สมศักดิ์ศรีกัปตัน! “เฌอปราง” สุดซึ้งคอนเสิร์ตจบการศึกษา BNK48 สมาชิกทุกรุ่นร่วมอำลา ก่อนสวมบทผู้จัดการวงเต็มตัว "ซายาเน่-โอคาดะ" ส่งคลิปอวยพร พร้อมเปิดตัวซิงเกิล 15 "แค่นี้ก็พอใจแล้ว" และเกิร์ลกรุ๊ป 48 Quadlips แถมยังรับสมัครสมาชิกรุ่น 5 ด้วย
และแล้ววันอำลาวงในฐานะสมาชิกและกัปตันวงของบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต (BNK48) อย่าง "เฌอปราง อารีย์กุล" ก็มาถึงด้วยคอนเสิร์ตจบการศึกษาของเจ้าตัว กับคอนเสิร์ต Depart’Cher Cherprang BNK48’s Graduation Concert ที่จัดขึ้น ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เมื่อช่วงวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยช่วงเริ่มต้นของงาน "เฌอปราง" และสมาชิกวงก็ร่วมทำการแสดงสลับหมุนเวียนไปมาใน 5 เพลงแรก ได้แก่ Hajimete no Hoshi (ดาวดวงแรก), Saishuu Bell ga Naru (เสียงระฆังแห่งความฝัน), Yuuki no Hammer (ลุยเข้าไป), Shonishi (วันแรก) และ Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ) โดยหลังจากนั้นได้มี 2 กัปตันทีม อย่าง "ฮูพ-ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย" กัปตันทีมบีทรี และ "นาย-ภัทรนรินทร์ เหมือนฤทธิ์" กัปตันทีมเอ็นไฟว์ พร้อมกับ 2 อดีตกัปตันทีมบีทรีและทีมเอ็นไฟว์ อย่าง "ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร" และ "ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี" มาร่วมกันเป็นพิธีกรคั่นกลางในช่วงแรก
หลังจากนั้น ทั้ง "เฌอปราง" และสมาชิกของวงก็ร่วมกันแสดงในเพลงต่างๆ โดยเริ่มจาก Tomodachi janai ka? เวอร์ชันภาษาไทย ที่ร่วมแสดงกับสมาชิกวง, Hatsukoi yo Konnichiwa (หัวใจตึกตัก) ที่ร่วมแสดงกับ "จีจี้-ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล" และ "วี-วีรยา จาง" , Tomodachi (เพื่อน) ที่ร่วมแสดงกับ "รินะ อิสึตะ" สมาชิกและผู้จัดการวงซีจีเอ็มโฟร์ตีเอต และ "มิโอริ โอคุโบะ" , Kimi no Koto ga Suki Dakara (ก็เพราะว่าชอบเธอ) ที่ร่วมแสดงกับสมาชิกวง , Oshibe to Meshibe to Yoru no Chouchou (ทุ่งดอกไม้ยามรัตติกาล) ที่ร่วมแสดงกับ "ป็อปเปอร์-พิณญาดา จึงกาญจนา" และ "เหมา เหวยจยา" กัปตันทีมเอเคบีโฟร์ตีเอต ทีมเอสเอช (AKB48 TeamSH)
จากนั้น ‘เฌอปราง’ ก็เดินหน้าลุยเครื่องกันต่อร่วมกับสมาชิก BNK48 กับเพลง Beginner ต่อด้วย River ที่ได้ 2 อดีตสมาชิก "อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ" และ "น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน" ร่วมแจม , สายซับ ที่ร้องกับ 3 อดีตสมาชิก "ปัญสิกรณ์" , "แก้ว-ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ" และ "โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค" , Iiwake Maybe กับอดีตสมาชิก BNK48 ก่อนที่สมาชิกและอดีตสมาชิกจะมาร่วมแสดงร่วมกัน กับ Only today (Band Version)
