“แจ๋ม พลอยไพลิน” เคลียร์ครบหมดทุกประเด็น ดรามา นักร้อง จ. โกหกตม. ขอวีซ่าท่องเที่ยว ทั้งที่มีงานคอนเสิร์ตที่เกาหลี พร้อมเผยเป็นข้อๆ ผิดพลาดตรงไหน ถึงถูกส่งตัวกลับประเทศ ยอมรับช็อกและกลัวมาก ยันไม่เคยอวดอ้างว่าเป็นนักร้องดัง ซึ้งป้าให้ใช้แปรงสีฟันใช้แล้วเพราะไม่มีอะไรติดตัวเลย บอกถ้าเจอกันที่ไทยจะจองโต๊ะให้ดูคอนเสิร์ตฟรีๆ ลั่นสัจจะต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ จะผิดพลาดครั้งนี้ ครั้งแรก และครั้งเดียว
หลังจากที่ให้รอฟังคำชี้แจงค่ำนี้ กรณีที่ “แจ๋ม พลอยไพลิน แววศรี”นักร้องลูกทุ่งสาวหล่อชื่อดัง ถูกผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาแฉว่า เป็นนักร้องลูกทุ่งที่ไม่ผ่าน ตม. กาหลี เพราะโกหกว่ามาเที่ยว แต่จริงๆ มีคอนเสิร์ต อีกทั้งยังโวยกับเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองดัง เพิ่งได้รับรางวัลมา งานนี้ได้ติดแฮชแท็กที่กำลังเป็นดรามาเดือด #แบนเที่ยวเกาหลี ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ล่าสุดเจ้าตัวก็มาตามนัด ไลฟ์สดชี้แจงอย่างละเอียดโดยยืนยันว่านักร้องลูกทุ่ง จ. ไม่ผ่าน ตม. คือแจ๋มเอง พร้อมเคลียร์ชัดๆ แต่ละข้อที่ทุกคนสงสัย
“มีการจัดจ้างคอนเสิร์ตจริงวันที่ 29 เดือนก.ย. ตอนนั้นวีซ่าออกไม่ทัน เลยยกเลิกคอนเสิร์ตไป ต้นเดือนต.ค. มีการว่าจ้างคอนเสิร์ตอีกรอบ โดยผ่านโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เป็นคนจัดทำวีซ่าให้ เขาก็แจ้งมาว่า วีซ่าผ่านแล้ว ถ้ามีคอนเสิร์ตที่เกาหลี แจ๋มจะรับอยู่ไหม ผู้จัดการแจ๋มก็รับไป
ทีนี้พอรับงานไป มีการจองตั๋วเครื่องบินไปแต่ยังไม่มีการชำระเงินคอนเสิร์ตใดๆ จากนั้นสักพักมีข่าวเกิดขึ้นว่าแบนเกาหลี ผู้จัดการได้ถามทางโบรกเกอร์ไปว่า ทางร้านมีปัญหาอะไรไหม ให้เช็กวีซ่าให้หน่อยว่าเป็นประเภทไหน พอผู้จัดการไปเช็กกับโบรกเกอร์ วีซ่าแจ๋มเป็นวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ใช่วีซ่าทำงาน ผู้จัดการก็เลยกลัว ก็เลยบอกว่างั้นขออนุญาตยกเลิกคอนเสิร์ต เพราะยังไงก็ไม่มีการจ่ายเงินอยู่แล้ว
