BNK48 เปิดตัวซิงเกิลที่ 14 “สัญญานะ” ครบรอบ 6 ปีของวงอย่างเป็นทางการ พร้อมกับจะร่วมทำกิจกรรมกับทางกรุงเทพมหานครในโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า “ฝาก....ด้วยนะ” โปรโมตชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว
หลังจากที่ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวงและผู้จัดการวงบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ได้ประกาศจบการศึกษาหรือลาออกจากการเป็นสมาชิกวง ในงาน “BNK48 JANKEN TOURNAMENT 2023” เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับการประกาศเพลงซิงเกิลลำดับที่ 14 ของวง ซึ่งมีชื่อว่า “สัญญานะ” ในที่สุดก็มีการเปิดตัวเพลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 6 ปีของวง นับตั้งแต่การเปิดตัววงครั้งแรกในปี 2559
ช่วงเริ่มงานก็มีสมาชิกของวงทั้ง 4 รุ่น ได้มาทำการแสดงซิงเกิลต่างๆ ให้แฟนคลับได้รับชมกันก่อน โดยแบ่งเซตเซ็มบัตสึในเพลงต่างๆ ทั้ง Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ), Iiwake Maybe, Koisuru Fortune Cookie (คุกกี้เสี่ยงทาย) ก่อนที่จะทำการแสดงร่วมกันในเพลง Namida Surprise! (ประกายน้ำตาและรอยยิ้ม)
หลังจากนั้น ทั้งเฌอปรางและสมาชิกของเพลง รวม 16 คน ก็ได้ทำการแสดงซิงเกิลที่ 14 ในเพลง “สัญญานะ” อย่างเป็นทางการ โดยมีสมาชิกของเพลง คือ เฌอปราง อารีย์กุล เซ็นเตอร์ของซิงเกิล, ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา, แอล-สิริกร นิลกษาปน์, แพนเค้ก-พิทยาภรณ์ เกียรติฐิตินันท์, ปาเอญ่า-นิพพิชฌาน์ พิพิธเดชา, ฮูพ-ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย, มินมิน-รชยา ทัพพ์คุณานนต์, จีจี้-ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล, มารีน-กชพร พรโชคชัย, แจนรี่-กัลยารัตน์ ปั้นพิพัฒน์, มิโอริ โอคุโบะ, วี-วีรยา จาง, โมเน่ต์-ภาริตา ริเริ่มกุล, โยเกิร์ต-นพรดา เลิศวิริยะพร, เฟม-นันทภัค กิตติรัตนวิวัฒน์, และป๊อปเป้อ-พิณญาดา จึงกาญจนา มาร่วมทำการแสดง
โดยซิงเกิลนี้ก็เป็นเพลง Original Song ของวง เป็นแนวเพลงเจป็อปที่ผสมผสานกับแมตชิ่งแบนด์ ซึ่งได้มีการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในช่วงเที่ยงวันของวันจัดงาน ก่อนที่จะมีการประกาศร่วมกันกับทางกรุงเทพมหานคร กับโปรเจกต์ “ฝาก...ด้วยนะ” ซึ่งเป็นโครงการโปรโมตชุมชนหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ กทม. เพื่อให้สถานที่นั้นๆ ได้รับความนิยมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทำให้ กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่ โดยมี ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมประกาศร่วมกับวงในครั้งนี้
