรือ 'Hard Skills' ที่สำคัญในสายงานอีเวนต์ที่ต้องมีในปี 2567 ซึ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อแบบก้าวกระโดดมีด้วยกัน 2 สกิล ในการต่อยอดพื้นฐานกับการเป็นนักช่างสังเกตและจดจำนำมาใช้รังสรรค์สำหรับครีเอเตอร์

“อันดับแรก 'Search Engine' หากเรามีข้อสงสัยไม่ว่าเรื่องนั้นจะสำคัญหรือไม่ ให้เราค้นหาในทันทีและไม่ปล่อยผ่าน เพราะการทำงานในปัจจุบันเราไม่ได้มีเวลาท่องเที่ยวหาแรงบันดาลใจมากนัก ความรู้เล็กๆน้อยๆรอบตัวจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะต่อยอดทำให้เรารู้ลึกขึ้นจากสังเกตและจดจำ ยกตัวอย่างเช่น ในวันนี้ที่ผมขับรถมาทำงานแต่ระหว่างทาง ผมเลือกที่จะมองสิ่งรอบตัวมากขึ้นกว่าเคย ในวันนี้ผมเห็นป้าย Billboard ที่เปลี่ยน Brand ใน Billboard ไม่เหมือนเก่า สิ่งเหล่านี้อาจจะหมุนวนกลับมาหาเราในรูปแบบของลูกค้าในอนาคต เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่า การสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ อาจสร้างความได้เปรียบในภาคธุรกิจและการแข่งขันงานได้ในอนาคต”

“อันดับสอง 'Presentation' สถานการณ์ปัจจุบันอีเวนต์แข่งขันสูงมาก ดังนั้นผู้จ้างมีหลายตัวเลือก การ Biding งานหนึ่งงาน มีบริษัทผู้เข้าร่วมมากกว่า 3-5 เจ้าเป็นอย่างต่ำ และแน่นอนว่าลูกค้าต้องได้เห็นรายละเอียดงานต่างๆ ที่อาจจะคล้ายกันในทุกๆ บริษัทซ้ำไปซ้ำมา เพราะมาจาก Brief เดียวกัน ทำให้ลูกค้าไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันที ซึ่งในหน้าที่ครีเอเตอร์นอกจากที่ต้องคิดงานและนำเสนอลูกค้าแล้วนั้น ความแตกต่างเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงรูปแบบการนำเสนอยกตัวอย่างเช่นในการนำเสนอเรามีการเพิ่ม Experience ด้วยการนำวิดีโอ 3D มาใช้ใน Presentation เพื่อให้ First Imprestion ของลูกค้าเกิดความแตกต่างจากทุกเจ้าที่ผ่านมา เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์เรา ภาพเคลื่อนไหวสะกดใจมากกว่าภาพนิ่งเสมอ รายละเอียดปลีกย่อยอย่างนี้อาจจะเป็นจุดพลิกผันในไม่กี่จุดที่เราจะชนะในงานนั้นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ความใส่ใจของเรา และความใส่ใจนี้อาจเป็นสิ่งที่ลูกค้าตามหาอยู่”

คุณก๊อบ เสริมต่อในเรื่อง 'Soft Skills' ที่จะช่วย 'สร้างโอกาสให้ตัวเอง' เพิ่มมากขึ้นจนเป็นที่ต้องการตัวในทุกองค์กรหรือหน่วยงาน นั่นคือการฝึกคิดนอกกรอบ ที่สามารถทำได้โดยการแทนตัวเองในมุมมองของ 'ผู้จ้าง-ผู้ร่วมงาน-ผู้บริโภค' ซึ่งจะช่วยปลดล็อกศักยภาพการคิดงานได้ง่ายขึ้น

“ในทุกๆ วันเราสร้างโอกาสให้ตัวเราเอง เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆระหว่างทางของเรามาแล้ว เมื่อประตูโอกาสเปิดออก เราจะเข้าไปสู่โอกาสนั้นได้เร็วและมั่นใจกว่าใคร โดยที่ไม่ลังเลที่คว้าโอกาสนั้นไว้ ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญในการทำงานคือการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร การบริหารจัดการเวลา ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่สามารถหาได้ตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาการทำงานจะเป็นส่วนต่อเติมทักษะให้เรา 50%

“แต่ส่วนตั้งต้นเราต้องค้นหาตัวเองให้เจอ ซึ่งเราหาได้จากความชอบและ Lifestyle ของเราที่มาจากการใช้ชีวิตในโรงเรียน และรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากวิชาความรู้ที่ตอบโจทย์ยุคสมัย อย่างที่ผมเรียนที่ DPU ผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจนจบได้ ในขณะที่เราก็ยังใช้ชีวิตและอัปเดตสกิลตัวเองภายใต้สิ่งที่ชอบได้ การเรียนรู้ที่ดีต้องยืดหยุ่นให้กับชีวิตตัวเองได้และพลิกแพลงผ่านการดูแลเอาใจใส่ของอาจารย์ที่เข้าใจ และเปิดกว้างในความคิดคือพร้อมมองต่างไปกับเรา”