ต่อมา ‘เฌอปราง’ ก็ได้กลับขึ้นมาแสดงบนเวทีอีกครั้ง คราวนี้ร่วมแสดงกับสมาชิกวงปัจจุบันในแต่ละรุ่น เริ่มตั้งแต่ Shoujotachi yo (วันใหม่) กับสมาชิกรุ่นที่ 4, First Rabbit กับสมาชิกรุ่นที่ 3 และ Tsugi no Season (ฤดูใหม่) กับสมาชิกรุ่นที่ 2 จากนั้นเหล่าสมาชิกวงได้เดินลงไปร่วมเล่นกับผู้ชมพร้อมกับร้องเพลงในช่วงนี้ คือ ดีอ่ะ, 77 no Suteki na Machi e (77 ดินแดนแสนวิเศษ), Koisuru Fortune Cookie (คุกกี้เสี่ยงทาย) และ BNK48 แต่ทว่าต้องมีการพักการแสดงชั่วคราวเนื่องจากมีไฟไหม้ตรงบริเวณลำโพงของเวที จนเมื่อทำการดับเพลิงเป็นที่เรียบร้อย จึงกลับมาแสดงกันต่อกับเพลง 365 nichi no Kamihikouki (365 วันกับเครื่องบินกระดาษ) จากนั้น ‘เฌอปราง’ แสดงบนเวทีคนเดียว พร้อมกับร้องเพลงพิเศษในคอนเสิร์ตด้วยเพลง เธอที่เป็นเธอ
หลังจากนั้น ‘เฌอปราง’ และอดีตสมาชิกรุ่นที่ 1 ก็ได้มาร่วมร้องเพลง Jiwaru Days พร้อมกับยืนแถวตรงตามตำแหน่งเดียวกับวันแรกของการเป็นสมาชิกวง ซึ่งเรียกเสียงฮือฮากันทั้งฮอลล์ ก่อนที่สมาชิกวงในปัจจุบันจะมาร่วมกันร้องอีก 2 เพลง คือ to Yowasa no Aida de (สุดท้ายที่อยากบอก) กับ Sakura no Hanabitarashi (ความทรงจำและคำอำลา) และส่งท้ายโชว์ของเฌอปรางด้วยเพลงสัญญานะ และถ่ายรูปหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึก จนเรียกน้ำตาทั้ง เฌอปราง สมาชิกวง อดีตสมาชิกวง และเหล่าแฟนคลับเป็นการปิดท้าย
หลังจากนั้นก็มีคลิปวิดีโอจากสมาชิกวง พี่สาววงต่างๆ มาร่วมยินดี ได้แก่ "มารุยามะ ยุยริ" กับ "ทานิกุจิ เมะงุ" สมาชิกวงเอเคบีโฟร์ตีเอต (AKB48) , โคจิมะ คาริน สมาชิกวงเอ็นเอ็มบีโฟร์ตีเอต (NMB48) , ทาคิโนะ ยุมิโกะ สมาชิกวงเอสทียูโฟร์ตีเอต (STU48) รวมไปถึง โอคาดะ นานะ อดีตสมาชิกวง AKB48 และ ยามาโมโตะ ซายากะ อดีตสมาชิกวง NMB48
ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวโชว์ครั้งแรกของเซ็มบัตสึซิงเกิลที่ 15 ของทางวง คือ Kibouteki Refrain (แค่นี้ก็พอใจแล้ว) ก่อนที่จะมีประกาศของทางวง 2 เรื่อง คือ ทางวงได้เปิดรับสมัครสมาชิกวงรุ่นที่ 5 ซึ่งจะมีการรับสมัครในวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 11 ธันวาคมนี้ และเปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปนามว่า Quadlips ที่ร่วมมือกันกับอีก 3 สมาชิกวง 48 ได้แก่ อาโออุมิ ฮินาโนะ จากวงเอสเคอีโฟร์ตีเอต, เฟนี ฟิตริยานติ จากวงเจเคทีโฟร์ตีเอต, โคล-แอชลีย์ นิโคล โซเมรา จากวงเอ็มเอ็นแอลโฟร์ตีเอต และ เฟม-นันทภัค กิตติรัตนวิวัฒน์ ตัวแทนจากบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ซึ่งจะมีการเปิดตัวในต้นปีหน้านี้ และโชว์เพลง Heavy Rotation เป็นการส่งท้ายคอนเสิร์ตดังกล่าวนี้
โดย "เฌอปราง" ได้กล่าวถึงความรู้สึกของการแสดงโชว์ในครั้งนี้ว่า “ตื่นเต้นมากเลยค่ะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ดีใจมากๆ ที่นับตั้งแต่ 6 ปี 10 เดือนที่เฌอเดบิวต์ รายการเป็นสมาชิกวง ซึ่งวันนี้จะหมดสถานะการเป็นสมาชิกวงแล้ว แล้วก็จะไปเป็นผู้จัดการวงอย่างเต็มตัว ถามว่าใจหายไหม ก็มีความรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ว่าจะเป็นความทรงจำสุดท้ายที่จะร่วมแสดงบนเวทีเป็นกลุ่มกับสมาชิกวงแล้ว ซึ่งอนาคตข้างหน้าอาจจะมาร่วมงานในฐานะแขกรับเชิญ ก็มีความรู้สึกว่าเหงานิดหนึ่งเหมือนกันนะ ก็อาจจะคิดถึงที่ว่ามาตรงนี้ ซึ่งก็ตามที่บอกเขาว่าอนาคตข้างหน้าอาจจะขึ้นไปเป็นแขกรับเชิญให้กับน้องๆ ในโอกาสพิเศษต่างๆ แต่ก็ให้น้องๆ ได้โชว์ศักยภาพเต็มที่ ซ้อมหนักขนาดไหนคะ”
