ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวโทษการกระทำของกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ “ฮามาส” และประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย โดยบอกว่าการโจมตีอิสราเอลและการรุกรานยูเครนมีแรงจูงใจเดียวกัน พร้อมอ้างว่าชัยชนะของอิสราเอลและยูเครนสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของอเมริกา
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค. (เช้าวันศุกร์ที่ 20 ตามเวลาในไทย) ว่า ฮามาสและปูตินใช้วิธีการคุกคามที่แตกต่างกัน แต่พวกเขามีจุดร่วมคือทั้งสองต่างก็มีความต้องการทำลายประชาธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะทำลายให้สิ้นซาก
“ผมรู้ว่าความขัดแย้งนี้จะยาวนาน เป็นเรื่องปกติที่จะมีคำถามว่าเรื่องนี้สำคัญต่ออเมริกาอย่างไร ผมถึงอยากจะให้ท่านทราบว่าทำไมการทำให้แน่ใจว่าอิสราเอลและยูเครนจะได้ชัยชนะถึงเป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา” ไบเดนกล่าว
เขากล่าวต่อว่า ประวัติศาสตร์ได้สอนพวกเราว่า เมื่อผู้ก่อการร้ายไม่ยอมชดใช้ต่อการกระทำรุนแรงของพวกเขา และผู้เผด็จการไม่รับผิดชอบต่อความก้าวร้าวของตนเอง พวกเขาจึงสร้างความโกลาหลมากขึ้น ทำให้คนตายมากขึ้น และก่อความหายนะมากขึ้น
ไบเดนกล่าวอีกว่า หากสหรัฐฯ ไม่หยุดยั้งความกระหายอำนาจและการเข้าควบคุมยูเครนของปูติน ปูตินก็จะไม่หยุดการรุกราน และรุกคืบไปยึดโปแลนด์และกลุ่มประเทศริมทะเลบอลติกเป็นขั้นตอนต่อไป
ส่วนเรื่องความขัดแย้งกับฮามาสนั้น การสนับสนุนอิสราเอลคือส่วนหนึ่งของเป้าหมายของสหรัฐฯ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าในตะวันออกกลาง และการทำให้กลุ่มฮามาสต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีแบบก่อการร้าย จะป้องกันความขัดแย้งในอนาคตซึ่งจะก่อความวุ่นวายขึ้นในภูมิภาค
“พันธมิตรของอเมริกันทำให้อเมริกายังปลอดภัย คุณค่าแบบอเมริกันทำให้ชาติอื่นยังต้องการร่วมงานกับเรา สิ่งเหล่านี้จะเผชิญความเสี่ยงถ้าเราเดินหนีจากยูเครน หรือหันหลังให้อิสราเอล มันไม่คุ้มแน่นอน” ไบเดนกล่าว