บุตรชาย นพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย ส.ว. ลุ้นพรรคก้าวไกลยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อเดินหน้าอีกหลายก้าว เผยพ่อยอมรับความสามารถพิธา แต่ยอมไม่ได้เรื่องแก้ไข ม.112
วันนี้ (15 ก.ค.) เฟซบุ๊ก "พีรพัฒน์ คงมาลัย" ของ นพ.พีรพัฒน์ คงมาลัย หรือหมอพีร์ แพทย์ผ่าตัดหัวใจ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี บุตรชาย นพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความระบุว่า "นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง…
ผมคือเด็กสุพรรณ ที่ตั้งใจกลับมาเป็นหมอผ่าตัดหัวใจเพื่อรักษาคนสุพรรณและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความรู้สึกอย่างเต็มเปี่ยมว่าโชคดีที่ได้มีโอกาสมาสร้างทีม ก่อตั้งศูนย์ผ่าตัดหัวใจที่นี่
ผมต่อต้านเผด็จการ และไม่เคยชอบระบบเผด็จการทหารที่มีการบังคับโน่น นี่ นั่น มาตั้งแต่สมัยเรียน รด. เคยทะเลาะกับครูฝึกจนถูกเรียกพบพร้อมผู้ปกครอง
ผมเลือก ส.ส.เขต พรรคชาติไทยพัฒนา คือพี่ยอร์ช สรชัด สุจิตต์ เพราะเห็นความตั้งใจ เห็นผลงานที่พี่ทำมาตลอดเพื่อคนสุพรรณ (ไม่เคยเห็น ไม่รู้จักการทำงานของ ส.ส.เขต พรรคก้าวไกลเลย) แต่ผมเลือกปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล เพราะอยากเห็นประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่มีความสมาร์ท มีความสามารถ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี มีประวัติการศึกษาที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องยอมรับ เวลาดีเบตและอภิปรายก็ดูดี มีความไหลลื่นและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงนโยบายส่วนใหญ่ของพรรคที่น่าสนใจ (การดีเบต นโยบาย และการทำงานของคนในพรรคหลายๆ คนก็น่าประทับใจ)
ผมไม่ชอบการปฏิวัติ และไม่ชอบเผด็จการทหาร อยากเห็นประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลง และบอกตรงๆ ว่าไม่ชอบการทำงานแบบลุงๆ ที่ผ่านมา
และผมได้ปรึกษาหารือกับคุณพ่อ อนุศักดิ์ คงมาลัย หลายครั้งถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำตอบที่ได้คือท่านยอมรับในความสามารถของคุณพิธา และการทำงานของพรรคก้าวไกล แต่ที่ยอมไม่ได้คือเรื่องการแก้ไข ม.112
น่าเสียดายนะครับ ที่ประเทศไทยไม่ได้ลองใช้ความสามารถของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พิธา เนื่องจากข้อจำกัดเรื่อง ม.112 ที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถลดหย่อน หรือยอมความได้เลย ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่จงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ “โดยไม่มีข้อแม้ ไม่สามารถยอมความได้” จึงไม่สามารถโหวตให้กับคุณพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีดังที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้เป็น
การที่จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากความรู้ความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์แล้ว มันก็คงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้การ ”อยู่เป็น” ในสังคมไทยแห่งนี้ และ ณ วันนี้ พรรคก้าวไกลยัง “อยู่ไม่เป็น” ซึ่งก็น่าเสียดายกับโอกาสที่จะได้ใช้ความสามารถของคุณพิธา และทีมงานที่จะได้ลองทำให้คนไทยดูว่าจะพาประเทศไทยไปได้ถึงจุดไหน
ขอลุ้นให้มีปาฏิหาริย์ ให้ก้าวไกลยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อจะเดินไปข้างหน้าอีกหลายก้าว เพื่อให้ประเทศไทยได้ก้าวต่อไปครับ…"