ไม่มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ถ้ายังไม่ได้...ลองทำ

สิ่งที่สำคัญของนักอีเวนต์อย่างสุดท้ายที่เป็นเหมือน 'หัวใจ' ในการสร้างสรรค์งานต่างๆ ให้เต็มไปด้วยความ 'แปลกใหม่' ของ 'บุคลากร' ที่ทุกองค์กรหรือหน่วยงานต้องการ คือ 'การคิดและลงมือทำ' โดยปราศจากคำว่าเป็นไม่ได้ตราบใดที่ยังไม่ได้ลองทำ

“อย่าพูดคำว่าเป็นไปไม่ได้...ถ้ายังไม่ได้ลองทำ คำนี้จะเป็นประโยคที่สอนน้องๆ รุ่นใหม่ทั้งสายอีเวนต์และครีเอทีฟ เพราะเราจะชอบตั้งข้อจำกัดของเราขึ้นมาเองว่าไม่ได้หรอก ซึ่งถ้าเราไม่ลองทำมันก็ไม่มีทางรู้ว่าจริงๆทำได้หรือไม่ ซึ่งในความเป็นได้มันอาจจะไม่ใช่ทางตรงที่สามารถทำออกมาแล้วได้ผลลัพธ์นั้นโดยตรง 100% แต่ในท้ายที่สุดมันจะมีอีกหลายทางเปิดออกในระหว่างทางที่เราได้ทดลองทำเสมอ เพื่อให้เราสร้างสิ่งที่แตกต่างเหล่านั้นให้เกิดขึ้นได้จริง

“เพราะคนที่ทำงานในด้านนี้สมัยปีราวๆ 2545 ไม่มีเปิดหลักสูตรโดยตรงเรื่องของอีเวนต์ แต่จะแฝงอยู่กับคณะนิเทศฯ อย่างที่ผมเรียน Advertising ก็ต้องมีเรียนในเรื่องของการเขียนสตอรี่บอร์ดในการคิดโฆษณาหรือกระทั่งการทำ Announcer สื่อประชาสัมพันธ์ ถ้าเราปิดไม่เปิดรับหรือเรามองว่ามันคนละเรื่องกัน พวกความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นกฎ 5 วินาที ซึ่งเป็นกฎในการคิดอีเวนต์ของผมยังคงใช้ได้เสมอ โดยใน 3 วิแรกคือการหันมอง แต่ถ้ามองจนถึง 5 วินาทีนั่นคือการจดจำ ซึ่งถ้ามีคนหันมามองงานของผมมากกว่า 5 วินาทีนั้นหมายความว่าผมประสบความสำเร็จในงานชิ้นนี้แล้ว เพราะเขาจะสามารถจดจำงานของผมได้ ต่อให้เขาไม่ได้เดินเข้ามาในบูธ แต่เขาก็จะรับรู้ว่านี่คือแบรนด์อะไร สินค้าชิ้นนี้คืออะไร

“มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะจับแต่ละคอนเทนต์ไหนมาอยู่ตรงนั้นด้วยกันมากกว่า” เขาขยายรายละเอียดของการทำงานที่พลิกแพลงและปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาเสมอในทุกครั้ง

“สุดท้ายแนะนำสำหรับรุ่นน้องหรือคนทำงานในปัจจุบันหมั่นเรียนรู้ตลอดเวลา เพราะคนทำงานสายนี้ต้องอัปเดตเทรนต่างๆ ในการทำงานทั้งปีที่คนในวงการนิยมเรียกกันว่าไบเบิลหรือไกด์บุ๊ก อาทิเช่น งานของ TeamLab ประเทศญี่ปุ่นที่มักจะจัด Exhibitions ก็จะมีแนวคิดใหม่ๆ เสมอ หรือพวกนิทรรศการในหลายๆ ประเทศซึ่งสามารถเสิร์ชหาดูได้ทั้งปีในเรื่องของเทคโนโลยีก็มี website อีกมากมายที่สามารถนำมาปรับใช้กับอีเวนต์ ได้ ยกตัวอย่างเว็บไซต์ Ads of the world ที่เป็นที่รวบรวมสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณา เหล่านี้ ก็สามารถนำมาปรับใช้ในงานได้เช่นเดียวกัน

“ส่วนในประเทศไทยเราสามารถหาดูได้ที่ TCDC ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDN เครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ฯ ช่วงปลายปีแบบนี้เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมจะมีรายงานเทรนด์ต่างๆ ของโลก ถ้าอยากดูงานจริงก็พวกงานมอเตอร์โชว์ งานเฟสติวัล งานคอนเสิร์ต จะช่วงกลางปีเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ก่อนปลายปีเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ก็จะเป็นช่วงเวลาของงาน Expo เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มแนวคิดการทำงานเรา

“ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ คนอื่นทำได้เราก็ทำได้ และที่ CMO มี Creative Area ที่เปรียบเสมือน Fun Park ที่ยิ่งใหญ่ ที่พร้อมซัพพอร์ตในทุกๆ อย่างรอคุณอยู่” เขากล่าวทิ้งท้าย สำหรับการขึ้นสู่ยอด 'หอคอยนักสร้างสรรค์' เบอร์ต้นของเมืองไทย ซึ่งในหอคอยแห่งนั้น 'ไม่มีลิฟต์' มีแต่บันไดที่ต้องเลือกไต่ด้วยตัวคุณเอง


















กำลังโหลดความคิดเห็น