เทียบคำพูด "พ.ต.อ.ภาคภูมิ" กับ "มินนี่" ปมสัมพันธ์ทั้งที่ฝ่ายนายตำรวจมีเมียมีลูกแล้ว เจอกันครั้งแรกปี 63 คบหาเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนแยกย้ายกันไป มาปีนี้มีภาพหลุดออกมา ฝ่ายชายขอโทษมักง่าย ไม่มีวินัย โลเล เลินเล่อ เผลอไปคบผู้หญิงอีกคน ส่วนฝ่ายหญิงโวยตำรวจชุดจับกุมยึดโทรศัพท์ไปแล้วภาพหลุดออกมา
สังคมกำลังให้ความสนใจเหตุต่อเนื่องจากการค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ด้วยข้อกล่าวหาว่านายตำรวจมือทำงานเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ แต่หนึ่งในนั้นคือประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง "พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย" หรือ รองหนึ่ง อดีตรองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 กับ "มินนี่" ผู้ต้องหาคนสำคัญ
หากตัดประเด็นเรื่องคดีออกไป ลองเปรียบเทียบระหว่างบรรทัดกันว่าทั้งสองบอกเล่าถึง "ความสัมพันธ์" เอาไว้อย่างไร?
พ.ต.อ.ภาคภูมิระบุว่า รู้จักกับมินนี่ตอนที่ตนเองเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย เจอกันที่งานเลี้ยงเมื่อปลายปี 2563 แต่ตอนนั้นตนรู้จักแม่ของมินนี่ก่อน เพราะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ที่ตนทำงานอยู่ หลังจากนั้นก็ย้ายมาที่ขอนแก่น ผ่านไปถึง 2 ปี ไม่เคยติดต่ออะไรกันเลย
มาเจอกันอีกต้นปี 2566 เจอกันที่งานเลี้ยงบ้าง ที่ร้านอาหารบ้าง ล่าสุดคุยกับมินนี่ ช่วงที่ถูกจับตอนเดือนกรกฎาคม 2566 มินนี่ โทร.มาบอกว่าถูกจับ ขอคำปรึกษา ตนก็ให้ไปประกันตัวที่ถูกจับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
ส่วนตัวมินนี่นั้นชอบถ่ายรูปลงโซเชียล ตนก็เตือนบ่อยๆ เพราะก็กลัวภรรยาเห็นเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ลงอยู่ดี
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำให้พ่อแม่และชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหาย ทำให้ภรรยาและลูกได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่ฝ่ายตัวเอง ฝ่ายครอบครัวมินนี่ก็เสียหาย รวมถึงผู้บังคับบัญชา ยืนยันอีกครั้งว่าต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากตนเอง คนอื่นไม่เกี่ยวข้อง และอยากจะขอโทษทุกคน
"สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความมักง่าย ไม่มีวินัย โลเล เลินเล่อ ทำให้เผลอไปมีการคบหากับผู้หญิงอีกคน ซึ่งผมไม่ปฏิเสธ แต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบสามี-ภรรยา"
ด้านมินนี่กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ หรือรองหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2563 หลังพบกันในงานเลี้ยงในจังหวัดเลย และคบหากันระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเลิกราไป เพราะทราบว่าอีกฝ่ายมีครอบครัวแล้ว กระทั่งในช่วงปลายปีที่แล้ว (2565) บังเอิญกลับมาเจอกันและพูดคุยกันอีกครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง
ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภาคภูมิจะยืมเงินตนบ้างเป็นปกติ ซึ่งก็มีคืนบ้างไม่คืนบ้าง อาจเพราะเงินเดือนตำรวจไม่มาก แต่ส่วนมากคนอื่นจะโอนให้เพราะตนอยู่ต่างประเทศ
ส่วนภาพคู่ที่ปรากฏนั้นเป็นภาพที่ตนถ่าย แต่ถูกตำรวจ PCT ชุดที่ 4 เข้าจับกุมและยึดโทรศัพท์ไป มีตำรวจนายหนึ่งชื่อเจ อีกนายตัวสูงคล้ำๆ น่าจะสังกัด ตม. ตนจึงอยากตั้งคำถามว่าภาพดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนเพราะตน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน