สมาคมนักข่าวฯ จัดโครงการ “มองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ รุ่นที่ 5” เตรียมนำสื่อลงพื้นที่มณฑลยูนนาน ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ชี้การทำงานสื่อท่ามกลางสถานการณ์โลก สื่อมวลชนรับภาระกิจหนัก ข้อมูลไหลบ่า ยากเข้าถึงข้อเท็จจริง คาดหวังโครงการนี้ได้เห็นสถานการณ์จริง รายงานจากสิ่งที่เห็นด้วยตา
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ศูนย์นวัตกรรมและความรู้ฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ศูนย์การค้าบางซื่อจังชั่น ถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร กทม. นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวในการปฐมนิเทศโครงการ “มองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ รุ่นที่ 5” ของ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถึงแนวคิดการขับเคลื่อนของจีนเพื่อฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ด้วยวิธีอันทันสมัยด้วยว่า จีนมีเป้าหมายสร้างความทันสมัยแบบจีนอย่างรอบด้าน ด้วยการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองอีกครั้ง, สร้างความมั่งคั่งสงบสุขให้แก่ประชาชน รวมทั้งร่วมสร้างสันติภาพในสังคมโลก
โดยในปีที่แล้ว (2565) GDP ของจีนเติบโตถึง 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายได้ประชากรต่อคนต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 12,610 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับเกณฑ์ประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงตามที่สหประชาชาติกำหนด เป้าหมายต่อไปของจีน คือ การสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบทให้รุ่งเรืองไปพร้อมกัน สมกับปณิธานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ระบุว่า จะไม่มีใครถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง
นอกจากนี้ จีนจะเน้นการสืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิม พร้อมกับศึกษาความสำเร็จของอารยธรรมชาติอื่น, ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษยชาติกับธรรมชาติ ตามแนวคิด “Blue Skies, Green Mountains, Lucid Waters” ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และจีน จะเลือกเดินในเส้นทางการพัฒนาของตนเองอย่างสันติ
เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ยังได้กล่าวถึงการทำงานของสื่อท่ามกลางสถานการณ์โลกในปัจจุบันว่า ถือเป็นภารกิจหนักของสื่อมวลชน เนื่องจากการไหลบ่าของข้อมูลทำให้ยากที่จะเข้าถึงข้อเท็จจริง ดังนั้นการที่สื่อมวลชนไทยจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์จริงยังมณฑลยูนนานครั้งนี้ จะช่วยให้ได้เห็นสถานการณ์จริง และรายงานเรื่องราวเกี่ยวกับจีนจากสิ่งที่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง
ทั้งนี้ โครงการมองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ รุ่นที่ 5 นอกจากจะเป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสื่อไทยกับสื่อจีนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สื่อไทยได้เข้าใจจีนลึกซึ้งยิ่งขึ้น เนื่องจากจะได้มีโอกาสเห็นสถานการณ์จริงทั้งในเรื่องดีและประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหา
ด้านนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดโครงการมองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สื่อไทยมีข้อมูลที่ได้สมดุล เนื่องจากในอดีตสื่อไทยได้รับข้อมูลด้านเดียวจากสื่อตะวันตก จึงเชื่อว่าหากสื่อมีโอกาสรับข้อมูลจากทั้ง 2 ฝั่ง จะช่วยให้เกิดความสมดุลมากขึ้น
โดยสมาคมฯ และสถานทูตจีนประจำประเทศไทย มีหลักการที่เห็นชอบและยึดมั่นร่วมกัน คือ เปิดกว้างให้ผู้เข้าร่วมโครงการ นำเสนอข้อมูลได้ทุกแง่มุม ทั้งจากการได้สัมผัสรับรู้ด้วยตนเอง และจากการเข้าถึงแหล่งข่าว โดยไม่กำหนดหรือชี้นำว่าต้องนำเสนอแต่ด้านบวกของประเทศจีนเท่านั้น
สำหรับการนำผู้สื่อข่าวไทยลงพื้นที่จีนในปีนี้ สมาคมฯ เลือกมณฑลยูนนาน เป็นพื้นที่เป้าหมายเนื่องจากเป็นประตูของเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย ที่จะมีผลต่อความเจริญในภูมิภาคนี้ ทั้งยังจะช่วยให้สื่อไทย ได้ศึกษานโยบายของจีนในการขจัดปัญหาความยากจนในพื้นที่ห่างไกลความเจริญอย่างยูนนานด้วย
อนึ่ง สำหรับโครงการมองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ รุ่นที่ 5 มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพ 20 คน จากสำนักข่าวต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ จะเดินทางไปยังมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค.นี้