กรณีที่ตำรวจทางหลวงจับกุมคนที่ค้างชำระค่าผ่านทาง M-Flow มากกว่า 200-300 เที่ยวในช่วงที่ผ่านมา หลายคนกังวลว่ารถตัวเองจะติดหนี้ M-Flow หรือไม่ พามาดูวิธีเช็กค่าผ่านทางด้วยตัวเอง แม้ไม่ได้เป็นสมาชิก และหากพบว่าไม่ได้ใช้ หรือรถถูกสวมทะเบียน มีวิธีโต้แย้งค่าผ่านทางได้
วันนี้ (7 ก.ค.) จากกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจทางหลวงกวดขับ จับกุม รถป้ายแดงปลอม รถสวมทะเบียน และรถที่ไม่ชำระค่าผ่านทางระบบเอ็มโฟลว์ (M-Flow) เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนบนทางหลวง ลดปัญหาการก่ออาชญากรรม รวมถึงติดตามรายได้จากค่าผ่านทางและค่าปรับที่ค้างชำระให้กับกรมทางหลวง เพื่อจะนำไปพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุง ถนน สะพาน ที่อยู่ในความรับผิดชอบ พบว่ามีรายงานการจับกุมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. จับกุมนายพรศักดิ์ เจริญหล้า อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี และศาลจังหวัดมีนบุรี ได้ที่บริเวณสะพานข้ามคลองพิมลราช ถ.กาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ข้อหา “ใช้ยานยนต์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม” หลังตัวแทนกรมทางหลวงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (รามอินทรา) ว่ามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow กว่า 360 เที่ยว คิดเป็นยอดเงิน 10,800 บาท เมื่อรวมกับค่าปรับ 10 เท่า จะเป็นเงินที่ค้างชำระกรมทางหลวงจำนวน 118,800 บาท
ต่อมาวันที่ 3 ก.ค. จับกุม นายเติน นัว อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกผัก ได้ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง M-Flow ว่ารถที่นายเตินขับมีการค้างชำระค่าผ่านทางอยู่ในกลุ่มยอดสูงสุด 20 ลำดับแรก ยอดค้างชำระจำนวนทั้งสิ้น 266 เที่ยว รวมค่าผ่านทางและค่าปรับเป็นเงิน 71,580 บาท กระทั่งได้ใช้ด่าน M-Flow แล้วไม่ชำระค่าผ่านทางอีก สารภาพว่ารับขับรถขนของจากตลาดสี่มุมเมืองไป จ.ชลบุรี ที่ผ่านมาได้เข้าช่อง M-Flow มากกว่า 100 ครั้ง และยอมรับว่าไม่เคยจ่ายค่าผ่านทางเลย ปกตินายจ้างจะให้เงินค่าทางด่วน แต่ตนเห็นว่าช่อง M-Flow รถไม่ติด และไม่มีการเรียกเก็บเงิน จึงได้ใช้มาตลอดโดยไม่เคยชำระค่าผ่านทาง
กระทั่งวันที่ 4 ก.ค. จับกุมนายกำธร (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ได้ที่หอพักบริเวณซอยราชา 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังค้างชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow จำนวน 243 เที่ยว อยู่ใน 20 ลำดับแรกที่มียอดค้างชำระสูงสุด และกรมทางหลวงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไม่มาพบตามหมายเรียก จึงได้ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ยอมรับว่าไม่ได้ชำระค่าผ่านทาง อ้างว่าปกติผ่านช่อง M-Flow เป็นประจำ เพราะรถไม่ติดและคิดว่าเปิดให้วิ่งฟรี
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เจ้าพนักงานทางหลวงและตำรวจกองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งรับผิดชอบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 และหมายเลข 9 กำลังจับตารถยนต์ในข่ายเข้าใช้ช่องทางระบบ M Flow มียอดค้างชำระค่าผ่านทาง 300-400 รายการขึ้นไป จำนวน 20 ป้ายทะเบียน เพื่อดำเนินคดีฐานใช้ยานยนต์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม มีทั้งทะเบียนป้ายดำและทะเบียนป้ายแดง ซึ่งตามกฎหมายผู้ใช้รถใช้ถนนที่ใช้ช่อง M-Flow ต้องชำระค่าผ่านทางภายใน 7 วัน หากเกิน 7 วันจะต้องจ่ายค่าปรับ 10 เท่าของค่าผ่านทาง
