จากกระแสซีรีส์เกาหลี “King the Land” ถ่ายทำในไทย กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ เผยเข้ามาในไทยช่วง ก.พ.ที่ผ่านมา พบครึ่งปีแรกกองถ่ายต่างประเทศถ่ายทำแล้ว 246 เรื่อง จาก 32 ประเทศทั่วโลก สร้างเม็ดเงินมากกว่า 2,334 ล้านบาท เผยความสำเร็จมาจากสถานที่หลากหลาย คนไทยอัธยาศัยดี รัฐอำนวยความสะดวก-ให้สิทธิประโยชน์
วันนี้ (20 ก.ค.) เฟซบุ๊ก TFO Thailand Film Office ของกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยบทความหัวข้อ “กองถ่ายต่างประเทศคึกคัก เข้ามาถ่ายทำในไทยครึ่งปีแรก กว่า 246 เรื่อง” ระบุว่า กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว (Thailand Film Office) เปิดเผยตัวเลขการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของกองถ่ายต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก พบว่ามีคณะถ่ายทำต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำจำนวน 246 เรื่อง จาก 32 ประเทศทั่วโลก และมีงบประมาณการลงทุนถ่ายทำในประเทศมากกว่า 2,334 ล้านบาท
โดยมี 5 อันดับประเทศและเขตปกครองพิเศษฯ ที่เข้ามาถ่ายทำ และสร้างรายได้สูงสุด ดังนี้
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 14 เรื่อง งบประมาณ 519 ล้านบาท
2. สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 17 เรื่อง งบประมาณ 349 ล้านบาท
3. เขตบริหารพิเศษฮ่องกงฯ จำนวน 11 เรื่อง งบประมาณ 328 ล้านบาท
4. สหราชอาณาจักรฯ จำนวน 19 เรื่อง งบประมาณ 261 ล้านบาท
5. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จำนวน 11 เรื่อง งบประมาณ 201 ล้านบาท
โดยจำนวนเรื่องเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2565 (143 เรื่อง) และงบประมาณค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน (พ.ศ. 2565 จำนวน 1,407 ล้านบาท)
ช่วงครึ่งปี พ.ศ. 2566 มีคณะถ่ายทำทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการโทรทัศน์เข้ามาถ่ายทำจำนวนมาก เช่น ซีรีส์เกาหลีที่กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในขณะนี้ เรื่อง “King the Land” คณะถ่ายทำเกาหลีได้เข้ามาถ่ายทำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีสถานที่ถ่ายทำ คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ หรือรายการโทรทัศน์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่อง “Keep Running” ได้เข้ามาถ่ายทำ และแข่งขันในประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีสถานที่ถ่ายทำ คือ กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี
ปัจจัยความสำเร็จที่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ
1. สถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของคณะถ่ายทำต่างประเทศ ไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นประเทศไทย หรือต้องการสมมติเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หรือเหตุการณ์สมมติต่างๆ และมีสตูดิโอที่มีมาตรฐาน มีอุปกรณ์การถ่ายทำที่ทันสมัยพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคณะถ่ายทำจากทั่วทุกมุมโลก
2. ความเชี่ยวชาญและอัธยาศัยไมตรีของทีมงานชาวไทย ที่พร้อมทำงานกับคณะถ่ายทำต่างประเทศ ซึ่งได้รับความชื่นชมจากคณะถ่ายทำต่างประเทศเป็นอย่างมาก
3. การให้สิทธิปรโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำฯ Incentive ในรูปแบบการคืนเงิน Cash Rebate ให้กับคณะถ่ายทำที่มีเงินลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 50 ล้านบาท จำนวนร้อยละ 15-20 ของเงินลงทุนทั้งหมด
4. การอำนวยความสะดวกของภาครัฐ ประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศได้สะดวก และรวดเร็วที่สุด รวมทั้งมีช่องทางในการยื่นขอรับบริการตรวจลงตรา (Visa) และขอรับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ณ ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทํางาน - BOI
การขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยมีระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต จำนวน 3 วันทำการ สำหรับโฆษณา สารคดี MV รายการท่องเที่ยว และสื่อประชาสัมพันธ์ และจำนวน 5-10 วันทำการ สำหรับภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการเรียลิตี รายการแข่งขัน ในขณะที่ในหลายประเทศจะมีระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต จำนวน 1-3 เดือน หรือมากกว่านี้
อีกทั้งในการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ได้มีคณะกรรมการพิจารณาฯ อนุญาตโดยส่วนกลาง (กรมการท่องเที่ยว) ซึ่งสามารถดำเนินการถ่ายทำภาพยนตร์ได้ทั่วประเทศ ในขณะที่หลายประเทศต้องเสนอบทภาพยนตร์เพื่อให้แต่ละรัฐ/เมือง พิจารณาอนุญาตก่อนการถ่ายทำ ซึ่งหากบทภาพยนตร์ต้องถ่ายทำใน Location หลากหลายรัฐ/เมือง ก็จะต้องขออนุญาตในแต่ละที่ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคและสร้างความยุ่งยากให้กับคณะถ่ายทำต่างประเทศเป็นอย่างมาก
การถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยจะส่งผลต่อการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ สร้างงานให้แก่บุคลากรชาวไทย กระจายไปสู่ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ รวมทั้งภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์และภาคการท่องเที่ยวต่อไป
