ไวรัลกระทู้ดังในพันทิป หลังสาวถามความเห็นชาวเน็ต ตั้งใจจะซื้อบ้านอยู่กับแฟนแค่ 2 คน แต่แฟนอยากให้น้องชาย พ่อและลูกติดของพ่อแฟนอีก 2 คนมาอยู่ด้วย ด้านชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็นทิศทางเดียวกัน ให้เลิก หรือหนีไป
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. สมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้เพื่อสอบถามความคิดเห็นชาวเน็ต โดยกระทู้ดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัล และมีหลายเพจดังแชร์ออกไปจำนวนมาก โดยระบุข้อความว่า "ตั้งใจจะซื้อบ้านอยู่กับแฟนแค่ 2 คน แต่แฟนอยากให้น้องชาย พ่อและลูกติดของพ่อแฟนอีก 2 คนมาอยู่ด้วย" โดยมีเนื้อหาเพิ่มเติมว่า "ตามหัวข้อเลยค่ะ ตั้งใจทำงานกะจะใช้เครดิตเราในการกู้ซื้อบ้าน ว่าจะซื้อบ้านเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันในอนาคต เผื่อมีลูกมีหมามีแมวเป็นของตัวเอง จะได้มาลูกๆ และสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน
เรื่องการซื้อบ้านเราเคยคุยกันเมื่อปีที่แล้วไปแล้ว 1 รอบ เนื่องจากครอบครัวของแฟนเราปัจจุบันเช่าบ้านอยู่ แฟนเราบอกว่าอยากให้ครอบครัวเขามาอยู่ด้วย อยากให้พ่อและน้องๆ เขาได้กินอาหารฝีมือเรา พอฟังแล้วเราก็นิ่ง ไม่รู้ว่าควรตอบแบบไหนถึงจะถนอมน้ำใจแฟนได้มากที่สุด ด้วยความที่เราค่อนข้างที่จะเป็นคนรักความสงบ ชอบความเป็นส่วนตัวมาก ตอนนั้นเราเลยบอกแฟนไปตรงๆ ว่า ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านของเรา 2 คน ก็อยากให้มีแค่เรา
ส่วนครอบครัวของกันและกัน ไว้เราค่อยไปเยี่ยมบ้าง หรือไว้ให้พ่อแม่ของกันและกันมาเยี่ยม มาค้างที่บ้านเราดีกว่าไหม พร้อมบอกเหตุผลว่า ถ้าสมมติทุกคนจะมาอยู่ เผื่อน้องชายแฟนเขามีแฟน พาแฟนมาที่บ้าน หรือลูกติดพ่อเขาอีก (อายุประมาณ 15-16) มีแฟน ลูกติดพ่อแฟนอีกคนอายุ 6-7 ขวบ ชอบเล่นเสียงดังตั้งแต่เช้า จนเย็น จนดึก เรากังวลเรื่องพวกนี้เลยบอกแฟนไป การคุยกันเรื่องบ้านครั้งแรกก็หยุดไป
วันนี้เรามีการปรึกษาหารือกันเรื่องบ้านอีกครั้ง ย้อนกลับมาที่หัวข้อเลย คุยกันเรื่องกู้บ้านจริงจังกันอีกรอบเขาก็ย้อนไปที่ประโยคเดิมว่าจะเอาพ่อเอาน้องเอาหลานมาอยู่ด้วย เราเลยพูดไปว่าเราสร้างบ้านให้พ่อดีกว่าไหม ไว้เราค่อยไปเที่ยวเล่นกับพ่อบ่อยๆ เราก็จะได้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับเราสองคน อยากจะทำอะไรในบ้านเราก็ได้ แฟนก็บอกว่าเราไม่เข้าใจ ไม่สงสารพ่อเขาที่ต้องเช่าบ้านอยู่ เพราะชีวิตเรามีบ้านเป็นของตัวเอง ชีวิตเราไม่เคยลำบาก ไม่เข้าใจความรู้สึกเขา