ภายหลังจากที่มีการประกาศร่วมมือกันสิ้นสุดลง ก็ได้มีการแสดงจากทางวงกับซิงเกิลต่างๆ โดยสมาชิกวงในแต่ละยูนิต ทั้ง Heart Gata Virus (หัวใจไวรัส), Temodemo no Namida (ถึงแม้จะมีน้ำตา), Mata Anata no Koto wo Kangaeteta (คิดถึง...), สายซับ, Yume Wa Nigenai (จะไม่หนีจากความฝัน) (เพลงคัฟเวอร์ของซีจีเอ็มโฟร์ตีเอต) และ Hajimete no Hoshi (ดาวดวงแรก) ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยหนึ่งในซิงเกิลรองของซิงเกิลที่ 14 จากสมาชิกทั้งหมดของวง นั่นคือ Tsuyosa to Yowasa no Aida de (สุดท้ายที่อยากบอก) จนเรียกน้ำตาทั้งสมาชิกและเหล่าแฟนคลับเป็นการปิดท้าย
โดย เฌอปราง ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของงานในครั้งนี้ว่า “คือตอนที่วางแผนงานกันไว้ว่าจะมีซิงเกิลที่ 14 เราก็แบบเอาไงกันดี เพราะมันก็กระชั้นชิดที่จะทำงานนี่ ว่าจะเปิดตัวตอนไหนอันไหนจะเหมาะสมกับช่วงเวลาที่สุด แล้วมันก็บังเอิญว่ามันตรงกับงานเปิดตัววันครบรอบพอดี เลยเอามาเป็นวันเปิดตัวซิงเกิลนี้เลยไหม เพราะเราก็ไม่ได้เฉลิมฉลองทุกปีอยู่แล้ว บางทีแบบฉลองนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้จัดงานอะไรยิ่งใหญ่ พอมาตอนนี้กไหนๆ ก็ครบรอบ 6 ปี ในครั้งนี้พอดี บวกกับเฌอได้ประกาศจบการศึกษาพอดี ก็เลยเป็นวันที่ 2 มิถุนายน อาจจะเป็นวันที่เหมาะสมก็ได้”
เมื่อถูกถามถึงที่มาที่ไปของซิงเกิลนี้ เฌอปรางกล่าวต่อว่า “ได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอไปบางส่วนแล้วนะคะ ส่วนตัวเนื้อเพลงแน่นอนว่าก็มาจากคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ฝาก bnk48 ด้วยนะคะ” ชัดเจนอย่างง่ายดายนะคะ ซึ่งถ้าเกิดได้ฟังเพลงเต็มๆ ก็จะเข้าใจความรู้สึกว่าคนที่เขียนเพลงนี้ขึ้นมา เขามองเฌอประมาณไหน แล้วเขารู้สึกว่าเฌออยากจะทำซิงเกิลนี้ประมาณนี้แหละ ซึ่งตอนที่เราได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก เราก็แบบ นี่คือสิ่งที่เราอยากสื่อสารออกมา แต่เราเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก เหมือนกัน เราก็รู้สึกดีใจมาก ซึ่งพี่กอล์ฟ ซูเปอร์เบเกอร์ (ประภพ ชมถาวร) แล้วเพลงนี้ก็เป็นการบรีฟผ่านทาง ครูเอ๊ะ (พงศ์จักร พิษฐานพร) ส่วนคอนเซ็ปต์ที่ปรีฟไปก็คือเราอยากส่งต่อที่นี่ ครูเขาก็พยายามหาคำว่าอันไหนดี เอาคำไหนที่เป็นธีมหลักของเพลงดีๆ ครูเขาก็นั่งดูเฌอสัมภาษณ์ต่างๆแล้วก็นึกคำนี้ขึ้นมาพอดี ว่าเฌอชอบใช้คำนี้มาก ว่า “ฝาก BNK48 ด้วยนะคะ” ที่ทุกคนชอบแซวกันอยู่ตลอด ไม่ว่าจะฝากผลงานลักษณะไหนก็ตามเราก็จะมีคำนี้ติดตัวอยู่เสมอ ครูเขาก็เลยเอาประโยคนี้แหละที่เป็นตัวเฌอที่สุด เขาก็เลยเอามาเป็นหัวข้อหลักในการเขียนเพลง ในการทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา นอกจากนี้ มิโอริ สมาชิกรุ่น 1 ก็มีส่วนช่วยในการทำซิงเกิลนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะประสานงานกับทางครูเต้นทางฝั่งญี่ปุ่น ว่าแปลเนื้อภาษาไทยไปให้ทางฝั่งญี่ปุ่น และช่วยงานต่างๆ ด้วย
“แล้วตัวคอนเซ็ปต์ เราก็อยากจะได้แบบสไตล์ 48 กรุ๊ป ที่น่ารักสดใส ให้กำลังใจ มีความเป็น bnk48 บ่งบอกถึงกรุงเทพฯ ด้วย เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม เพลงนี้สามารถใช้ในแง่ที่เป็นของฝากให้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นฝากทุกคนฝากคนรุ่นใหม่ ที่จะดูแลรักษาในพื้นที่หนึ่ง ของอย่างหนึ่ง ไปเรื่อยๆ เขาเรียกว่าสามารถประยุกต์ใช้ได้ต่อเรื่อยๆ ค่ะ ขณะเดียวกัน โปรเจกต์นี้ก็จะมีความร่วมมือกับทางกรุงเทพมหานคร ในชื่อโครงการว่า “ฝาก…ด้วยนะ” ซึ่งแล้วแต่ละคนจะฝากอะไรก็ตามทั้ง BNK48 และกรุงเทพฯ ก็ไปเติมคำกันเอา แล้วก็เดี๋ยวเราจะมีไปตามชุมชนต่างๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยว หรือว่าสถานที่ชุมชนต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยค่ะ”
เมื่อถูกถามถึงสมาชิกวงที่ติดเซ็มบัตสึเพลงหลักเป็นครั้งแรก มารีน-กชพร สมาชิกรุ่นที่ 4 กล่าวว่า “ตอนแรกหนูก็ไม่คิดว่าตัวเองจะติดเซ็มบัตสึเพลงนี้เหมือนกัน มีความรู้สึกตกใจและดีใจที่ได้อยู่ในซิงเกิลนี้ของพี่เฌอค่ะ ขอบคุณค่ะ” ด้าน โยเกิร์ต-นพรดา สมาชิกรุ่นที่ 3 กล่าวว่า “ก็ดีใจมากๆ นะคะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซิงเกิลนี้ แล้วรู้สึกว่ายิ่งพอเป็นซิงเกิลของพี่เฌอ ก็ดีใจและเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้มาอยู่ในซิงเกิลนี้ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ” และปิดท้ายด้วย ป็อปเปอร์-พินญาดา อีกหนึ่งในสมาชิกรุ่นที่ 3 ได้กล่าวว่า “คือติดเซ็มบัตสึเพลงหลักครั้งแรก ก็เป็นซิงเกิลจบการศึกษาของคามิโอชิตัวเองพอดี (หัวเราะ) ตอนแรกก็มีความรู้สึกที่ปนกันไปหมดเลยค่ะ ก็เสียใจนะแต่ก็ดีใจ แล้วก็จะทำให้เต็มที่ค่ะ ให้สมกับที่พี่เฌอไว้วางใจให้ติดเซ็มบัตสึเพลงนี้ค่ะ”