“ต้องบอกว่าตัวเองโชคดีที่มีประสบการณ์มาเรื่อยๆ ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ไม่ได้ซ้อมเยอะมากหรือหนักขนาดนั้น แต่จะเป็นในลักษณะที่สามารถทำงานรวดเร็วขึ้นในเวลาที่จำกัด และน้องๆ สมาชิกวงก็เก่งมากๆ เลยเพราะครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตวงครั้งใหญ่ที่รวมสมาชิกวงมากที่สุดเท่าที่เราเคยมีมาด้วย
เมื่อถามถึงจากการที่คลุกคลีในวงการไอดอลมาตั้งแต่ก่อนเข้าวง พอเขยิบสถานะมาเป็นผู้จัดการวง มีความรู้สึกว่าเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง "เฌอปราง" ก็ตอบว่า “อย่างหนึ่งที่ชัดเจนและง่ายมากเลย ก็คือการมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้แข็งแรงขึ้นเยอะ จำได้เลยว่าตอนแรกที่มาสัมภาษณ์กับสื่อก็มีความรู้สึกว่า มันคืออะไร ทำไมกล้องเยอะจัง ทุกคนกำลังจับจ้องมาที่ฉัน แต่พอมาเป็นตอนนี้คือก็มีการเจอหน้ากันบ่อยขึ้น เพราะเราก็อยู่ในวงมา 6 ปีกว่าเข้าปีที่ 7 แล้ว ซึ่งได้ประสบการณ์ทุกอย่างเลยค่ะ ก็รู้สึกว่าได้รับโอกาส ทั้งจากแฟนๆ และทางผู้ใหญ่ ทั้งจากในวงและภาคส่วนต่างๆ รวมถึงที่พี่สื่อที่ให้ความเอ็นดูและมาทำข่าวตลอด ก็ขอบคุณมากๆจริงๆ ค่ะ ตัวเฌอก็ถือว่าแข็งแรงขึ้นเยอะ ในการทำงานต่างๆ ก็รู้อะไรและมีประสบการณ์มากขึ้น ก็มีความรู้สึกว่าอยากจะให้วงอยู่ต่อ ก็เป็นคนที่พยายามดันน้องๆ และฝึกซ้อมให้กับน้องๆ ได้มีโอกาสได้ขึ้นมาบ้าง ซึ่งน้องๆ ก็จะมีความรู้สึกว่า พี่เฌอจะไม่อยู่บนเวทีแล้ว ยังไงดีล่ะ นั่นแหละก็คือโมเมนต์เดียวกับตอนที่เราไม่มีใครอยู่บนเวทีเหมือนกันเลย ได้เวลาที่น้องลุยอย่างเต็มที่”
เมื่อถูกถามถึงว่าหลังจากเปลี่ยนสถานะเป็นผู้จัดการวงอย่างเต็มตัว ยังห่วงเรื่องอะไรมากที่สุด "เฌอปราง" ได้ตอบว่า “จริงๆ มีความเป็นห่วงในเรื่องของการเป็น mc เพราะด้วยการเป็นกัปตันก็ทำให้เฌอมีหน้าที่ที่เก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดว่าสารที่เราแสดงออกไปมีอะไรบ้าง ซึ่งถ้ามีใครลืมอย่างน้อยเราก็จะจำได้ ทำให้บางครั้งน้องๆ ก็เกิดความรู้สึกชิน แล้วจะประมาณว่าไม่เป็นไรพี่เฌออยู่ พี่เฌอช่วย แต่ตอนนี้พี่จะไม่อยู่ตรงนั้นแล้วนะ น้องอาจจะมีส่วนในตรงนี้มากขึ้น คือเราก็เคยพยายามแล้วแต่ก็มีความรู้สึกว่าต้องเจอกับสถานการณ์หน้างานจริงๆ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าการที่ได้เจอกับพี่ๆ สื่อบ่อยๆ หรือไปออกงานด้วยตัวเขาเองก็น่าจะ flow มากขึ้นในการทำงานตรงนี้”
เมื่อถูกถามว่า เคยตั้งไว้ไหมว่าอยากเป็นชิไฮนินแบบไหน "เฌอปราง" ได้ตอบว่า “ไม่เคยเลย แต่เพราะมีความรู้สึกแค่ว่าอยากส่งต่อ อยากจะประคองน้องๆ ต่ออีกสักนิดหนึ่ง เพราะมันได้ประโยชน์จากการที่ว่าตั้งแต่เด็กเรามีความถนัดในเรื่องของการประสานงาน เรื่องการจัดการและบริหาร เลยมีความรู้สึกว่าหรือว่าเราจะมีความถนัดในเรื่องของงานฝ่ายบริหาร เลยมาทดลองการเป็นผู้จัดการวง แต่ถามว่าเป็นการทดลองไหม ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา มันเลยทำให้สามารถใช้กับที่นี่ได้ เลยทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติม และมีความรู้สึกว่าหรือจริงๆแล้วเรามีความถนัดในสิ่งนี้ จะไปประยุกต์ต่อกับสาขาไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสายบันเทิงหรือว่าเป็นคนคอยปั้นเทรนด์น้องๆ ต่อไป หรือว่าจะกลับไปสายวิทยาศาสตร์ที่ตัวเองเคยสนุกและเรียนรู้ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเหมาะกับเรามากกว่าจากที่เคยเรียนรู้มา”
เมื่อมาถึงคำถามที่ว่ามีงานอื่นอีกไหมที่อยากจะท้าทายตัวเองบ้าง "เฌอปราง" ตอบว่า “น่าจะเป็นในส่วนของการเป็นพิธีกรค่ะเพราะว่ายังไม่เคยเป็นอย่างจริงจังขนาดนั้นจะเป็นการ MC บนเวทีกับน้องๆ มากกว่า แล้วก็การทำงานในส่วนอื่นๆ ทั้งหมดเลย เรารู้สึกว่าทุกงานมันมีความใหม่ตลอด และมีโมเมนต์ที่มาแล้วผ่านไปในวินาทีนั้น เลยมีความรู้สึกว่ายังมีความสนุกในการที่จะทำอะไรใหม่ๆ ก็หวังว่าฝึกฝนน้องๆ แล้วให้พวกเขาได้มีพื้นที่มากขึ้น ทางวงเราได้เพิ่มปล่อย Project ต่างๆ ออกมา ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ”
“เฌอเสียน้ำตามาตั้งแต่การฝึกซ้อมในคอนเสิร์ตนี้แล้วค่ะ ซึ่งคิดว่าในการแสดงจริงก็น่าจะไม่ต่างกัน โดยเฉพาะในการเจอกับหลายๆคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน แล้วกลับมาเจอกันในครั้งนี้ ซึ่งตัวเราก็มีความรู้สึกว่าเป็นภาพที่วงได้เติบโตมาจริงๆ (สะอื้น) ซึ่งทุกคนก็น่าจะได้เห็นภาพนั้นจริงๆ ค่ะ”
ถามถึงในวันที่วงการที-ป็อป ได้บูมขึ้น ทำยังไงให้ไอดอลได้อยู่ต่อ "เฌอปราง" ตอบว่า “จริงๆ เรามีความแข็งแรงในด้าน community นะคะ ที่หลายๆ คนได้ติดตามและคอยเป็นกำลังใจให้ น้องๆ บางคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ หรือกำลังเติบโตและได้รับโอกาสจากทุกคน และแฟนๆ ที่ได้เข้ามาติดตามกัน ก็เลยเป็นพื้นที่ที่อาจจะบางทีก็ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็มีความแข็งแรงในตัวมันอยู่เสมอ แล้วก็เราก็จะมี มีกลุ่มตลาดที่ออกไปตีกลุ่มใหม่ๆ ว่าเขาจะสนใจเรา ซึ่งเป็นการทดลองออกมา ว่าจะมีการส่งเสริมน้องๆ ออกมายังไงนอกจากทางแฟนเพจวงอย่างเดียว ที่จะมีการปล่อยอยู่เรื่อยๆ เพื่อการเติบโตของวงค่ะ”
“ในฐานะการเป็นสมาชิกก็ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ ที่คอยสนับสนุนสมาชิกคนนี้มาโดยตลอดนะคะ จนทำให้ได้รับโอกาสเยอะแยะมากมาย รวมไปถึงครั้งนี้ที่ทางผู้ใหญ่ได้เห็นว่าเราเหมาะสมที่จะมีโอกาส คอนเสิร์ตจบการศึกษาเดี่ยวออกมา ที่น้องๆ ทุกรุ่นได้มาร่วมส่งในครั้งนี้ แล้วก็ในส่วนตัวเราก็มีความรู้สึกว่าได้ทำคอนเสิร์ตวงครั้งใหญ่ด้วย เพราะเราไม่ได้ทำคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้เลยนับตั้งแต่ Space mission ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ ที่แสดงศักยภาพของวง ให้ทุกคนได้เห็นด้วยเช่นกัน ส่วนสมาชิกวง ก็ขอบคุณที่เข้ามามีส่วนร่วม (สะอื้นอีกครั้ง) กับวงและสร้างตรงนี้ขึ้นมาจนเป็นภาพทุกวันนี้ ก็ดีใจจริงๆ ค่ะ ทั้งทางทีมงานและทุกคนที่ร่วมกันทำสิ่งนี้จนมีทุกวันนี้”