สดุดีทหารกล้า อส.ทหารพรานเสียชีวิต เหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะสร้างบ้านให้ประชาชน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สดุดีทหารกล้า อส.ทหารพราน อุดมศักดิ์ เราตะพงษ์ เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดช่าง ขณะสร้างบ้านให้ประชาชน

จากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดชุดช่าง โครงการซ่อมสร้างบ้านปันสุข บริเวณบ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าทื่ทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (17 ส.ค.) เพจ “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า” โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ”สดุดีทหารกล้า แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ อาสาสมัครทหารพราน อุดมศักดิ์ เราตะพงษ์ เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4901 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดช่าง โครงการ ฉก.นราธิวาส ซ่อมสร้างปันสุข บริเวณพื้นที่บ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 2 ตำบลซากอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย”

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศรีสาคร ปัจจุบันทั้งหมดอยู่ในอาการปลอดภัย สำหรับโครงการหน่วยเฉพาะกิจนรา ซ่อมสร้างปันสุข เป็นโครงการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ริเริ่มขึ้นในทุกพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งมีฐานะยากจนไร้ที่อยู่อาศัย หรือมีแต่ทรุดโทรมจนยากที่จะอยู่อาศัยได้ตามสภาวะปกติ

สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรื้อบ้านหลังเก่าซึ่งมีสภาพทรุดโทรม และสร้างขึ้นใหม่ให้แก่ น.ส.ซารีผ๊ะ ยักมิง อายุ 47 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีสามี แต่มีลูก 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีความพิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ด้าน กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้ประณามการกระทำดังกล่าวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มุ่งประสงค์ต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่โดยไม่คำนึงว่ากำลังปฏิบัติภารกิจอะไร และทำเพื่อใคร ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้เสียสละทุ่มเทแรงกาย แรงใจ สร้างบ้าน สร้างคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน กลับถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นับว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไร้มนุษยธรรม ไม่คำนึงถึงหลักการอันดีงามของศาสนาและความสุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะต่อพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ซึ่งมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ รวมทั้งมีบุตรพิการที่ต้องดูแล