ส่วนคำถามถึงชุดของซิงเกิลนี้ ฟอนต์-ณัฐทิชา ได้อธิบายว่า “สำหรับชุดวันนี้จริงๆหรือว่าเอกลักษณ์อยู่ที่เรื่องสี ที่น่าจะชัดเจนมากๆ เพราะเป็นสีม่วงซึ่งเป็นสีประจำวง แล้วก็มีดอกกล้วยไม้ซึ่งบ่งบอกความเป็นตัววงด้วย อีกทั้งในแต่ละคนก็มีชุดที่แตกต่างกันด้วย เพราะว่ามีรายละเอียดของแต่ละชุดแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเลย ซึ่งแตกต่างจากชุดเซ็มบัตสึก่อนหน้านี้ที่มีรูปแบบเดียวกัน แต่ครั้งนี้ทุกคนจะมีชุดเป็นของตัวเอง อาจจะมีแตกต่างกันบ้างตรงเรื่องเสื้อแต่ชุดส่วนล่างก็ไม่เหมือนกันเลย ลองไปสังเกตกันดูนะคะ” ขณะที่เฌอปรางได้เสริมว่า “ไม่ได้ตั้งใจให้คล้ายแต่ว่าออกมาคล้ายเพราะเป็นความชอบส่วนตัวของเฌอค่ะ (หัวเราะ) เรียกว่าเป็นซิงเกิลที่ค่อนข้างตามใจเฌอสูงมากเหมือนกัน เรียกว่าเป็น Single ที่มีส่วนร่วมในการทำตั้งแต่แรก แล้วก็คัดเลือกแบบ ออกแบบ เลือกเพลง ดูแลสมาชิกของเพลง และเสนอผู้ใหญ่ว่าตรงนี้โอเคหรือเปล่า ก็ค่อนข้างแฮปปี้ที่มีหางปลาบนชุดซึ่งพี่สไตลิสต์ก็จัดมาให้ ซึ่งเป็นทีมที่ออกแบบและดูแลพวกเรามาตั้งแต่ Single แรก ก็ยังทำให้อยู่จนถึงทุกวันนี้ก็ดีใจมากๆ และก็ขอบคุณมากๆ ที่ยังเอ็นดูหนูด้วย หลายๆ คนก็กลับมาทันมันเหมือนว่ารู้ใจกันอยู่แล้ว พี่ๆ เขาก็เสนอแล้วว่าเฌอเอาสีแบบนี้ๆ ใช่ไหม พี่ทำ LINE มาแบบนี้นะ เราก็มีการคอมเมนต์กลับไปมาอยู่ตลอด เพราะเพลงนี้ค่อนข้างฉุกละหุกหลายๆ อย่างที่บอกก่อนหน้า เรื่องท่าเต้นนี่คือเพิ่งเรียนเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเองค่ะ ซึ่งทางญี่ปุ่นออกแบบให้ ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็อยากจะให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ เลยให้ทางครูชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ออกแบบ พวกหนูก็แบบได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ได้ก่อนที่จะไปงานไทยเฟสต์ที่ญี่ปุ่น แล้วก็กลับมาซ้อมกันเมื่อไม่นานมานี้เอง แล้วก็มาถ่ายเอ็มวีค่ะ”
สำหรับความรู้สึกของตัวแทนแต่ละรุ่นที่มีต่อตัวเฌอปราง มิโอริ สมาชิกรุ่น 1 กล่าวว่า “ก็รู้สึกดีใจมากๆ เลยที่มีส่วนร่วมในซิงเกิลนี้ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าเพลงนี้เป็นเพลงจบการศึกษาของพี่เฌอ ก็มีความรู้สึกเศร้าบ้างแต่ก็ดีใจที่พี่เฌอมีเพลงเป็นของตัวเอง มีทุกความรู้สึกปนกันหมดเลย ซึ่งพวกเราก็ทำเต็มที่เหมือนเดิม” ด้าน จีจี้-ณัฐกุล สมาชิกรุ่น 2 กล่าวว่า “สำหรับซิงเกิลนี้นะคะ หนูก็รู้สึกว่าตอนที่เต้นกับพี่เฌอซึ่งเราอยู่ข้างหลังพี่เขา