คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดแสดงละครเวที “มหาบุรุษอยุธยา” วันที่ 2 และ 3 พ.ย. 2566 นี้ ที่ DPU Hall โรงละครคณะนิเทศศาสตร์ DPU เพื่อเน้นให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติร่วมกันเกี่ยวกับศาสตร์ด้านการแสดง การเขียนบท และ การทำละคร ด้านผู้กำกับระบุเป็นละครย้อนยุคที่สนุกสนานและมีสาระ สอดคล้องต่อกระแสความนิยมละครประวัติศาสตร์ช่วงนี้
อาจารย์พลฤทธิ์ สมุทรกลิน อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาการสื่อสารการแสดงดิจิทัล ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดแสดงละครเวทีเรื่องมหาบุรุษอยุธยาว่า ละครเวทีมหาบุรุษอยุธยา มาจากบทประพันธ์ของ ดำเกิง ฐิตะปิยะศักดิ์ โดยสาขาการสื่อสารการแสดงดิจิทัลได้จัดแสดงละครเวทีดังกล่าวเพื่อเป็นละครเวทีในโครงการศิลปะการแสดง 3 รายวิชา PC403 โดยมีนักศึกษาสาขาการสื่อสารการแสดง ชั้นปีที่ 4 ร่วมใจกันทำละครเวทีในทุกขั้นตอน โดยการแสดงจะจัดขึ้น 2 รอบ ในวันที่ 2 และ วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เวลา 13.00 น แสดงวันละ 1 รอบ ที่โรงละครคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อาคาร 12 ถนนประชาชื่น กทม. และเป็นการเปิดให้เข้าชมฟรีทุกรอบ
อาจารย์พลฤทธิ์กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดแสดงละครเวทีมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้ฝึกการจัดทำโครงการขึ้นมาหนึ่งอย่างร่วมกัน เพื่อเป็นกระบวนการเรียนรู้ของนักศึกษาในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องของศาสตร์ทางการแสดง และ การทำละครเวที รวมถึงได้ใช้ทักษะทางด้านธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการวางแผน การจัดทำงบประมาณ การบริหารทีมงาน การฝึกซ้อมการแสดง การทำงานร่วมกัน การแก้ไขปัญหาต่างๆ และนำเสนอจริงสู่สาธารณชน ตลอดจนถึงการประเมินผลงานในท้ายที่สุด
“จุดเด่นของละครเรื่องนี้ คือ บทละครมีความสนุก และที่สำคัญภายใต้เสียงหัวเราะยังมีสาระให้ผู้ชมได้เก็บไปคิด นอกจากนั้นยังท้าทายความสามารถในการรับบทบาทเป็นตัวละครในเรื่อง ซึ่งมองว่านักศึกษาชั้นปีที่สี่รุ่นนี้ หลายคนมีบุคลิกพิเศษที่มีความเหมาะสมที่จะรับบทบาทต่างๆของตัวละครในเรื่องได้เป็นอย่างดี และที่น่าสนใจคือ นอกจากจะแสดงแล้วยังต้องใช้ความสามารถในการร้องเพลงในหลากหลายประเภทในเรื่องด้วย” อาจารย์พลฤทธิ์กล่าว
ด้านนางสาวพรพรรณ เจริญผล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาสื่อสารการแสดงดิจิทัลในฐานะผู้กำกับ
การแสดง ได้กล่าวถึงเนื้อหาย่อของละครมหาบุรุษอยุธยาว่า เป็นเรื่องราวชุลมุนที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาของบ้านคุณพระอัสนีไพรีพินาส ที่มีภรรยาที่ชื่อว่าซ่อนกลิ่นและลูกสาวชื่อดาวเรือง ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นมาในคืนหนึ่งเกิดสงครามใกล้ๆบ้านของคุณพระ ดาวเรืองได้พบเจอและช่วยเหลือชายชาวมอญผู้หนึ่ง ที่หนีสงครามกระโดดขึ้นมาบนห้องนอนของดาวเรือง แล้วดาวเรืองได้ตกหลุมรักชายชาวมอญผู้นี้ ดาวเรืองตัดสินใจช่วยเหลือชายชาวมอญโดยที่แม่ซ่อนกลิ่นยังไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งคู่จะต้องปิดบังเป็นความลับ เมื่อคุณพระอัสนีไพรีพินาสกลับมาจากศึกสงคราม ความชุลมุนวุ่นวายก็ได้เกิดขึ้น เมื่อขุนคึกศึก ทหารแนวหน้าของคุณพระและคู่หมั้นหมายของดาวเรืองนั้นกลับมาด้วย เรื่องราวความรักในครั้งนี้ของดาวเรืองจะเป็นอย่างไร มาติดตามได้ที่โรงละครของคณะนิเทศศาสตร์ ในวันที่ 2 และวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
“เราฝึกซ้อมกันอย่างหนักใช้ระยะเวลาประมาณ3 เดือน กว่าที่จะได้ละครเวทีเรื่องนี้มา ต้องทำการบ้านในเรื่องของภาษา เพราะคำในเรื่องส่วนใหญ่เป็นภาษาโบราณและจะมีคำบาลีที่ในแต่ละตัวละครจะต้องจดจำเพื่อที่จะได้เชื่อมโยงกับบทนั้นๆ เราต้องฝึกซ้อมทั้งเสียงของตัวนักแสดง และซาวด์ที่จะเข้ากับแต่ละบทบาท รวมถึงฉากที่เราจะต้องทำมันขึ้นมาตั้งแต่หาไม้ประกอบทำสีและอื่นๆอีกที่เป็นองค์ประกอบในส่วนของละครเวทีชิ้นนี้ และในส่วนทางด้านของการกำกับเองก็ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะเพิ่มความเข้มข้น เพิ่มความสนุกสนานในแต่ละจุดแต่ละองค์ได้อย่างไรเพื่อที่จะให้คนดูรู้สึกสนุกไปกับเรา” นางสาวพรพรรณกล่าว
อ.พลฤทธิ์กล่าวทิ้งท้ายถึงประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับว่า การทำละครเวทีหนึ่งเรื่อง ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว การทำงานร่วมกัน และการได้นำความสามารถที่ได้เรียนมา มาฝึกปฎิบัติจริง ทุกๆกระบวนการ คือ การขัดเกลาในด้านต่างๆ ของนักศึกษา ที่จะได้เรียนรู้เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นบัณฑิตสาขาการสื่อสารการแสดงดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ ตามปณิธานของคณะฯที่ว่า BEYOND Content Creators