xs
xsm
sm
md
lg

พากันหลอน! พบใบหน้าปริศนาโผล่ร่วมเฟรม กลุ่มนักเรียนที่วัดภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผยภาพชวนขนหัวลุก กลุ่มนักเรียนไปเที่ยวที่วัดภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพบหน้าปริศนาโผล่ร่วมเฟรม นักเรียนในเหตุการณ์เฉลยเป็นแม่ชีที่กำลังยืนหลบให้ถ่ายรูป

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ผู้ใช้ TikTok ชื่อว่า "aolala5" ได้โพสต์ภาพชวนขนหัวลุก กลุ่มนักเรียนไปเที่ยวที่วัดภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วได้รวมกลุ่มกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณทางเดินด้านบนที่อยู่ติดบันได แต่กลับเจอภาพศีรษะคนปริศนาโผล่ด้านหลังภาพ ลักษณะใบหน้าสีดำคล้ำดูน่าขนลุก โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “จะหลอนไปไหน วัดภูเขาทอง”

ขณะเดียวกัน มีนักเรียนรายหนึ่งคอมเมนต์ ซึ่งระบุว่าตนเป็นนักเรียนในรูป มาชี้แจงว่าครูเข้าใจผิดและคิดว่าคนในรูปคือผี แต่จริงๆ แล้วคือแม่ชีที่หลบให้ถ่ายรูป เหตุการณ์เกิดตอนไปทัศนศึกษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา มีเพื่อนคนหนึ่งทักในระหว่างที่กำลังนั่งรถกลับโรงเรียน แล้วเพื่อนคนนั้นบอกว่ารูปนี้ถ่ายติดผี แล้วมีเพื่อนอีกคนหนึ่งไปบอกครู เลยทำให้เรื่องวุ่นวายไปทั้งโรงเรียน

สำหรับ วัดภูเขาทอง อยู่ในตําบลภูเขาทอง ห่างจากพระราชวังหลวงไปประมาณ 2 กิโลเมตร วัดภูเขาทองนี้ถูกกล่าวไว้ในหนังสือคําให้การชาวกรุงเก่า “พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เป็นผู้สร้างพระมหาเจดีย์ประธานขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2112 ศิลปะแบบมอญสูงใหญ่ ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกเมื่อคราวรบชนะไทย”

ต่อมา เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราชกลับคืนมาให้กรุงศรีอยุธยาพร้อมทั้งประกาศอิสรภาพแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2127 จึงโปรดให้สร้างเจดีย์แบบอยุธยา โปรดให้รื้อช่วงบนขององค์พระมหาเจดีย์ออก เสมือนการบูรณะครั้งใหญ่ และทรงสร้างเจดีย์แบบย่อมุมไม้สิบสอง ซึ่งเป็นที่นิยมในยุคนั้นบนฐานทักษิณพระมหาเจดีย์องค์เดิม ฝีมือช่างมอญเดิมจึงปรากฏเหลือเพียงฐานทักษิณส่วนล่างเท่านั้น ปัจจุบันกรมศิลปากรสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงม้าในบริเวณด้านหน้าวัดภูเขาทอง เพื่อให้ประชาชนสักการบูชา

นอกจากนี้ บริเวณด้านข้างมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (โครงการแก้มลิง) ซึ่งเป็นแนวพระราชดําริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนชาวไทยในช่วงฤดูน้ำท่วม และในช่วงฤดูแล้งก็ยังคงมีน้ำใช้ตลอดปี เปิดให้เข้าชม เวลา 07.00-17.00 น.

ข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

คลิก>>>ชมคลิปต้นฉบับ








กำลังโหลดความคิดเห็น