เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (ECST) พร้อมเสนอทางออกแก้บุหรี่ไฟฟ้าหลังสภาผู้แทนราษฎรโหวตเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้า สอดคล้องความเห็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่เคยประกาศจุดยืนหนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย หวังทำตามสัญญาช่วงหาเสียงไม่ใช่ปล่อยเป็นนโยบายไม่ตรงปก
นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า หรือกลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ได้กล่าวว่า “ตอนนี้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผู้สูบบุหรี่ในไทยกว่า 9.9 ล้านคนและผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้านับล้านคน รวมทั้งเด็กและเยาวชนในไทยต้องรับเคราะห์กรรมจากการไม่ยอมรับความจริงของหน่วยงานสาธารณสุขไทยรวมถึงเครือข่ายหมอ ที่กำลังวิ่งเต้นกับพรรคการเมือง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือกระทั่งผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ให้สนับสนุนมาตรการ ‘แบนทิพย์’ ของตน แม้จะเป็นที่ประจักษ์ว่าการแบนนั้นนอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังกลับทำให้บุหรี่ไฟฟ้าแพร่ระบาดอย่างไม่สามารถควบคุมได้อีกด้วย”
“ผลสำรวจของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปัจจุบันมีเยาวชนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า 9.1% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายที่ลักลอบนำเข้ามาขาย มันมากถึงขนาดนี้ คำถามคือใครจะรับผิดชอบเด็ก 9.1% กลุ่มนี้”
ด้าน ส.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส. สมุทรปราการเขต1 กล่าวบางช่วงว่า “แค่ยืดยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่จริงในสังคมไทย เท่านี้ก็เพียงพอต่อการสร้างมาตรการป้องกันผู้สูบหน้าใหม่ได้แล้ว เราต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา นำสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน เพราะอีกหนึ่งปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อไม่มีกฎหมายควบคุมชัดเจน จึงเป็นการสร้างช่องโหว่ทางกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจเรียกรับประโยชน์จากประชาชนโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เพื่อให้การดำเนินคดีทางกฎหมายมีมาตรฐานเดียวกัน เราต้องเร่งผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมชัดเจน เป็นไปตามบริบทของยุคสมัยความเป็นจริงในประเทศไทยและสากล
ประโยชน์ของการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งสิ่งที่ต้องตระหนักถึงมี 4 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ความปลอดภัยของผู้สูบ 2. ความปลอดภัยของผู้ที่ไม่ได้สูบ 3. รัฐจะได้ประโยชน์จากบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร 4. การป้องกันนักสูบหน้าใหม่ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องยอมรับว่าในสังคมไทยมีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่จริง แล้วรัฐก็ไม่สามารถขจัดให้หมดไปจากสังคมได้ สิ่งที่รัฐจำเป็นต้องทำคือการเป็นผู้เข้ามาควบคุมกำกับดูแลการใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ดิฉันขอสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาประโยชน์ของการมีกฎหมายเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ให้เหมาะกับบริบทความเป็นจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน” ส.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ กล่าว
ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรได้โหวตเห็นชอบต่อญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทความเป็นจริงในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กล่าวว่า “ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะมีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ หรือ FCTC COP10 ที่ประเทศปานามา ซึ่งเราเห็นว่านายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยจะได้ทำตามที่หาเสียงไว้และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว จากพรรคเพื่อไทย ควรให้ผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุขสงวนท่าทีของประเทศไทยที่เป็นกลาง เพื่อดูว่าสุดท้ายแล้วผลการศึกษาและข้อสรุปจากคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างไร”