พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นประธานพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นผู้ประกอบพิธี
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.09 น. พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล รองประธานกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานพิธีบวงสรวงกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และร่วมพิธีสรงน้ำใบมะตูม เจิมหน้าผาก กรรมการครูผู้เชี่ยวชาญ นักร้องนักดนตรี นักแสดง ฉาก อุปกรณ์การแสดงโขน และผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2566 ตอน "กุมภกรรณทดน้ำ" ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นผู้ประกอบพิธี
พิธีบวงสรวงจัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” จะเริ่มแสดงบนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคณะกรรมการ ครูผู้เชี่ยวชาญ ศิลปิน นักแสดง และผู้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการแสดงโขนทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินงาน ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ เป็นการธำรงนาฏศิลป์ อันทรงคุณค่าของชาติให้สืบทอดต่อไป โดยมีกำหนดจัดแสดงขึ้นในระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2566
ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยในการแสดงโขนซึ่งเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยจะเลือนหายไป จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้รวบรวมครูผู้เชี่ยวชาญและศิลปินหลายท่าน ศึกษาค้นคว้าศาสตร์และศิลป์ที่เป็นภูมิปัญญาของการจัดแสดงโขน โดยให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ร่วมฟื้นฟูโดยจัดสร้างเครื่องแต่งกาย ศิราภรณ์ หัวโขนและเครื่องประดับทุกชนิดของโขนขึ้นมาใหม่อย่างสวยงาม ปรับปรุงวิธีการแต่งหน้าโขน และส่งเสริมให้ครูผู้เชี่ยวชาญโขน ฝึกฝนเยาวชนรุ่นใหม่ขึ้นมา เพื่อสืบทอดการแสดงโขนต่อไป การจัดแสดงโขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แต่ละครั้งต้องมีการจัดเตรียมความพร้อมหลายด้าน
สิ่งที่คณะกรรมการและผู้ทำงานทุกฝ่ายยึดถือเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินงานคือพระราชดำรัสเกี่ยวกับการอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ว่า "ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน" นับเป็นความโชคดีของคนไทยและประเทศไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดจนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อนาฏศิลป์โขน ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดศิลปวัฒนธรรมของชาติไว้ให้คงอยู่สืบไป
สำหรับปี 2566 นี้นับเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยอีกวาระหนึ่ง เนื่องในวันที่ 28 กรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 71 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลนี้ ด้วยการจัดการแสดงโขนตอน "กุมภกรรณทดน้ำ" โดยยึดแนวบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จับตอนตั้งแต่หลังจากที่กุมภกรรณทำศึกโมกขศักดิ์กับพระลักษมณ์แต่ไม่สำเร็จ ยังไม่สามารถสังหารพระลักษมณ์ได้ จึงคิดหาวิธีทำกลศึกที่มิตกายลงไปใต้น้ำทำพิธีทดน้ำนอนขวางแม่น้ำไว้เพื่อขัดขวางกองทัพพระราม ผลการต่อสู้และจุดจบของเรื่องราวกุมภกรรณทดน้ำจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามรับชมได้ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน กุมภกรรณทดน้ำ
นอกจากการแสดงที่วิจิตรงดงามที่แสดงโดยนักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกซ้อมจากครูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ จนมีฝีมือการร่ายรำอันงดงามถูกต้องตามจารีตแล้ว ผู้ชมจะได้รับฟังการบรรเลงดนตรีและขับร้องเพลงไทยอันไพเราะ รับชมความวิจิตรของเครื่องแต่งกายอันประณีต พบกับความพิเศษของการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ของกุมภกรรณทดน้ำเพื่อไม่ให้ไหลไปสู่พลับพลา ฉากหนุมานแปลงกายเป็นเหยี่ยวใหญ่ ฉากหนุมานดำลงสู่ใต้น้ำและอีกมากมาย ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อการแสดงโขนที่ยิ่งใหญ่บนเวที ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน-วันที่ 5 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคา 2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาท และ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 180 บาท) เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456