xs
xsm
sm
md
lg

“วิโรจน์” จี้ ตรวจสอบขบวนการตรวจสภาพรถทิพย์ สกลนคร แฉ ช่างบางคน มีเครื่องบินเล็ก-อพาร์ตเมนต์-รถหรูเพียบ วอนเร่งขันนอต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
“วิโรจน์” จี้ อธิบดีกรมขนส่งทางบก ตรวจสอบขบวนการตรวจสภาพรถทิพย์สกลนคร หลังมีการร้องเรียน แฉ บางคน มีเครื่องบินเล็ก-อพาร์ตเมนต์-รถหรูเพียบ วอนเร่งขันนอต

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการตรวจสภาพรถทิพย์ จ.สกลนคร นำเอกสารมาร้องเรียนให้ตรวจสอบ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนขอเรียกร้อง ไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เนื่องจากพื้นที่นี้มีการร้องเรียนหลายครั้ง และเป็นระยะเวลานานแล้ว ในเรื่องมีกระบวนการตรวจสภาพรถทิพย์

นายวิโรจน์ ไล่เรียงว่า โดยในภาพใหญ่ ทุกครั้งที่เราไปออกรถป้ายแดง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ทางดีลเลอร์รถจะบอกว่า เป็นค่าทะเบียนหรือค่าดำเนินการออกรถใหม่ แล้วคนที่ออกรถป้ายแดงก็จะรู้สึกดีใจ ถือเป็นความเฮงๆ เขาเรียกเท่าไรก็เอาเงินไปจ่ายเท่านั้น แต่ปรากฏว่า บิลค่าใช้จ่ายที่ออกมา มีค่าใช้จ่ายไม่เท่าไร เช่น ภาษีรถยนต์มีค่าธรรมเนียมในการออกรถใหม่แค่ 55บาท แต่ปรากฏว่าเก็บจริงไปหลายพันบาท เลยตั้งข้อสงสัยว่า เก็บไปให้ใคร เอาไปให้ช่างตรวจสภาพรถ-เจ้าหน้าที่บางคนหรือไม่ เรื่องนี้พัวพันกับใครบ้าง มองว่าไม่ใช่ค่าบริการธรรมดา

มิหนำซ้ำ เวลาที่ผ่อนหมดแล้ว จะต้องมีการโอนปิดบัญชี ทำให้ต้องมีการโอนชื่อจากไฟแนนซ์มาเป็นเจ้าของรถ ซึ่งตามจริงต้องจ่าย 105 บาท แต่ปรากฏว่าหลายคนจ่ายไปหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถว่าหรูขนาดไหน เกรดอะไร หากเป็นรถหรูจะจ่ายแพง ซึ่งเมื่อสักครู่ตนได้ตรวจสอบกับกลุ่มไรเดอร์ที่มาร้องเรียนกับพรรคก้าวไกล พบว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งผู้เสียหายเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นค่าบริการที่ให้ตัวแทนไปดำเนินการแทน ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นเรื่องพัวพันที่ต้องนำเงินไปให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนบางคนด้วย หรือแม้กระทั่งช่างตรวจสภาพรถ

นายวิโรจน์ ตั้งคำถามว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ กี่สิบปีแล้ว ขบวนการนี้ใหญ่ขนาดไหนที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน รวมถึงรถป้ายแดงควรมีอีกหรือไม่ เนื่องจากหากปัจจุบันพัฒนาเป็นระบบออนไลน์แล้ว ควรจะเป็นรถป้ายดำโดยทันที “สมัยก่อนเรามีรถป้ายแดงเพื่อรอให้เดินงานธุรการ จึงให้สวมป้ายแดงไปก่อน แต่ในปัจจุบันไม่จำเป็นแล้ว ผมคิดว่าต้องทบทวนกฎระเบียบ ว่ารถที่เพิ่งออกจากโรงงาน จำเป็นต้องตรวจสภาพเพื่ออะไร ไม่จำเป็นต้องตรวจแล้วถูกหรือไม่ ให้ดีลเลอร์หรือศูนย์ขายรถคีย์เข้าระบบไปเลยว่าเลขเครื่องเลขอะไร ตัวถังเป็นเลขอะไร กฎหมายตัวนี้ออกมาเพื่ออะไร ไม่มีใครที่อยากขับรถป้ายแดงไปตรวจตามขนส่งอยู่แล้ว หรือขับรถลูกค้าไปตรวจนอกศูนย์รถ”

