เปิดชื่อเจ้าของบ้านตัวจริง ทั้ง 5 หลัง ที่ “พล.ต.อ. สุรเชษฐ์” พักอยู่ในกรุงเทพ พบเป็นเข้าของธุรกิจในจ.อุดรธานี โดยให้อยู่ฟรี-จ่ายค่าส่วนกลางให้ ตำรวจเตรียมขยายผลเส้นทางการเงิน
จากกรณีการเข้าตรวจค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หมู่บ้านภายในซอยวิภาวดี 60 อยู่ด้านหลังสโมสรตำรวจ หลังมีการปิดล้อมและเข้าตรวจค้น 30 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด เพชรบุรี -สมุทรปราการ-กรุงเทพ - ขอนแก่น-อุดรธานี และสระบุรี เกี่ยวกับแก๊งพนันออนไลน์ โดยผู้ต้องหามีทั้งพลเรือนและตำรวจ โดยมีตำรวจคณะทำงานของบิ๊กโจ๊ก ระดับ“พล.ต.ต.” และ พนักงานสอบสวน ยศ “พ.ต.อ.” ตกเป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ
“บิ๊กโจ๊ก” นำเข้าตรวจค้นบ้านของ 5 หลังดังกล่าว และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยินยันในความบริสุทธิ์ ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ นอกจากปฏิบัติหน้าที่ในการกวาดล้างจับกุม ส่วนข้าราชการตำรวจที่ถูกออกหมายจับ หากกระทำผิดจริงก็ต้องไปต่อสู้คดีและรับผิดตามข้อเท็จจริงต่อไป
ขณะเดียวกันมีการแชร์คลิปวิดีโอในโลกออนไลน์ ปรากฎภาพในงานเลี้ยงมี “มินนี่” ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันอยู่ในงาน และร้องเพลงร่วมกับ บิ๊กโจ๊ก และแชร์ภาพความสนิทสนมเป็นพิเศษระหว่าง มินนี่ และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 คนสนิทบิ๊กโจ๊ก ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ในการเข้าตรวจค้นบ้านพัก 5 หลัง ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้นำ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผบก.ทล. นำตรวจค้นบ้านทั้ง 5 หลัง โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชื่อของเจ้าของบ้านไม่ใช่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ย.) รายงานข่างแจ้งว่า แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยถึงเจ้าของบ้านตัวจริงทั้ง 5 หลังพบเป็นชื่อของ “เฮียแต๋ม อุดร” เจ้าพ่อบริษัทธุรกิจขนส่งและธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ ในจ.อุดรธานี โดยใช้ชื่อตัวเองครอบครอง 3 หลัง และใช้ชื่อภรรยาครอบครองอีก 2 หลัง
นอกจากนี้ยังมีการจ่ายส่วนกลางให้ปีละกว่า 142,000 บาท และใช้ชื่อในการขอใช้ไฟฟ้าทั้ง 5 หลัง
จากข้อมูลการจ่ายเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้านของบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 โดย “เฮียแต๋ม” เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้
สำหรับ บ้านพักหลังที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยนั้น จ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000–27,000 บาท รวมค่าส่วนกลางทั้ง 5 หลัง จำนวน 142,000 บาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่าเป็นชื่อของ “เฮียแต๋ม” เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
แหล่งข่าวระดับสูง ระบุข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ และกิจการรับเหมาก่อสร้างใน จ.อุดรธานี ว่ามีสาขาอยู่ในหลายจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ และมีความเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา และจะมาต้อนรับคณะของนายตำรวจที่เดินทางไปราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่บ่อยครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนจะมีการขยายผลในการตรวจสอบที่มาของเงินในการซื้อบ้านทั้ง 5 หลังดังกล่าวว่ามีเส้นทางการเงินอย่างไร เงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ และเหตุใดถึงต้องซื้อแล้วให้บุคคลอื่นมาพักอาศัยอยู่ทั้ง 5 หลัง
พร้อมทั้งจะยื่นขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า มีการรับของเกิน 3,000 บาท จากบุคคลอื่นหรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นต้องรับทรัพย์สินมูลค่าสูง ตามกฎหมายแล้วจะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาใน 30 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
