xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัววันแรกขายเกลี้ยง ‘Amass me’ ปล่อย “Kapalikko” ปลุกกระแสแฟชั่นสายมู คอลเลกชันใหม่ 7 DAYS GOD’S

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Amass me (อะแมส มี) ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นมัลติลักชัวรีแบรนด์ เจ้าแรกในไทย ปล่อยตัวแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) คอลเลกชันใหม่ 7 DAYS GOD’S ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘God's Grace collection’ ถ่ายทอดเรื่องราว 7 ทวยเทพกรีก ผสานศาสตร์แห่งความเชื่อเข้ากับโลกแฟชั่น เปิดขายวันแรกหมดเกลี้ยงทั้งออนไลน์ และหน้าชอปสินค้า

นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Amass me (อะแมส มี) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติลักชัวรี แบรนด์ที่มีความหลากหลาย กระทั่งได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในสัดส่วนของเสื้อผ้า Multi Luxury Brands ที่สามารถดันยอดขายได้มากขึ้นถึง 100% จึงทำให้ Amass me (อะแมส มี) มีความมั่นใจและต่อยอดความสำเร็จในก้าวต่อไป โดยการเพิ่มไลน์ผลิตในส่วนของ Amass me Street ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยปล่อยแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ออกมาปลุกกระแสแฟชั่นสายมู นอกจากนี้ยังเพิ่มในส่วนของมัลติลักชัวรีแบรนด์ที่นำเข้ามาจากดีไซเนอร์ดังต่างประเทศ เช่น แบรนด์ TSMLXLT, แบรนด์ Yedcrew, แบรนด์ Empty Referencer เป็นต้น ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกา

สำหรับยอดขายทางการตลาดของ Amass me street มีการเติบโตขึ้นทุกปี เพราะสินค้าที่บริษัทนำเข้าหรือผลิตจะมีความโดดเด่นในการผสมผสานระหว่าง Street และความ Creativity ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เหตุผลที่ Amass me street นำเข้าแบรนด์ต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่ม Target ที่กว้างขึ้น จึงทำให้ แบรนด์ Amass me street เติบโตขึ้นทุกปี จนสินค้าทุกคอลเลกชันกลายเป็นสินค้า rare item ในเวลาต่อมา

“Amass me (อะแมส มี) ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นมัลติลักชัวรีแบรนด์ ที่รวบรวมแบรนด์นำเข้าที่มีเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปมานำเสนอลูกค้าในเมืองไทย เปรียบเสมือนตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้สำหรับทุกคนที่มีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์รวมกันอยู่ ให้ทุกคนมาเลือกชม ซึ่งไฮไลต์ในซีซันนี้ที่ Amass me (อะแมส มี) นำเสนอ คือแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) บนคอลเลกชันใหม่ 7 DAYS GOD’S ที่เพิ่งเปิดตัวไปเพียงวันแรกก็สามารถทำยอดขายถล่มทลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งในออนไลน์ และชอปหน้าร้านค้าที่มีลูกค้าเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อตั้งตารอจับจองคอลเลกชันใหม่ อาจเนื่องจากความเป็นเสื้อผ้า Street ของ kapalikko บนคอลเลกชันใหม่ที่ผสานศาสตร์แห่งความเชื่อเข้ากับโลกแฟชั่นจึงทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย” ยุฤดี กล่าว

รู้จักแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) เป็นแบรนด์สัญชาติไทยจาก Amass me (อะแมส มี) ที่ตั้งใจทำแบรนด์ใหม่ให้เป็นดั่งตัวแทนสะท้อนภาพของการเชื่อมโยงโลกแห่งความเชื่อและโลกแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยที่มาของแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) นั้นเริ่มต้นมาจากสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้ เป็นสัญลักษณ์ของมหายันต์ที่นำพาซึ่งความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครอง โดยสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อที่สืบทอดกันมาในแถบยุโรปตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังแผ่ขยายไปยังประเทศต่างๆ จนมีชื่อเรียกขานอย่างเป็นทางการตามแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ยันต์ “St John’s Arms” หรือยันต์ “Hannunvaakuna” นอกจากนี้ยันต์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ยังปรากฏอยู่บนปุ่ม Command บนคีย์บอร์ดของ Apple อีกด้วย ซึ่งสัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องรางแห่งการเรียกความโชคดี ทั้งยังช่วยเสริมในเรื่องการเงิน ดึงดูดทรัพย์จากทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง เสริมเรื่องการงาน เมตตามหานิยม พร้อมป้องกันจากสิ่งที่เป็นอัปมงคลตามความเชื่อ นับได้ว่าเป็นยันต์ที่เปรียบดั่งแม่เหล็กในการดึงดูดสิ่งมงคลเข้าหาผู้ครอบครอง จากกระแสในความเชื่อดังกล่าวทำให้ทาง Amass me (อะแมส มี) หยิบนำยันต์ความเชื่อนี้มาใส่เข้าไปกับความเป็นแฟชั่นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการกำหนดราคา อย่างเช่น คอลเลกชันเสื้อผ้าที่ออกมาใหม่ ราคาจะอยู่ที่ราว 3,500-6,000 บาทต่อชุด ซึ่งยังคงเป็นราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ พร้อมกับสามารถสวมใส่แล้วรู้สึกโชคดีไปในทุกๆ วัน

