ชนวนดรามาตำรวจตรวจค้นนักดับเพลิงสนั่นโซเชียลฯ หลังไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ย่านลาดพร้าว 109 พบข้อความอ้าง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยล้อมคอกเพราะเคยมีเคสไฟไหม้พัฒนาการ 65 เมื่อเดือนก่อน ฝ่ายเจ้าของบ้านฟ้องทรัพย์สินสูญหาย แล้วพบว่าเกลือเป็นหนอน แม่บ้านที่อยู่มานานวางแผนขโมยทรัพย์สินแล้วเผาทำลายหลักฐาน แนะให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย
วันนี้ (7 ส.ค.) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยเรื่องราวที่ตนเองเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิงภายในบ้านหลังหนึ่งและหลังจากที่ออกมาได้นั้นกลับโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นตัวเนื่องจากสงสัยว่าได้ขโมยสิ่งของภายในบ้านไปหรือไม่ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : หนุ่มดับเพลิงโอด! ช่วยดับไฟกลับออกมาโดนตำรวจค้นตัว พ้ออย่ามองเราเป็นแบบนี้เลย
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.52 น. วันที่ 6 ส.ค. รับแจ้งจากสายด่วน 199 เหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 109 แยก 5 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมากรุดไปที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุอยู่สุดซอย และที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบรถดับเพลิงเข้ายากมาก ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ 4 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 ห้อง A2 เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบผู้ติดค้าง พบผู้ติดค้างอยู่ด้านบน จึงจัดชุดภายในอาคารเข้าช่วยเหลือ กระทั่งเพลิงสงบเมื่อเวลา 05.15 น. เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง ประมาณ 16 ตารางเมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 27 ปี มีอาการสำลักควัน อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเวชธานี ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องไมโครเวฟ
ขณะเดียวกัน มีการส่งไลน์ในหมู่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนักดับเพลิง ระบุว่า "กรณีเหตุเพลิงไหม้อาคาร 4 ชั้น ในซอยลาดพร้าว 109 แยก 5 ด้วยรับแจ้งมีผู้ติดค้างในอาคารจำนวน 13 ราย หม.2 พร้อมทีมอาคารตรวจสอบช่วยเหลือเรียบร้อย แต่ยังมีอาสามาเปิดห้องตรวจอีกมีหลายทีม ดังนั้น มาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะอาสาเข้ามาในอาคาร กรณีมีประชาชนผู้ติดค้าง 13 คน จึงประสานขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ช่วยตรวจค้น ก่อนตรวจได้แจ้งขอความร่วมมือตำรวจ ขอความร่วมมืออาสา เพื่อความเรียบร้อยในการทำงาน น้องๆ อาสาเข้าใจผู้ดูแลอาคาร เพื่อจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้าไปในตึกด้วย ตรวจด้วยจะได้ไม่มีข้ออ้างตามมาทีหลังมาไม่มีการตรวจค้นและทรัพย์สินสูญหาย จึงเรียนมาเพื่อทราบ"
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ "สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" โพสต์ข้อความชี้แจงว่า "ตามที่มีการแชร์ภาพการตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครตามสื่อโซเชียลต่างๆ หลังจากได้ร่วมกันเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้นั้น
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากมีการกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สินสูญหายเป็นจำนวนมากหลังจากเข้าไประงับเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งได้มีการสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุเป็นแม่บ้านซึ่งอยู่กับเจ้าของบ้านมาเป็นเวลานานเป็นผู้วางแผนก่อเหตุและเผาสร้างสถานการณ์ทำลายหลักฐาน
ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสในการทำงาน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครทุกท่าน ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการขอตรวจค้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ความสบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาหากมีทรัพย์สินในที่เกิดเหตุสูญหาย ลงชื่อ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" พร้อมแนบหลักฐานต่างๆ
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. มีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในซอยพัฒนาการ 65 แยก 2-1 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ กระทั่งเจ้าของบ้านได้เข้าไปร้องทุกข์ในระบบทราฟฟี่ฟองดู ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา กล่าวหาว่าหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการยกเค้าทรัพย์สินของเจ้าของบ้านไปจนเกือบหมดสิ้น มูลค่าหลายสิบล้านบาท ณ วันเกิดเหตุเจ้าบ้านไม่อยู่ติดภารกิจต่างจังหวัด มีเพียงแม่บ้านและคนดูแลบ้านเท่านั้น เมื่อเจ้าบ้านกลับมาถึงมีสารวัตร สน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานรออยู่ชั้นล่าง พาเจ้าของบ้านขึ้นไปชั้นบนเพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมกัน เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่าทรัพย์สินหายไปเกือบทั้งหมด ทางเจ้าของบ้านจึงได้ดำเนินการแจ้งความที่ สน.ประเวศ โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครช่วยดำเนินการติดตามทรัพย์สินคืนกลับมาให้ทางเจ้าของบ้าน เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาศัยช่วงชุลมุนก่อเหตุอุกอาจลักทรัพย์
ภายหลังเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้เข้าไปแจ้งในระบบทราฟฟี่ฟองดู รบกวนให้ส่งคำขอโทษไปให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระบุว่า จับคนร้ายได้แล้ว เป็นแม่บ้านที่ทำงานมากว่า 30 ปี ที่เป็นคนวางแผนและก่อเหตุลักทรัพย์ของเจ้าบ้านไป ผู้ก่อเหตุเป็นคนใกล้ตัว และวางแผนอย่างแยบยล สร้างสถานการณ์บิดเบือนความเป็นจริง และให้การชี้นำไปทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทำให้ข้าพเจ้าตั้งข้อสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หลังทีมสืบสวนสอบสวน สน.ประเวศตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงพบพิรุธ และได้ทำการจับกุมดำเนินคดีผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. หลังจับกุมผู้ก่อเหตุ ผู้แจ้งได้พบกับทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้มีโอกาสพูดคุย ปรับความเข้าใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง และสนทนาในประเด็นต่างๆ ผู้แจ้งและครอบครัวกราบขออภัยทางทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีกครั้ง ที่ได้สงสัยในทีมเจ้าหน้าที่ที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มความสามารถ ผู้แจ้งและครอบครัวต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประเวศที่ทำงานเพื่อประชาชนและสังคมอย่างขยันขันแข็ง และขอชื่นชมในการทำงานและได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอัคคีภัย และบรรเทาทุกข์ร้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตประเวศ กทม. ของพวกเรา สุดท้ายนี้ ผู้แจ้งและครอบครัวต้องกราบขออภัยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกท่านอย่างสุดซึ้งด้วยใจจริง ที่เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิด ด้วยเนื่องสถานการณ์ ณ ตอนนั้นชุลมุนวุ่นวายเป็นอย่างมาก และขอเป็นกำลังใจให้ท่านทำดีเพื่อสังคมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
อีกด้านหนึ่ง มีการเผยแพร่ข้อความที่คาดว่าเป็นลูกน้องของเจ้าของบ้าน ระบุว่า เพิ่งผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านของเจ้านาย เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าของบ้านไปงานต่างจังหวัด เกิดเหตุเพลิงไหม้ตอนบ่าย 2 มีคนแจ้งว่าเห็นควันมาจากห้องนอนชั้น 2 เลยวุ่นวายกันใหญ่ โดยตนโทร.แจ้งบอกเจ้านายก่อน แล้วจึงโทร.แจ้ง 199 โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุหลังแจ้งเหตุสักพัก และเนื่องจากประตูห้องที่เกิดเพลิงไหม้ล็อกกลอนไว้ จึงต้องโทร.ไปแจ้งขออนุญาตกับเจ้านาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงงัดประตูเข้าไปดับเพลิงได้ โดยเจ้านายแจ้งว่ามีทรัพย์สินค่อนข้างเยอะอยู่ในห้อง จึงให้ตนและแม่บ้านชาวพม่าที่ทำงานดูแลเจ้านายมานาน อยู่ดูแลกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังดับเพลิงไหม้ หลังควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้วสักพักใหญ่ เจ้าของบ้านกลับมาถึง และเข้าสำรวจความเสียหายพบว่าอุปกรณ์และเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ ภายในห้องเสียหายเกือบทั้งหมด และพบว่าทรัพย์สินชุดเครื่องเพชร นาฬิกาหรู และเครื่องประดับสูญหายไปทั้งกล่อง จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ โดยตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พบว่ามีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ 3 ฝ่าย คือ 1. ตนเอง (ลูกน้อง) 2. แม่บ้านชาวพม่า 3. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 7-8 คนที่ทำการดับเพลิง ซึ่งตามลำดับเหตุการณ์ เกือบทุกคนสงสัยมุ่งไปที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง
แต่หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ต้องสงสัยคือแม่บ้านชาวพม่า จึงได้เดินทางมาสอบปากคำ โดยแม่บ้านมีพิรุธเป็นอย่างมาก จึงได้ค้นหาทรัพย์สินในห้องนอนแม่บ้านและภายในบริเวณรอบๆ บ้าน จึงพบทรัพย์สินที่สูญหายทั้งหมดมูลค่ารวม 23.5 ล้านบาท ถูกซ่อนไว้ โดยฝีมือแม่บ้านชาวพม่าที่อยู่มาเกือบ 30 ปี โดยจากการสอบสวน สันนิษฐานว่า แม่บ้านวางแผนเข้าไปขโมยทรัพย์สินออกมาก่อน จากการเจาะฝ้าเหนือห้องนอนเข้าไป (มีช่อง Service ที่สามารถขึ้นจากห้องใต้หลังคาไปยังห้องนอนของเจ้านายได้) แล้วจึงเผาทำลายหลักฐานภายในห้องทั้งหมดเนื่องจากฝ้าโดนเจาะเสียหาย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ามีการตัดระบบไฟฟ้าเครื่องบันทึก CCTV หลังเจ้าของบ้านออกเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อดำเนินการโจรกรรมและเผาวางเพลิง จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ดีก็มีอีกเยอะ ถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง คงเกิดความเสียหายยิ่งกว่านี้อีกมากมาย ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเขตประเวศทุกๆ ท่านอย่างยิ่ง #สถานีดับเพลิงเขตประเวศ"