ทีนี้ทางร้านก็ยกเลิกคอนเสิร์ตไป แต่ประเด็นคือมีการซื้อตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ทางร้านก็เลยฝากโบรกเกอร์มาอีกรอบว่าจะให้แจ๋มไปเที่ยวเฉยๆ ได้ไหม ทางผู้จัดการเห็นว่าพอไปเที่ยวเฉยๆ ไม่มีการจ้างคอนเสิร์ต ไม่มีการทำงานเกิดขึ้น เจ้าของร้านชื่นชอบแจ๋มเป็นพิเศษ เป็นเอฟซีแจ๋ม ผู้จัดการก็เห็นว่าไม่มีคอนเสิร์ตแล้วก็อยากให้ไปพักผ่อน เพราะที่ผ่านมาแจ๋มไม่สบาย พักงานไป 1 เดือน พอกลับมารับงานก็โหมงานหนักมากๆ อยากให้แจ๋มไปผ่อนคลาย ตัวแจ๋มเอง ก็อยากไปช้อปปิ้งที่เกาหลีด้วย เป็นเมืองในฝันของใครหลายคน แจ๋มก็เลยตอบตกลง ไปเที่ยวก็ได้
มุมแจ๋ม ไม่ได้คุยกับโบรกเกอร์ หรือเจ้าของร้านเลย เพราะเป็นการคุยกับผู้จัดการ การสื่อสารไม่ได้ถึงแจ๋มโดยตรง เจ้าของร้านก็ไม่ได้คุยกับผู้จัดการแจ๋ม แต่คุยกับโบรกเกอร์ ทุกอย่างผ่านโบรกเกอร์ทั้งหมด ผู้จัดการเห็นว่าแจ๋มไปเที่ยวเฉยๆ ก็เลยให้ไป ผู้จัดการของแจ๋มเป็นคุณครู ก็ไม่ได้ไปด้วย เขาก็มองว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ก็เลยให้แจ๋มไป เพราะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวอยู่แล้ว
ก่อนเดินทางไปเกาหลี วันที่ 27 แจ๋มมีคอนเสิร์ตที่ชลบุรี มีหลักฐานเพราะแจ๋มขออนุญาตไม่ถ่ายรูปกับแฟนคลับ เพราะแจ๋มมีขึ้นเครื่องตอนตีสามที่สุวรรณภูมิ พอแจ๋มเล่นคอนเสิร์ตเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปสุวรรณภูมิ เช็กอินและขึ้นเครื่องเลย ระหว่างขึ้นเครื่องก็มีความเพลียจากการเล่นคอนเสิร์ต ก็ไม่ได้พูดคุยกับโบรกเกอร์ที่ไปด้วย พอไปถึงเกาหลี เราไปต่อแถวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โบรกเกอร์ให้ซองแจ๋มมาก่อนเข้าแถว พอแจ๋มเข้าแถว ก็ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ สแกนนิ้วมือกับเจ้าหน้าที่ พี่ที่เป็นโบรกเกอร์บอกว่าให้เอาซองนี้วางไว้ข้างบน ถ้าพี่เขาจะอ่านพี่เขาเปิดอ่านเอง โดยแจ๋มไม่ได้เปิดอ่านเลย พอถึงขั้นสแกนนิ้วเสร็จ พี่เจ้าหน้าที่ก็ยกมือเรียกผู้ชายหนึ่งคนพาแจ๋มไปเข้าห้อง
ส่วนที่เข้าห้อง แจ๋มก็ไปนั่งรอแป๊บนึง แล้วพูดกันว่าซองนี้มีอะไร ซองนี้เขียนชื่อแจ๋ม เป็นวีซ่าท่องเที่ยว มีโรงแรมที่พัก ว่าไปที่ไหน แต่เอาตามความจริงแจ๋มอ่านไม่ออกค่ะ เป็นภาษาเกาหลี มีตั๋วบินไปกลับ บินไปวันที่ 28 กลับวันที่ 30 พอเข้าไปในตม. นั่งรอสัมภาษณ์ค่ะ ตอนสัมภาษณ์เขาสัมภาษณ์โดยการยกหูโทรศัพท์ แล้วพี่เจ้าหน้าที่ตม. พูดเป็นเกาหลี มีล่ามแปลภาษาให้เราในโทรศัพท์ ทุกคำถามคำตอบก็ถูกแปลโดยล่าม
