ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) ชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังถลำลึกเข้าสู่ความขัดแย้งยูเครน และเตือนกำลังทำผิดพลาด ด้วยการจัดหาระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีพิสัยไกล Army Tactical Missile System หรือ ATACMS แก่เคียฟ
ปูติน เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวขณะเยือนจีน ว่าเขาได้ให้ข้อมูลโดยสรุปแก่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง "ในรายละเอียดบางอย่าง" เกี่ยวกับยูเครน และบอกว่าปัจจัยภายนอกและภัยคุกคามร่วมรังแต่จะทำให้ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับจีนเข้มแข็งยิ่งขึ้น
ผู้นำเครมลินบอกต่อว่า การตัดสินใจของวอชิงตันในการมอบระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก (Army Tactical Missile System - ATACMS) ซึ่งเคียฟยืนยันเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ว่าได้ใช้งานครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รังแต่จะลากยาวความทุกข์ทรมานของยูเครน
"อย่างแรกเลย แน่นอนว่าสิ่งนี้ก่ออันตรายและสร้างภัยคุกคามเพิ่มเติม แต่แน่นอนว่าเราจะสามารถปัดเป่าการโจมตีเหล่านี้ได้ สงครามก็คือสงคราม" ปูตินระบุ "แต่สิ่งสำคัญที่สุด โดยพื้นฐาน มันไม่มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดๆ เลย นี่เป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดของสหรัฐฯ"
ยูเครนส่งเสียงไปยังสหรัฐฯ ซ้ำๆ ร้องขอ ATACMS เพื่อช่วยโจมตีและก่อความวุ่นวายแก่เส้นทางเสบียง ฐานทัพอากาศและเครือข่ายเดินรถไฟในดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย "ความผิดพลาดขนาดใหญ่ที่ยังมองไม่เห็น แต่ถือว่าสำคัญมากก็คือ สหรัฐฯ กำลังถลำลึกและถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครพูดแล้วว่าพวกเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราเชื่อว่าพวกเขาเกี่ยว" ปูติน กล่าว
ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวอ้างด้วยว่าเป็นเรื่องดีที่ตะวันตกเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องคลี่คลายวิกฤตยูเครนด้วยสันติวิธี แต่เขาไม่ได้ยกตัวอย่างในคำกล่าวอ้างใดๆ
รัสเซียระบุมานานว่าพวกเขามีความตั้งใจเจรจา แต่ก็ต่อเมื่อเคียฟยอมรับข้อเท็จจริงใหม่ๆ ซึ่งหมายความว่ายอมรับการยึดครองของมอสโกเหนือดินแดนต่างๆ มากกว่า 1 ใน 6 ของยูเครน
เคียฟยืนกรานว่ากองกำลังรัสเซียต้องถอนทัพออกไปโดยสมบูรณ์ ในนั้นรวมถึงแหลมไครเมีย ที่ทางมอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014
(ที่มา : รอยเตอร์)