เราเลยบอกว่าไม่ใช่ไม่เข้าใจนะ เข้าใจ แต่ก็อยากให้บ้านที่เราจะใช้ชีวิตอยู่มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ไม่สะดวกใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนหมู่มาก (บ้านเกิดแท้ๆ ของเรา ข้างบ้านเป็นญาติๆ หมด แม้แต่แค่เราเดินไปกินข้าวบ้านย่าแล้วมีญาติรวมกันเยอะๆ เราก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องปลีกตัวกลับบ้านก่อนเพราะอึดอัด) เราเลยลองถามกลับไปว่า แล้วถ้ากลับกันถ้าเราจะเอาพ่อกับแม่มาอยู่ด้วย แฟนเราจะโอเคไหม เขาตอบ ได้! ทั้งๆ ที่เราก็รู้คำตอบว่าเขาไม่โอเคหรอก เขาก็คงอึดอัดกับพ่อแม่เราเหมือนกัน
บรรยากาศเงียบไปพักหนึงง่ง เราเลยพูดขึ้นไปว่า "พี่*ชื่อแฟน*คิดว่าไง ที่*ชื่อเรา*มีความคิดแบบนี้ ดูเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือใจแคบไหม" แฟนตอบ "ไม่หรอก บ้าน*ชื่อเรา*เนอะ พี่จะไปอะไรได้ ในเมื่อไม่สะดวกใจจะให้ครอบครัวพี่อยู่ด้วย" ซึ่งประโยคแบบนี้ฟังแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคะ
เรารู้สึกไม่โอเคหน่อยๆ ที่ได้ยินแบบนี้ ไม่รู้ว่าได้อารมณ์ที่คุยกันก่อนหน้านี้หรือเปล่า รู้สึกอ่อนไหวกับประโยคนี้มาก ที่เราบอกเหตุผลหลายๆ ข้อไป นึกว่าแฟนจะมองในมุมของคน 2 คน ว่าควรจะมีพื้นที่ส่วนตัวหรือมุมมองอื่นๆ ที่พยายามจะมอง แต่แฟนลุกขึ้นจากเตียงแล้วพูดประมาณว่า "มีแฟน ก็หวังจะพึ่งใบบุญแฟน แต่จะทำไงได้ เดี๋ยวสร้างของกูเองก็ได้วะ ต่างคนต่างซื้อ ต่างคนต่างอยู่"
เราอ่อนไหวกับคำพูดเชิงประชดนี้หนักกว่าเดิม (แฟนบอกไม่ได้ประชด หรือเราอ่อนไหวกับประโยคนี้ไปเองว่าคือการประชด?) เราเลยพูดว่าทำไมต้องพูดแบบนั้น ลองมองในมุมของเราบ้างหรือยัง แฟนตอบ "*ชื่อเรา*ไม่เข้าใจหรอก ไม่สงสารครอบครัวพี่ที่ต้องอยู่บ้านเช่า ที่ต้องลำบาก ก็อยากให้เขามาอยู่สบายๆ ไม่ต้องมาคอยจ่ายค่าเช่าบ้าน" เราตอบไปว่า "ถึงบอกว่าอยากสร้างบ้านให้ครอบครัวพี่สักหลัง ส่วนบ้านของเราก็คือบ้านของเราไง" แฟนตอบมาอีก "ช่างเถอะ จะไม่คุยเรื่องนี้อีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างซื้อ เดี๋ยวกูหาทางของกูเอง ดิ้นรนของกูเอง
สุดท้าย คืนนี้เราต้องจมอยู่กับความรู้สึกหน่วงๆ นี้ โดยที่ข่มตานอนแล้วก็ไม่สามารถนอนหลับได้เพราะไม่สบายใจเลย มันเป็นความรู้สึกหนักใจ เรามีความคิดแบบนี้ แฟนมีความคิดแบบนั้น ลองมองในมุมแฟนดูก็เห็นใจ แต่ลองคิดภาพเราไปหาพ่อแฟนได้ ไปทำอาหารให้กินบ่อยๆ ได้ แบบนั้นจะสะดวกใจมากกว่า การที่จะให้ทุกคนมาอยู่ในบ้านแบบถาวร ความอึดอัด ความไม่สะดวกใจของเรามันจะมากมายขนาดไหนเชียว แล้วมันต้องเป็นไปอย่างนั้นอีกกี่ปี”
คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