คำถามแรกเขาบอกว่าคุณมาเกาหลีทำไม แจ๋มก็บอกว่ามาเที่ยว มาช้อปปิ้ง มาท่องเที่ยว เขาก็ถามว่าคุณมากับใคร ก็บอกว่าเพื่อนสองคน บอกชื่อไปเป็นภาษาไทย แต่เขาถามชื่อจริงกับนามสกุล แจ๋มก็จำได้แค่ชื่อจริงเพื่อน จำนามสกุลไม่ได้ ปกติเราเรียกกันเป็นชื่อเล่น มันก็อาจเป็นอีกข้อที่ทำให้ไม่ผ่านพอแจ๋มตอบได้แค่ชื่อเล่นกับชื่อจริง คำถามต่อไป คุณมีเงินเดือนเท่าไหร่ต่อเดือน แจ๋มก็ตอบไปตามความจริง เขาถามคุณทำอาชีพอะไร แจ๋มบอกแจ๋มเป็นนักร้องค่ะ เขาเลยถามว่าเป็นนักร้องแบบไหน ก็เลยบอกว่าเป็นศิลปิน
เขาถามรายได้อีกต่อเดือนเท่าไหร่ แจ๋มก็ตอบตามความจริง เขาก็ถามอีกว่าเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน เหมือนมีคำว่ายูทิวบ์ ก็เลยเสิร์จชื่อตัวเองส่งให้พี่เขา พี่เขาก็เลยให้ล่ามแปลว่าคุณเคยออกรายการทีวีไหม ตรงนี้มันรวดเร็วมาก เป็นฟีลว่าแจ๋มก็เพลียจากการเล่นคอนเสิร์ต เพลียจากการเดินทาง อยู่ดีๆ เข้าห้อง ก็ปุ๊บปั๊บจริงๆ ตั้งสติไม่ทัน นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเคยออกรายการทีวีอะไรมา แจ๋มจำไม่ได้จริงๆ มันช็อต เอ๋อไปเลย ก็ถามพี่ล่ามว่า งั้นแจ๋มขอเอาแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือตอบแทนได้ไหม เพราะล่าสุดแจ๋มเพิ่งไปรับรางวัลของคมชัดลึกมา น่าจะเป็นแหล่งข่าวที่ประเทศไทยที่น่าเชื่อถือได้ที่สุด ที่นึกออกตอนนั้น
การยืนยันของแจ๋มตรงนี้เพื่อยืนยันตัวตนว่าแจ๋มเป็นศิลปิน แจ๋มมีเงินเดือนที่มั่นคง มีงานที่มั่นคง ที่ไม่ได้ไปเป็นผีน้อยในนั้น และกลับไทยแน่นอน และมีไฟลต์บินกลับแน่นอน แต่ตอนนั้นแจ๋มจำไม่ได้ว่าไฟลต์อะไร เพราะมันอยู่ในซองนี้ แล้วพี่เขาให้แจ๋มไปต่อแถวแล้ว
ที่ข่าวบอกว่าแจ๋มไปอวดเป็นนักร้องดัง รับรางวัล จริงๆ แจ๋มแค่ยืนยันตัวตนว่าเราเป็นศิลปิน เหมือนพี่เขาถามว่าเป็นนักร้องเฉยๆ หรือนักร้องที่ดัง เราก็เลยพยายามยืนยันว่าเป็นศิลปินจริงๆก็ฝากพี่ล่ามบอกเขาว่าหนูได้รับรางวัลจากคมชัดลึก น่าจะเป็นช่องข่าวที่ใหญ่ของประเทศไทย เขาก็แปลให้แต่หนูไม่รู้เขาแปลอะไร ไม่รู้แปลแบบไหน
ตอนตม. เขาถามมาทำอะไรตั้งแต่แรก เราบอกว่ามาเที่ยว มาช้อปปิ้ง แต่ยังไม่ได้อธิบายอะไร เขาถามเราก็ตอบ จากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็ลุกขึ้นและเดินออกไปแป๊บนึง และเดินกลับเข้ามา พี่ล่ามก็บอกว่าต่อไปจะเป็นการตัดสิน ถ้าคุณจะมาเที่ยวคุณต้องรู้แหล่งท่องเที่ยวที่ชัดเจน เขาถามแหล่งท่องเที่ยวด้วยนะคะ แต่แจ๋มก็ตอบไม่ได้เพราะมันอยู่ในซองนั้นค่ะ อยู่ในเอกสาร แต่แจ๋มไม่ได้อ่านตั้งแต่ต้นเลย
เป็นความสะเพร่าของแจ๋มเองที่ไม่ได้อ่าน เขาก็ตัดสินว่าถ้าจะมาท่องเที่ยวเกาหลี คุณต้องรู้แหล่งท่องเที่ยว รู้ชื่อสถานที่ที่จะไปท่องเที่ยว ต้องรู้ว่าคุณพักที่ไหน ที่สำคัญคุณตอบไม่ได้เลยว่าเพื่อนคุณชื่ออะไร เพราะเขาถามชื่อจริงนามสกุลจริง อันนี้ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะเรียกกันแต่ชื่อเล่น สุดท้ายเขาบอกว่าคุณมีงานคอนเสิร์ตวันนี้ คืนนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเขารู้ได้ไง หรือรู้จากไหน
แจ๋มยังไม่ได้ตอบอะไรเลย เขาก็ทำมือให้แจ๋มลุกขึ้นออกไป ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย แล้วก็คนอื่นเข้ามา มันรวดเร็วมากๆ จากนั้นก็ไปนั่งอยู่ในตม. ตอนแจ๋มนั่งอยู่ในห้องดำ เขามีเอกสารมาให้เซ็น 2 ใบ เป็นใบคัดค้านกับไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ ซึ่งแจ๋มไม่ได้เซ็นค่ะ จังหวะนั้น แจ๋มมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งอันนี้เอฟซีจะยืนยันได้ เวลาแจ๋มไปเล่นคอนเสิร์ตจะมีการถ่ายคลิปตัวเองเพื่อเอามาโปรโมตในเพจหรือติ๊กต๊อก จะถ่ายตลอดเวลา วันนั้นที่บินไปไม่มีที่ชาร์ตบนเครื่อง สัญญาณอินเตอร์เน็ตแจ๋มก็ไม่มี เพราะไม่ได้สมัครโรมมิ่ง สมัครไม่ได้ตอนนั้น ก็ตั้งใจจะเข้าประเทศไปแล้ว แล้วค่อยสมัคร ไม่รู้จะติดต่อใคร
จริงๆ เขามีใบอุทธรณ์ แต่แจ๋มไม่รู้ แจ๋มเห็นใบคัดค้านก็เขียนข้อมูลตรงนี้ แล้วไม่ทัน จังหวะนั้นแจ๋มเจอพี่คนไทย ก็ขอแชร์อินเตอร์เน็ตจากพี่เขา 4 เปอร์เซ็นต์ที่มีก็ถามโบรกเกอร์ว่าหนูต้องทำยังไงบ้าง ตอนนี้พี่เขาจะให้จองตั๋วกลับ ให้จองตั๋วกลับเลยไหม พี่เขาบอกว่าให้รอก่อน เดี๋ยวจัดการให้ เดี๋ยวได้ออกไปแน่นอน เพราะเราไม่ได้มาทำงาน หนูก็รอ สุดท้ายหนูรอจนถูกย้ายห้องไปห้องที่รวมกับทุกคน มีชาวต่างชาติ มีคนไทย
พอเข้าไปอยู่ในตม. แจ๋มกลัวค่ะ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเล่นคอนเสิร์ต ด้วยความเพลีย และความช็อก ที่เราไปตอบคำถามอะไรก็ไม่รู้ จังหวะนั้นมันกลัวมากๆ พูดไม่รู้เรื่อง เขาไม่ใช้ภาษาเดียวกับเรา เราสื่อสารกับเขาไม่ได้ กลัวค่ะ