จากข่าวที่เกิดขึ้น มีประชาชนกังวลว่ารถยนต์ของตนเองจะถูกเรียกเก็บค่าผ่านทาง M-Flow โดยไม่รู้ตัวหรือไม่ เพราะอาจมีบางคนหลงลืม หรือบางคนกังวลว่าทะเบียนรถของตนจะถูกสวมทะเบียน ซึ่งมีวิธีค้นหาเพื่อชำระค่าผ่านทางสำหรับผู้ไม่เป็นสมาชิก M-flow ผ่านเว็บไซต์ mflowthai.com เข้าไปที่เมนู "วิ่งช่องผ่านทาง M-Flow แต่ไม่ใช่สมาชิก" กรอกหมายเลขทะเบียนรถลงไป โดยระบุหมายเลขป้ายทะเบียนรถ ระบบจะตรวจสอบรายการค้างชำระ โดยหากมีรายการค้างชำระ สามารถชำระค่าผ่านทางได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
1. ชำระผ่าน QR Code โดยเข้าไปในเว็บไซต์ หรือ Mobile Application ด้วยการค้นหาจากป้ายทะเบียนรถ และสามารถนำ QR Code ดังกล่าวไปชำระเงินที่ Mobile Banking Application, ตู้ ATM ทุกธนาคาร และเคาน์เตอร์ธนาคารที่เปิดรับชำระเงิน
2. ชำระผ่านบัตรเครดิต โดยเข้าไปในเว็บไซต์ หรือ Mobile Application ด้วยการค้นหาจากป้ายทะเบียนรถและกรอกรายละเอียดหมายเลขบัตรเครดิต
3. ชำระผ่านบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยแจ้งหมายเลขทะเบียนรถ กับเจ้าหน้าที่เพื่อชำระค่าบริการ M-Flow
สำหรับผู้ที่พบว่ามีรายการค้างชำระ M-Flow แต่ไม่ได้ใช้ยานพาหนะในวันและเวลาดังกล่าว สามารถเข้าสู่กระบวนการโต้แย้งค่าผ่านทางได้ โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์ https://mflowthai.com/mflow/dispute เลือกเหตุผลในการโต้แย้ง และข้อมูลรถ
หากมีปัญหาเรื่องการสวมทะเบียนเกิดขึ้น ทางหน่วยงาน จะมีทีมในการตรวจสอบ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทางดำเนินการรวบรวมเอกสารเพื่อยื่นโต้แย้งฯ ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์และรอผลอนุมัติการโต้แย้งฯ เมื่อทาง M-Flow ได้รับแจ้งผ่านเว็บไซต์ พนักงานจะต้องตรวจสอบเอกสารที่ส่งมาว่าครบถ้วน ถูกต้องหรือไม่ และพนักงานจะต้องรวบรวมข้อมูลที่เป็นหลักฐานทางฝั่งของ M-Flow เพื่อส่งให้กรมทางหลวงพิจารณาด้วยเช่นกัน ซึ่งกรมทางหลวงมีกระบวนการในการดำเนินการประมาณ 10 วันทำการ ให้ผู้รอผลการตัดสินจากกรมทางหลวง ถ้าได้รับอนุมัติจากกรมฯ จะมีการคืนเงินให้ภายใน 3 วันทำการหลังอนุมัติ
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถสมัครสมาชิก M-Flow ได้ที่เว็บไซต์ mflowthai.com และแอปพลิเคชัน M-Flow จะมีระบบแจ้งเตือนการชำระเงินผ่านทาง SMS อีเมล และข้อความแจ้งเตือนบนแอปพลิเคชัน (Push Notification) ก่อนถึงกำหนดชำระเงิน เช่น หากเลือกการชำระด้วยตนเอง ระบบจะส่ง SMS หลังจากที่ท่านผ่านทาง แต่ถ้าเลือกการชำระเงินแบบอัตโนมัติ ระบบจะแจ้งเตือนก่อนถึงรอบระยะเวลาการตัดชำระ รวมทั้งสามารถชำระผ่านช่องทางออนไลน์ได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบรายครั้งและรายเดือน ได้แก่ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร โมบายล์แบงกิ้ง ฯลฯ นอกจากนี้ หากผู้ใช้รถใช้ถนนสะดวกชำระค่าผ่านทางเป็นเงินสด เมื่อสมัครสมาชิกแล้วสามารถแจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนเพื่อชำระค่าผ่านทางได้อีกด้วย