นายวิโรจน์ ยังกล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากลัวคือ รถสวมทะเบียน รถจดประกอบ และรถที่ไปซื้อซาก ที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วเอาเลขคลัสซี ไปสวมรอย กับรถที่โจรกรรมมา ซึ่งตามระเบียบการซื้อรถมือสอง ต้องมีการตรวจสภาพเหมือนกัน แล้วมีระเบียบที่ให้ทางเจ้าหน้าที่หรือช่างตรวจสภาพ มาตรวจนอกสถานที่ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่สอบถามมาเบื้องต้น คือไม่ได้มาตรวจจริง เอาเอกสารพร้อมผลประโยชน์บางอย่างแล้วให้เซ็นชื่อ เหมือนกับตรวจแล้ว เรียกว่าตรวจทิพย์

“แม้กระทั่งมาถ่ายรูปกับรถ ช่างยังไม่มาถ่ายเลย เอาเอกสารไปเซ็น พูดง่ายๆคือขายลายเซ็น ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างไร ทำไมประเทศที่เขาพัฒนาแล้วถึงไม่มีการโจรกรรมรถ เพราะเขารู้ว่ารถที่โจรกรรมมาจดทะเบียนไม่ได้ แต่หากยังมีการตรวจสภาพรถทิพย์อยู่ ก็จะเจอกับรถสวมทะเบียน”

นายวิโรจน์ ย้ำว่า คนทั่วไปก็เดือดร้อน เนื่องจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ถูกขโมย ตราบใดที่การจดทะเบียนรถมีความหละหลวม ปัญหารถหายก็ยังเกิดขึ้น การโจรกรรมรถก็จะเบ่งบาน ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด พร้อมฝากไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้ช่วยขันน็อต และหวังว่าจะได้รับคำตอบ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้งมาเป็นปีแล้ว และหากยังไม่เชื่อ ตนจะเปิดไลน์ให้ดู ว่าทางกรมการขนส่งทางบกพูดคุยอะไรกับผู้เสียหายบ้าง ซึ่งตนเห็นแล้วตกใจมาก เพราะการตรวจต้องพาช่างออกไปตรวจไม่ใช่พาคนเข้ามาให้เซ็นชื่อ มองว่าเป็นการรีดไถประชาชน โดยที่ประชาชนไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามว่า ช่างที่ตรวจสภาพรถเป็นช่างเอกชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลว่าเป็นช่างตรวจสภาพของรัฐบางคน ยังเหมารวมไม่ได้ ซึ่งจากที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่บางคนมีเครื่องบินเล็กเป็นของตัวเอง จึงตั้งข้อสังเกตว่า ช่างตรวจสภาพจะมีเครื่องบินเล็กของตัวเองได้อย่างไร มีอพาร์ทเม้นต์ มีรถยนต์หรู “โอ้ มีเงินเดือน 30,000-40,000 บาท ไม่น่าจะมีเครื่องบินเล็กได้ แปลกนะ มีอพาร์ตเมนต์เช่า 3-4 ห้อง ควรจะเข้าไปตรวจสอบว่าท่านทำอะไรถึงรวยขนาดนี้”

เมื่อถามว่า คณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใกล้จะจบลงแล้ว หลังปิดตัวจะมีการสานต่องานอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการหารือกัน ถึงการร่างนโยบายเพื่อแถลงต่อสภา จะได้เป็นเข็มทิศนำทางในการจัดการกับส่วยและคอร์รัปชันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เห็นตรงกันคือการนำเทคโนโลยีมาใช้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส


กำลังโหลดความคิดเห็น