เราได้ยื่นอุทธรณ์กับทางตม. เวลาแจ๋มคุยกับพี่เจ้าหน้าที่จะใช้กูเกิ้ลในการแปล เป็นไทยไปภาษาเกาหลี พอไปในห้องแล้ว ก็เอาโทรศัพท์มือถือแปล เขาก็ยื่นใบมาให้ หนูก็ไปเขียนคำบรรยายต่างๆ แจ๋มไปถึงเป็นเช้าของเกาหลี แล้วก็นอนในนั้น ที่เขาแปลออกมาคือรอวันถัดไป นอนหนึ่งคืน พรุ่งนี้เช้ารู้เรื่อง แต่พอรุ่งเช้าอีกวัน เรื่องยังไม่ออก แจ๋มเลยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินกลับ เขาให้จองตั๋วกลับได้เลยตั้งแต่เข้าห้องดำ แต่โบรกเกอร์ให้แจ๋มรอ แจ๋มก็เลยรอ พอไปยื่นเรื่องอุทธรณ์ พอผลไม่ออก ก็ไปจองตั๋วกลับเอง โดยมีแฟนคลับออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ มันฉุกละหุก ไม่ได้มีร้าน หรือค่าโบรกเกอร์จ่ายค่าตรงนี้ให้ เอฟซีจ่ายทั้งหมด
ตอนนั้นเข้าไปตอนแรกเจอแต่ชาวต่างชาติ กลัวมากๆ เราก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับเกาหลี เป็นความสะเพร่าของแจ๋มเอง แจ๋มยอมรับ เพราะเป็นความสะเพร่าของแจ๋มที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อนคิดแค่ว่าไปเที่ยว แล้วมีวีซ่าท่องเที่ยวแล้วจะเที่ยวได้ ไม่ใช่แบบนั้น พอไปแล้วเราเหลือแบต 4 เปอร์เซ็นต์ อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี โชคดีที่พี่ประเทศเราเข้ามา แล้วเขาพอเคยได้ยินเพลงแจ๋มอยู่บ้าง เขาเลยรู้จักแจ๋ม เราก็ขอชาร์ตแบต แชร์ไวไฟ แจ๋มก็ติดต่อโบรกเกอร์
เขาก็ให้รอ เขาบอกว่าเขากำลังหาวิธีติดต่อเข้ามาเพื่อให้แจ๋มได้ออกไป แจ๋มรอจนได้นอน แต่การเข้าไปตรงนั้นแจ๋มไม่มีกระเป๋าเดินทางนะคะ เพราะโหลดใต้เครื่อง ตอนนั้นมีแค่กระเป๋าสะพาย ที่แจ๋มสะพายตลอดเวลาอยู่แล้ว ในนี้จะมีพาสปอร์ต มียาพาราฯ มีที่ฉีดยา ยากรดไหลย้อน และมีลิป ตอนแรกลิปเต็มขวดเลยนะคะ แต่วันที่ไปมันหนาว เราใส่เสื้อตัวเดียวไป ไม่มีผ้าห่ม ก็ทาปากทั้งวัน ห้องที่ตม.ให้อยู่ น้ำก็รสชาติฝาดๆ หน่อย กินไม่อร่อย หนูก็ไม่กิน ไปกินน้ำก๊อกในห้องน้ำเอา เขามีข้าว เป็นขนมปังให้เรา แต่เป็นขนมปังมากๆ แจ๋มจัดฟันก็กัดไม่ได้ ก็เลยไม่กิน มีน้ำส้มให้ แต่รสชาติเหมือนเสียแล้ว ที่นอนตอนนั้นคนเยอะ เรานอนไม่ได้ มีพี่คนไทยบอกว่าถ้าอยากนอนได้ให้ไปนอนในห้องน้ำ ไปนั่งชักโครก ก็เข้าไปงีบในนั้นนิดนึง แต่นอนไม่หลับเพราะมันเครียด
