"อ.ทวีสุข" เชื่อผู้ชิงนายกฯ ตอนนี้แค่ตัวหลอก ตัวจริงจะมาทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จากนั้นจับตาการขอกู้ต่างชาติ จะเลือกใคร และยอมเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตมากขนาดไหน บวกกับสงครามเอเชียแปซิฟิกที่จะมีในอีกไม่นาน ชี้หากไทยเลือกข้างผิดเสี่ยงถึงขั้นสิ้นชาติ
วันที่ 11 ก.ค. 2566 อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "เดิมพันมหาวิกฤตการเงินและสงคราม ทางแพร่งที่ไทยต้องเลือกข้าง?"
นายทวีสุขกล่าวในช่วงหนึ่งถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลกและการเมืองโลกที่ว่าจะเกิดการรีเซตว่า ตอนนี้เราอยู่เฟสสอง เฟสแรกโรคระบาด การก่อหนี้มหาศาล ดอกเบี้ยจะตีกลับ คนล้มด้วยหนี้ ดังนั้นกระบวนการความอดอยากมันก็จะเกิดขึ้น
เฟสที่สอง การขยายตัวของสงคราม การขยายตัววิกฤตเศรษฐกิจ วันนี้ตัวเลขส่งออกทั้งโลกติดลบหมดเลย แล้วสงครามการค้าก็รุนแรงมากขึ้น ตรงนี้ไม่ง่าย และท้าทาย ย้อนหลังไปเราไม่เคยเจอวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกพร้อมกันแบบนี้ แม้แต่ปี 40 จีนเปิดประเทศแล้วจีนดันกลับ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เหตุการณ์จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผู้คนในเอเชียแปซิฟิก ในยุโรป จะเกิดการอพยพโยกย้ายครั้งใหญ่ มีคนจำนวนหนึ่งได้ประโยชน์ มีคนมากมายมหาศาลสูญเสียผลประโยชน์ เราอยู่ฝั่งไหนอันนี้เราตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านที่จะมองจังหวะเกมตรงนี้ให้ออก และก็การแบ่งแยกสมรภูมิหลังจากนี้มันคือความชัดเจน เศรษฐกิจจะกลับตัวยังไง
ในเมื่อดอกเบี้ยสูงกว่าจีดีพีที่เติบโตไป 5-6 เท่า วันนี้ดอกเบี้ยขึ้น รายได้ทุกคนลด สุดท้ายทุกประเทศจะอ่อนแอด้วยกันหมด จังหวะเทิร์นกลับต้องไปดูหน้างานอีกครั้ง
นายทวีสุขกล่าวอีกว่า มาที่ไทย ตนไม่ได้สนใจใครจะเป็นนายกฯ สนใจแค่ว่านายทาสใช้ทาสคนไหน วันนี้ก็จะถูกลัทธิประชาธิปไตย พูดกันประชาธิปไตย นโยบายเป็นเหมาหรือมาร์กก็ไม่รู้ พฤติกรรมเป็นนาซีผสมอยู่ในที่เดียวกัน จำเหตุการณ์เรื่องคืนบาปพรหมพิรามได้ไหม คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ฉันทามติ เรากำลังเป็นประชาธิปไตยแบบคืนบาปพรหมพิรามหรือเปล่า อย่าให้มันเป็นแบบนั้น มิตรจะกลายเป็นศัตรู
ตนมองอีกมุม ว่าที่ที่มาร้อนแรงขณะนี้ แค่ตัวหลอก รู้อยู่แล้วว่าตั้งไม่ได้ เพราะยืนในสิ่งที่คนรับไม่ได้ อะไรคือวัตถุประสงค์ที่ตั้งไม่ได้ เพราะเป็นตัวหลอก เดี๋ยวมีตัวจริง เพราะประเทศไทยอยู่ในภูมิรัฐศาสตร์ที่จำเป็นอย่างยิ่ง ตัวจริงจะมา จะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ วันนี้หนี้ล้นทั้งหนี้จีดีพี หนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจประเทศไทย มาถึงจุดจุดหนึ่งแล้วว่า ทางเลือกที่หนึ่ง จะล้มเศรษฐกิจโดยระบบธนาคารไม่ล้ม พอลากกันไปได้ แต่ถ้าลามไประบบแบงก์ล้ม ที่เราเห็นในอเมริกามันง่ายมากเลย แต่บ้านเรามีระบบป้องกันดีกว่านั้น แบงก์ชาติรู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องรับมืออย่างไรเพื่อไม่ให้แบงก์ล้ม
แล้วตัวจริงที่เป็นเพื่อนรักอยู่ใกล้ๆ พร้อมที่จะคอนโทรลได้ หักได้ในเวลาใกล้ๆ เหมือนที่หักเรื่องประธานสภา เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจะกู้กับใคร และสิทธิสภาพนอกอาณาเขตจะยอมรับในกี่เรื่อง เพราะรอบที่แล้ว กฎหมาย 11 ฉบับก็ยังอยู่ดี ทั้งที่ปี 44 บอกจะยกเลิก แล้วก็สามารถสูบ 2 ใน 5 ของจีดีพีไหลไปในนามของการลงทุนต่างประเทศทุกปี จนทุกวันนี้คนไทยก็ยากลำบาก
นายทวีสุขกล่าวต่ออีกว่า สงครามเอเชียแปซิฟิกจะมีในอีกไม่นาน คนที่จะมาส่วนใหญ่จะเลือกใคร มันก็จะมีขั้นตอนการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แล้วระหว่างเลือกข้างก็เกิดเรื่องวุ่นวายไปเรื่อยๆ กับข้างที่เลือกแพ้หรือชนะ เพราะฉะนั้นโอกาสเสี่ยงถึงระดับสิ้นชาติมันมีสูงมาก
สภาวะที่ประเทศไทยเจอขณะนี้ เราเหมือนไททานิก แล่นด้วยความเร็วเต็มพิกัด ข้างหน้ามีภูเขาน้ำแข็ง บวกกับมีพายุใหญ่ที่คลื่นสูงเป็นสิบเมตร แต่มีกัปตันเรือที่ชนะการแข่งขันเรือหางยาว ขึ้นอยู่กับพระเจ้าแล้วว่าจะผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้อย่างไร
โจทย์หลังจากนี้คือเกิดวิกฤตและยังยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง อันนี้ดีที่สุด แต่ถ้าเกิดแล้วระบบการเงินไปไม่ไหว ต้องขอความช่วยเหลือ จะขอจากใคร และสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่ต้องเซ็นยอมรับคืออะไร เมื่อเกิดสงคราม ซึ่งในอีกไม่นานเขาจะเลือกเข้าข้างใคร ก็จะเกิดปัญหาระหว่างนั้น พอจบแล้ว เราอยู่ข้างแพ้หรือชนะ โจทย์นี้สำคัญที่สุด
สภาวะนี้ คนที่เข้าใจจะรวยแบบไม่รู้เรื่อง คนล้มไปเลยก็มี เหตุการณ์ Global politics มันไม่จบ จะจบก็ต่อเมื่อทุกคนมีมติว่าเราเลิกเถอะ แล้วกลับมาฟื้นฟูโลกกันใหม่ นั่นคือจุดสุดท้าย