ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนบนโพสต์ข้อความไปถึงพุทธศาสนิกชนที่ไปทำบุญ ณ สำนักสงฆ์บ้านท่าท้อนตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. จนถึงวันนี้ (11 พ.ย. 66) หากถูกสุนัขในวัดเลียหรือกัดให้ไปพบแพทย์ด่วนเพราะสุนัขภายในวัดติดเชื้อพิษสุนัขบ้า เตือนโรคนี้หากติดเชื้อแล้วตายสถานเดียว
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เพจ "ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนบน" ได้ออกมาโพสต์ถึงพุทธศาสนิกชนที่ไปทำบุญ ณ สำนักสงฆ์บ้านท่าท้อน ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. จนถึงวันนี้ (11 พ.ย. 66) หากถูกสุนัขในวัดเลียหรือกัดให้ไปพบแพทย์ด่วนเพราะสุนัขภายในวัดติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ทั้งนี้ทางเพจได้ระบุข้อความว่า
"พบโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขจรจัด พันธุ์ผสม เพศผู้ อายุประมาณ 3 เดือน (66J17943) สุนัขแสดงอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อบริเวณปาก และกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการกลืน ทำให้ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล ไม่สามารถกลืนอาหารได้ อาเจียนคล้ายก้างติดคอ ลูกสุนัขดังกล่าวกับลูกสุนัขอีก 1 ตัวถูกสุนัขภายในสำนักสงฆ์บ้านท่าท้อนกัดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม โดยวัดอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ผู้อุปการะนำสุนัขทั้ง 2 ตัวไปรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ สุนัขแสดงอาการผิดปกติหลังจากถูกกัด 9 วัน และตายหลังถูกกัด 17 วัน มีผู้สัมผัสเชื้อจากการถูกกัด 1 คน (ผู้อุปการะสุนัข) และผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อจากการคลุกคลีอย่างน้อย 3 คน ขณะนี้สุนัขที่นำมาจากสำนักสงฆ์พร้อมกับสุนัขตัวที่ตรวจพบโรค ถูกกักไว้ดูอาการ และแสดงอาการเข้าข่ายโรคพิษสุนัขบ้า (คลิปในคอมเมนต์)
ขอให้พุทธศาสนิกชนที่ไปทำบุญ ณ สำนักสงฆ์บ้านท่าท้อนตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2566 จนถึงปัจจุบัน ที่ถูกสุนัขในวัดกัด เข้าปรึกษาแพทย์ด่วน"