ขอบคุณคุณป้าคนนึงเขาให้ครีมอาบน้ำมา หนูก็เอามาล้างหน้า แล้วพีกมาก ไม่เคยเล่าที่ไหน คุณป้าให้ยืมแปรงสีฟันกับยาสีฟัน ที่คุณป้าใช้แล้วแหละ เพราะหนูไปไม่มีอะไร แล้วเขาให้ยืม หนูซึ้งใจมากๆ ถ้าได้มาเจอกันที่ไทย ได้มาคอนเสิร์ตแจ๋มบอกเลยนะว่าเราติดตม.ด้วยกัน แจ๋มจะซื้อตั๋วจองโต๊ะให้มานั่งดูฟรีๆ เลย มาดูคอนเสิร์ตได้เลย
หลังโดนปล่อยตัว ที่จะกลับบ้าน ตอนนั้นก็ยังไม่โล่ง เป็นความรู้สึกเราทำผิดอะไร ทำไมต้องมานอนในนี้ ขนาดนั้น การดูแล ถ้าเปรียบเทียบกัน ทำไมชาวต่างชาติได้ผ้าห่ม แต่คนไทยไม่ได้ มันเป็นฟีลแบบ การดูแล เทคแคร์ การใช้น้ำเสียง สายตา เขาดูเฟรนด์ลี่กับชาวต่างชาติมากกว่าพวกเรา แจ๋มพยายามเอาข้อความไปแปลสื่อสารว่าเราขอสายชาร์ตได้ไหม ขอครีมอาบน้ำ ขอผ้าห่ม แต่เขาไม่ให้เราเลย พอได้เจอแอร์โฮสเตส พี่เขาเทคแคร์ดีมาก ก็อุ่นใจตอนได้ไปขึ้นเครื่องค่ะ
ขอโทษพี่ๆ นักข่าวติดต่อเข้ามาหลายสำนักมาก ก็เลยบอกทุกคนว่าให้แจ๋มไลฟ์ดีกว่า แจ๋มไม่สะดวกให้พี่มาหา สามารถเอาข่าวจากไลฟ์สดนี้ไปเผยแพร่ได้เลย
หลังกลายเป็นดรามา ทางร้านกับโบรกเกอร์มีการคุยกับผู้จัดการ คุยกันเคลียร์กันลงตัวแล้ว แต่ตั้งแต่มาถึงไทย อยากโพสต์อะไรต่างๆ มากเลย แต่เรามีการคุยกันว่าให้โบรกเกอร์หรือทางร้านคุยกับผู้จัดการแล้วให้มาคุยกับแจ๋มทีเดียว เพราะการคุยทั้งหมด แจ๋มไม่ได้รู้เรื่องทั้งแต่ต้น ผู้จัดการคุยกับโบรกเกอร์ โบรกเกอร์คุยกับร้าน ร้านก็คุยกับโบรกเกอร์ให้มาคุยกับผู้จัดการอีกที
สรุปทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาแบบย่อๆ คือแจ๋มมีการจ้างคอนเสิร์ตจริงในเดือนก.ย. แต่ถูกยกเลิกไปเพราะวีซ่าออกไม่ทัน การทำวีซ่าผ่านทางโบรกเกอร์ พอวีซ่าออกต้นเดือนต.ค. โบรกเกอร์ก็ติดต่อมาหาผู้จัดการว่าต.ค.จะมีคอนเสิร์ตที่เกาหลี รับไหม ผู้จัดการก็รับ แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินใดๆ แต่มีการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว เพราะฟีลรู้จักกัน ผู้จัดการกับโบรกเกอร์ดีลงานกันบ่อย ก็เลยบอกจองเลย เดี๋ยวค่อยว่ากัน ถ้าจองเร็วตั๋วมันก็จะถูก แต่ถ้าไปจองก่อนไปมันจะแพง ก็เลยเป็นฟีลจองตั๋วไปก่อน
