xs
xsm
sm
md
lg

NIA ผนึก 4 ภาคส่วน จัดงาน "SITE 2023" นำไทยสู่ชาตินวัตกรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA แถลงข่าวการจัดงาน “สตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023” (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023: SITE 2023) งานมหกรรมนวัตกรรมและเครือข่ายสตาร์ทอัพไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP - TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม ผนึกกำลัง 4 ภาคส่วนของประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม พร้อมรวมพลนักรบเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2566 เปิดให้เข้าร่วมฟรีทุกกิจกรรม

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ณ อาคารสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า นับจากปี 2020 ที่ NIA ได้รวมการจัดสองงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศ STARTUP THAILAND และ INNOVATION THAILAND EXPO เข้าด้วยกัน นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของเหล่าสตาร์ทอัพและนวัตกรรมชั้นนำของไทย มาร่วมสร้างโลกนวัตกรรมเสมือนจริง (Virtual World) ครั้งแรกของประเทศ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศผ่านพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเพื่อปรับกระบวนทัศน์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตต่างๆ ในปี 2021 งาน Startup x Innovation Thailand Expo (SITE) จึงได้มุ่งเน้นการถ่ายทอดแนวทางการส่งเสริม พัฒนาและสร้างโอกาสเติบโตในเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) เพราะเราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีเชิงลึกจะเป็นอาวุธสำคัญในการต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีอื่น เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่โลกอนาคตได้อย่างทัดเทียมประเทศชั้นนำของโลกได้ จนมาถึงปี 2022 แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มร้อย งาน SITE จึงสร้างสะพานเชื่อมผู้คนในแวดวงนวัตกรรมจากประเทศไทยและทั่วโลกมาเจอกัน (Reconnecting the World) ให้กลับมามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เพื่อรองรับการเปิดเมืองหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย
หลังจากงาน SITE 2022 เราได้เห็นการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรมของไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายสาขามากขึ้น ผลสำเร็จของงาน SITE2022 มีส่วนส่งเสริมให้ไทยมีระบบนิเวศเหมาะต่อการลงทุนด้านนวัตกรรมยิ่งขึ้นด้วย เราพบว่าแทบทุกองค์กรกระโดดลงมาทำธุรกิจเชิงลึก กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองที่ดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาจัดตั้งธุรกิจ มี Digital Nomad เป็นอันดับ 2 ของโลก เกิดการตื่นตัวของมหาวิทยาลัยที่มี incubator และจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพ เรามีกฎเกณฑ์และกฎหมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น และการลงทุนในสตาร์ทอัพยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเรามีภารกิจในการผลักดัน Government Procurement เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบริการของภาครัฐที่ดีขึ้น การลงทุนในสตาร์ทอัพ ระหว่าง Angel Investor และบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อดึงดูดการลงทุนในระดับสากล และสุดท้ายคือการผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ส่งเสริมสตาร์ทอัพ
และเป็นที่น่ายินดี รายงานของ StartupBlink ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการจัดตั้งสตาร์ทอัพ โดยมี "กรุงเทพฯ" เป็นเมืองศูนย์กลางระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศ ที่สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากปี 2022 โดยขยับขึ้น 25 อันดับเป็นที่ 74 ของโลก และที่ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังสามารถรักษาอันดับที่ 43 ของโลกในด้านอุตสาหกรรมการขนส่ง (Transportation) ไว้ได้อีกด้วย แต่เรายังมีความหวังว่าจะขึ้นติด Top 30 ภายในปี 2030 ซึ่งนั่นต้องอาศัยการร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อจะไปถึงในจุดนั้น
และภายใต้สภาวะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สิ่งที่เราอยากเห็นสังคมไทยมีคือ Innovation Mindset หรือการมีทัศนคติที่ดีต่อนวัตกรรม คือการพร้อมรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง การมองหาโอกาสและแนวทางใหม่ๆ จากการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ และการเร่งเสร้างการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการใช้และขยายผลนวัตกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องสร้างและปลูกฝังให้กับหน่วยงานและบุคลากร ทั้งในระดับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนภาคประชาชน เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เปิดรับนวัตกรรมและพร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไปจนถึงการร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก”
ดังนั้น งาน SITE ในปีนี้คือการกลับมาอีกครั้งของอีเวนต์เต็มรูปแบบ เป็นการกลับมาของงาน Tech Conference ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมหกรรมนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี งาน Startup x Innovation Thailand 2023 เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของเหล่านักรบเศรษฐกิจใหม่ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กพร้อมเหล่าหัวกะทิสตาร์ทอัพจากทั่วโลก ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม นักลงทุน ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP - TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม เป็นความร่วมมือทางนวัตกรรมครั้งสำคัญของ 4 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งในระบบนิเวศนวัตกรรมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นชาตินวัตกรรม”
ภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ 1) FORUM พบกับสัมมนาจากวิทยากรระดับท็อปทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 20 ท่าน ตลอด 3 วันเต็ม ภายใต้ 3 หัวข้อหลัก คือ BRIDGING PUBLIC & PRIVATE PARTNERSHIP, ACCELERATING INNOVATION BUSINESS & PARTNERSHIP และ HACKING FOR NEW INVESTMENT & GROWTH MODEL ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจในหลากหลายประเด็น กว่า 30 หัวข้อ เช่น
▪ “Digital Innovation in Public Sector - What made Estonia becoming a leader in digital living” โดย Mr. Siim Sikkut, Former Chief Information Officer, Government of Estonia
▪ "นวัตกรรมด้านสังคมเพื่อโลกในอนาคต” (Social Innovation: Shaping the Future) โดย Mr. Renaud Meyer, Resident Representative, UNDP
▪ ความคิดสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรม : ขุมพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมไทย (Creativity & Cultural Capital as Thailand's Innovation Powerhouse
▪ Unlocking the Power of Festivals: Driving Economic Growth and Cultural Engagement โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
▪ “Predicting the Unpredictable for Resilient Transformation” โดย Prof. Rene Rohrbeck, Director of Chair for Foresight, Innovation and Transformation, EDHEC Business School
▪ Keys to success for innovative organizations “ถอดรหัสความสำเร็จองค์กรนวัตกรรม”
▪ ”การเชื่อมโยงกลไกสนับสนุนทุนนวัตกรรมของภาครัฐสำหรับผู้ประกอบการไทย”
2) BUSINESS OPPORTUNITY โอกาสสำคัญในการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดธุรกิจ พบกับตลาดสินค้านวัตกรรมจากสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมชั้นนำที่จะมาแนะนำสินค้านวัตกรรมกว่า 250 ราย พร้อมด้วยกิจกรรม PITCHING การนำเสนอแผนธุรกิจจากสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรมกว่า 50 ราย, INTERNATIONAL ZONE พบกับหน่วยงานต่างชาติกว่า 10 หน่วยงานจาก 5 ประเทศ​ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจใน BUSINESS MATCHING และ NETWORKING สานสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ 3) SHOW การแสดงนวัตกรรมที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต และ 4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วยรางวัลสำหรับนวัตกรรมรับมือวิกฤตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภายในงานแถลงข่าวยังได้จัดการเสวนา จาก 4 หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชนและสมาคม โดยคุณอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) กล่าวว่า “กพร.ได้รวบรวมนวัตกรรม 11 หน่วยงานภาครัฐเพื่อจัดนิทรรศการในงาน SITE2023 นอกจากนั้น บนเวทีมีหัวข้อที่น่าสนใจอย่างเรื่อง “Better Data, Better Decision” ทำให้เห็นว่าในปัจจุบัน Data จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาครัฐและจะส่งผลไปถึงภาคเอกชนด้วย”
คุณวรกาญจน์ โกศลพิศิษฐ์กุล ผอ.กองเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า “บทบาทหน้าที่หลักของ BOI คือการเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน เราได้ออกมาตรการส่งเสริมสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ ภายใต้ พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เราต้องการให้ ecosystem ของสตาร์ทอัพมีความเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดเป็นฐานรากของเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต และเป็นเสาหลักในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม ในงาน SITE2023 เราจะรวบรวมเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ สตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการก็สามารถเข้ามาขอคำแนะ คำปรึกษาได้”
คุณศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ กรรมการคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมและวิจัย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "หอการค้าไทยมีพันธกิจสำคัญในการร่วมมือส่งเสริมผู้ประกอบการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยยึดหลักการ CCS คือ Connect, Competitive และ Sustainable สำหรับงาน SITE2023 หอการค้าได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมผู้ประกอบการที่มาจากความร่วมมือของหน่วยงานเป็นเมล็ดพันธุ์ในการบ่มเพาะ และกลุ่ม SMEs ที่ทรานส์ฟอร์มและปรับ mindset ตัวเองเข้าสู่โหมด Startup ซึ่งจะมาร่วมแสดงออกบูทในงานที่ SITE 2023 ด้วยครับ"

คุณประภาศิริ อรรถจินต์ Head of Ecosystem บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า ”เราเชื่อมั่นว่า Startup และ Innovation จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่ 4.0 กรุงศรี ฟินโนเวต เรามี mission ที่จะช่วยส่งเสริมระบบนิเวศของ Startup ของไทยและก็ของในภูมิภาคด้วย นอกจากในเรื่องของเงินทุนในการสนับสนุนแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่อง partnership ซึ่งสำคัญมากในการที่จะต่อยอดให้ Startup เติบโตได้”

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Startup Universe 2023 Update เพื่อแสดงถึงโอกาสและความเข้มแข็งของระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทย งาน SITE 2023 พร้อมกลับมาให้ทุกคนได้พบปะกันอีกครั้ง NIA จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจด้านความก้าวหน้าทาง นวัตกรรม บุคลากรภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ SMEs และ Startups บุคลากรภาค สถาบันการศึกษา กลุ่มนักลงทุน บริษัทร่วมลงทุน เข้าร่วมชมงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2023 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยลงทะเบียนได้ที่ site/nia.or.th
กำลังโหลดความคิดเห็น