เช็กเสียงโหวต 13 ส.ว.หนุนพิธาเป็นนายกฯ ตรงโผ "ครูหยุย" แค่ 7 คน น่าสนใจอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นคือ "ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง" อดีตนายตำรวจผู้กว้างขวางภาคตะวันออก
รายงาน
ในที่สุด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบเพียง 324 เสียงเท่านั้น ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ 375 เสียง จาก 749 เสียง (ลาออก 1 เสียง)
ความน่าสนใจก็คือ เสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบว่ามีเพียงแค่ 13 เสียงที่โหวตสนับสนุนนายพิธา ไม่เป็นไปอย่างที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าได้เสียง ส.ว.สนับสนุนครบ และโหวตเลือกนายกฯ จบในรอบแรก
ก่อนหน้านี้มีสื่อมวลชนสำนักหนึ่งระบุว่าจะมีเสียง ส.ว.สนับสนุนนายพิธามากถึง 20 เสียง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ส.ว.ที่จะโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ ไม่ถึง 10 เสียง
ปรากฏว่า ส.ว.อย่าง ครูหยุย-วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ตัดสินใจเช็กด้วยตัวเอง พบว่ามีเสียงสนับสนุนเพียง 10 เสียงเท่านั้น พร้อมเปิดเผยรายชื่อ ส.ว. 10 คนที่สนับสนุน
อ่านประกอบ : ครูหยุยอ้างเช็กเอง เอือมปั่นเลข ส.ว.โหวตเลือกพิธา แท้จริงแค่ 10 คน
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างผลโหวตนายกฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. กับข้อมูลที่ครูหยุยเช็กมาได้ พบว่ามี ส.ว.ที่โหวตหนุนนายพิธาตรงกัน 7 คน
ประกอบด้วย นายพิศาล มาณวพัฒน์, นายพีระศักดิ์ พอจิต, นายมณเฑียร บุญตัน, นายวันชัย สอนสิริ, นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์, นพ.อำพล จินดาวัฒนะ และ นางประภาศรี สุฉันทบุตร
ส่วนคนที่มีชื่อว่าจะโหวตหนุนนายพิธา แต่ไม่ได้โหวตหนุน คือ นายทรงเดช เสนอคำ, นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม และนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์
ที่น่าสนใจคือ คนที่สื่อระบุว่าจะโหวตหนุนนายพิธา ครูหยุยเช็กแล้วไม่หนุน แต่พอลงคะแนนจริงโหวตหนุน คือ นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล บุตรชายนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ประธานกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
แต่ที่ไม่เคยปรากฏว่าจะโหวตหนุนนายพิธามาก่อน แล้วมาโหวตหนุน คือ ศ.ดร.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล, พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นายเฉลา พวงมาลัย อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบรมราชินีนาถวิทยาลัย ราชบุรี, นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ที่ดำรงตำแหน่งมายาวนาน
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ มีชื่อของ พล.ต.ท.ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง โหวตสนับสนุนนายพิธา ซึ่งชื่อเดิมก็คือ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 19 (ตท.19) และนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 35 (นรต.35)
อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 คุมพื้นที่ภาคตะวันออก ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถึงขนาดที่ทำการตำรวจภูธรภาค 2 แห่งใหม่ แถวมอเตอร์เวย์ด่านบางพระ ยังมีชื่อ "ห้องประชุมรอดบางยาง"
มีฉายาที่สื่อตั้งให้ว่า “นายพลตีนตุ๊กแก” ยึดตำแหน่งเหนียวแน่น ทั้งที่ในพื้นที่มีคดีอาชญากรรมใหญ่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งชิงทรัพย์ร้านทอง ปล้นรถขนเงิน ตัดตู้เอทีเอ็ม ที่ยังจับไม่ได้ รวมถึงคดียาเสพติด แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ต่อ
อีกฉายาหนึ่ง "ฉลามตาฟาง" เพราะตั้งแต่มารับตำแหน่ง มีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องอบายมุขมากมาย แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไข แถมยังปล่อยให้ปัญหาอาชญากรรมผุดขึ้นมากมาย
สร้างความฮือฮา ด้วยการประกาศลาออกจากราชการก่อนเกษียณเพียง 5 เดือน เพื่อเข้ารับตำแหน่ง ส.ว.ในช่วงปลายสมัยรัฐบาล คสช. ที่ว่ากันว่ามีความใกล้ชิดกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งวางมือทางการเมือง
บังเอิญว่าในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลตีไข่แตกภาคตะวันออกหลายพื้นที่ เฉพาะจังหวัดชลบุรี ได้มาถึง 7 เขต ขนาดบ้านใหญ่อย่างตระกูลคุณปลื้ม ที่ย้ายมาเป็นครอบครัวเพื่อไทย ยังได้มาแค่ที่นั่งเดียว
และพรรคก้าวไกลกำลังวางตัวรัฐมนตรีคนดังจากภาคตะวันออก คือ ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล สาวหน้ามนคนชลบุรี เป็นว่าที่ขุนคลังหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย
จึงเป็นนัยที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ผลโหวตออกมาแบบนี้ เส้นทางการเมืองของอดีตนายตำรวจเจ้าของฉายา "ฉลามตาฟาง" จะไปทางไหน?