พอเห็นข่าวดรามาต่างๆ แอปฯ X แบนเที่ยวเกาหลี ผู้จัดการก็เลยให้โบรกเกอร์ไปสอบถามทางร้านว่าถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้จะมีปัญหาอะไรไหม ผู้จัดการก็ขอเช็กว่าเป็นแบบไหน เป็นวีซ่าท่องเที่ยว ก็เลยบอกผ่านโบรกเกอร์ให้ยกเลิกไม่มีการแสดงคอนเสิร์ตที่เกาหลี แต่มีการจองตั๋วไปแล้ว เจ้าของร้านเหมือนเป็นเอฟซีแจ๋มอยู่แล้ว ก็เลยฝากถามทางโบรกเกอร์ว่ามาเที่ยวเฉยๆ ได้ไหม เพราะจองตั๋วไปแล้ว ผู้จัดการก็เลยเห็นว่าไม่มีการว่าจ้างก็เลยให้แจ๋มไปเที่ยวได้
ส่วนข่าวอวดอ้างเป็นนักร้องดัง ยืนยันว่าการบอกว่าเป็นศิลปินของแจ๋ม แค่ยืนยันว่าแจ๋มมีอาชีพที่มั่นคง มีงานที่มั่นคงในประเทศไทย มีรายได้ที่สูงในประเทศไทย ไม่มีการเข้าไปเป็นผีน้อยในเกาหลีแน่นอน เหมือนยืนยันข้อมูล ตัวตน ว่าเป็นศิลปิน นักร้องอยู่ประเทศไทย ไม่เคยพูดว่าเป็นคนดังหรืออะไรเลย อยู่ไทยก็ไม่เคยพูดคำนี้
สุดท้ายคนที่ตัดสินแจ๋มไปแล้ว ก็น้อมรับ แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละคน ก็อยากขอโทษแฟนคลับที่ติดตามแจ๋ม แล้วอาจไม่สบายใจ เสียใจกับข่าวนี้ ตัวแจ๋มเองสะเพร่าที่ไม่เตรียมตัวไปให้ดี ทั้งที่รู้ว่าไปต่างประเทศ ชะล่าใจเกินไป คิดว่ามีวีซ่าท่องเที่ยวแล้วก็ไปเที่ยวได้ โดยไม่ได้ศึกษาก่อนว่าการเข้าประเทศยุ่งยากขนาดไหน ต้องขอโทษจริงๆ
แจ๋มขอยืนยันและตั้งสัจจะจากตรงนี้ (เอาพระมาถือ) จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ต่อหน้าของรักษาของแจ๋ม ว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแม้แต่ครั้งเดียว จะไม่ให้เกิดการผิดพลาดเรื่องแบบนี้อีกแม้แต่ครั้งเดียว นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตแจ๋มต้องบอกว่าทุกเรื่องราวที่แจ๋มพูดในวันนี้ เป็นความจริงทั้งหมดไม่มีโกหก
ข่าวที่รั่วไหลออกจากตม.แจ๋มไม่รู้ว่าหลุดออกมาได้ยังไง เพราะตรงนั้นมีแค่แจ๋ม ตม. และล่ามที่แปลภาษาเท่านั้น ถ้าข่าวที่จะหลุดออกมาจากใครก็ไปลองคิดกันเอาเอง แต่แจ๋มขอยืนยันด้วยสัตย์จริง ด้วยต่อหน้าของรักษาแจ๋มว่าทุกอย่างที่พูดเป็นความจริงทั้งหมด
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจแจ๋ม พี่ๆ ต่างแดน แจ๋มเข้าใจความรู้สึกนั้นดีที่ได้ย่างก้าวเข้าไป ก็อยากให้สู้ การเจอปัญหาของแจ๋มอาจยิ่งใหญ่มากๆ เพราะแจ๋มไม่เคยมีข่าวแบบนี้ เป็นครั้งแรก ทุกคนก็ให้ความรักกับแจ๋ม ตั้งแต่เดินทางจากไทยไปเกาหลีและเข้าห้องดำ ยังไม่ได้นอนเต็มที่ จนเมื่อวานกลางคืนที่กลับมาถึงก็ยังนอนไม่เต็มอิ่ม จนถึงไลฟ์สดตอนนี้ก็ยังนอนไม่ได้ ก็ขอโทษด้วย หากพูดบกพร่องตรงไหน”