นางสาวยุฤดีกล่าวต่อว่า ปัจจุบันการเสริมโชคและความเชื่อเกี่ยวกับดวงเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากจะทำให้รู้สึกสบายใจในการดำเนินชีวิต ยังเป็นการช่วยเสริมความมั่นใจกับเหตุการณ์ที่จะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับในโลกของแฟชั่นที่ไม่ต่างกับการสร้างความมั่นใจด้วยการแต่งตัวด้วยไอเท็มชิ้นที่สวมใส่ เพราะสามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนได้อย่างเด่นชัด ดังนั้นในฤดูกาลนี้ Kapalikko (คาปาลิกโก้) จึงเลือกปล่อยผลงานคอลเลกชัน “7 DAYS GOD’S เสื้อผ้าที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อทุกเพศทุกวัย นำมามิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อสร้างสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนผ่านเสื้อผ้าแฟชั่นคอลเลกชัน 7 DAYS GOD’S โดยได้รับแรงบันดาลใจและถ่ายทอดเรื่องราว ทวยเทพทั้ง 7 เทพกรีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ และเป็นเทพประจำวันต่างๆ ทั้ง 7 วัน ที่จะทำให้คุณโชคดีไปในทุกๆ วัน กับ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ได้แก่

วันอาทิตย์ (Sunday) : เทพเฮลิออส (อะพอลโล) เทพผู้ขับรถเคลื่อนดวงอาทิตย์ผ่านฟากฟ้า เป็นเทพแห่งศิลปะวิทยาการและการดนตรี

วันจันทร์ (Monday) : เทพเซลีนี (อาร์เทมิส) เทพีแห่งดวงจันทร์

วันอังคาร (Tuesday) : เทพแอรีส เทพแห่งสงครามและความแข็งแกร่ง

วันพุธ (Wednesday) : เทพเฮอร์มีส เทพแห่งการสื่อสาร การค้า การแพทย์ วิทยาการลึกลับ

วันพฤหัสบดี (Thursday) : เทพซุส ซึ่งเป็นมหาเทพสูงสุดของโอลิมปัส เป็นเทพแห่งสายฟ้า ปกครองพื้นที่ท้องฟ้าทั้งหมด และยังเป็นบิดาของเทพองค์สำคัญอีกหลายองค์ด้วย

วันศุกร์ (Friday) : เทพอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักและความงามผู้ถือกำเนิดมาจากฟองคลื่นในมหาสมุทร เป็นตัวแทนของความปรารถนา

วันเสาร์ (Saturday) : เทพโครนัสหรือโครนอส เป็นเทพแห่งกาลเวลาและการชราภาพ อีกทั้งยังเป็นไททันที่เป็นบิดาของโดไซดอน ซุส และฮาเดสอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้ามัลติลักชัวรีแบรนด์ ภายใต้การจำหน่ายของ Amass me (อะแมส มี) นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่หลากหลายทั้งในกลุ่มไฮเอนด์ ครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้าแมส คนรุ่นใหม่วัยทำงาน ซึ่งบนความตั้งใจของ Amass me (อะแมส มี) คือการสนับสนุนผลักดันการเปิดตัวตนและไลฟ์สไตล์ผ่านแฟชั่นในชีวิตประจำวัน ให้ทุกคนมีความกล้าในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ของตนเอง โดย Amass me (อะแมส มี) จะไม่หยุดคัดสรรแบรนด์ที่มีคุณภาพ มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์ เพื่อทำให้ตู้เสื้อผ้าใบนี้เป็นตู้เสื้อผ้าใบโปรดและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกคนทั้งไทยและทั่วโลกได้ นอกจากนี้ ล่าสุด Amass me (อะแมส มี) มีการเปิดแพลตฟอร์มนำส่งสินค้า Kapalikko (คาปาลิกโก้) ขยายออกไปยังแพลตฟอร์มประเทศจีน ญี่ปุ่น และดูไบ เป็นต้น สำหรับเป้าหมายต่อไปคือ บริษัทต้องการผลักดัน Kapalikko (คาปาลิกโก้) ไปสู่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อร่วมกันในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

"ท่านใดที่ชื่นชอบและรักในแฟชั่น พบกันได้ที่ Amass me (อะแมส มี) ซึ่งมีชอปหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าแล้ว 9 สาขา ได้แก่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ชั้น 1, เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 1, เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 1, เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 2 และชั้น 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 1, เดอะ พรอมานาด ชั้น 1, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น 1" ยุฤดีกล่าวทิ้งท้าย












กำลังโหลดความคิดเห็น