เราก็ยินดีกับพี่เฌอที่จะเติบโตไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นการส่งท้ายที่ยิ่งใหญ่มากๆ เห็นพี่เฌอบอกว่ามีความสุขในทุกๆ ขั้นตอนของเพลงนี้ หนูรู้สึกว่ามันไม่ใช่เพลงที่น่ารัก แต่ความหมายทุกๆ อย่างมันแฝงไปด้วยความหมายที่พี่เฌออยากจะสื่อสารทั้งตัวสมาชิกวงเองที่ยังอยู่ และแฟนคลับที่จะอยู่กับสมาชิกวงต่อไป ก็รู้สึกว่าเพลงนี้มีความหมายมากๆ อยากให้เป็นเพลงที่ดีและเป็นความทรงจำของวงตลอดไป”
ขณะที่ โมเน่ต์-ภาริตา สมาชิกรุ่น 3 กล่าวว่า “ความจริงหนูเป็นคนที่อ่อนไหวมากๆกับประเด็นพี่เฌอ เพราะพี่เขาคอยดูแลรุ่น 3 มาตั้งแต่ที่พวกเราไม่เคยเต้นและร้องกันมาก่อน ซึ่งพอมาเต้นในเพลงนี้ หนูคิดว่าเพื่อนๆ รุ่น 3 น่าจะดีใจกันแน่ๆ ที่มีโอกาสได้เต้นเพลงเดียวกับพี่เฌอ เต้นอยู่ข้างหลังหรือแถวเดียวกับพี่เฌอ ซึ่งหนูได้เต้นข้างหลังพี่เขาก็รู้สึกว่ามันเหมือนมีพลังบางอย่างที่ออกมาจากข้างหลังพี่เขา ซึ่งพี่เฌอก็พยายามมากๆ จริงๆ ใน 6 ปีที่ผ่านมาก็อยากให้เพลงนี้ออกมาดีที่สุดค่ะแล้วจะพยายามตั้งใจให้ได้มากที่สุดและจะไม่ร้องไห้ค่ะ” และปิดท้ายด้วย แจนรี่-กัลยารัตน์ สมาชิกรุ่นที่ 4 ก็กล่าวว่า “โดยส่วนตัวเพลงนี้ก็เป็นการติดเซ็มบัตสึครั้งที่สองของตัวเองนะคะ และเป็นซิงเกิลจบการศึกษาของพี่เฌอด้วย ก็มีความรู้สึกหลายๆอย่างไม่แตกต่างจากทุกคน มีทั้งดีใจและเสียใจ มีหลายๆ อย่างเข้ามาในหัวไปหมด ก็อยากจะทำให้เต็มที่มากๆ ค่ะ”
เมื่อถูกถามว่าในส่วนของเฌอเองอยากจะให้แฟนคลับสัญญาอะไร และตัวเฌอเองจะสัญญาอะไรกับแฟนคลับบ้าง และความสำคัญของคำว่าสัญญาคืออะไร เฌอปราง ก็ได้ตอบปิดท้ายว่า “จริงๆ เพลงนี้ในตอนแรกชื่อว่า ฝากด้วยนะ ซึ่งมันเป็น คอนเซ็ปต์เพลงแล้วมันตรงตัวเกินไป เราเลยคิดว่าเราเอาอะไรดี เลยเปลี่ยนมาเป็นคำว่า สัญญานะ แทนไหม ซึ่งอารมณ์ก็ยังให้คำว่าฝากด้วยนะแทน ถามว่าสัญญาอะไรไหม ในเนื้อเพลงนี้ก็มีคำว่าขอฝากได้ไหมเป็นคำถามอยู่ตลอดนะคะ ซึ่งแล้วแต่แฟนๆ แต่ละท่านละกัน เพราะตัวเฌอก็เป็นคนหนึ่งที่คงจะเต็มที่ในเส้นทางต่อไปของตัวเองแน่นอน รวมถึงสนับสนุนน้องๆในฐานะผู้จัดการวงต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพยายามทำในส่วนนี้”
“แล้วก็เหมือนเดิมค่ะอยากให้น้องๆ เต็มที่กับตัววงและได้เติบโตเหมือนกับที่ตัวเราได้เติบโตขึ้นมากับวงในระยะเวลา 6 ปี จากที่พูดออกสื่อไม่เก่งกลายเป็นพูดได้ขนาดนี้ซึ่งเราก็มีความรู้สึกว่ามีการเติบโตเหมือนกัน ก็เลยอยากให้น้องๆ ได้เติบโตในเส้นทางสายนี้ รวมถึงทำบ้านหลังนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเป็นที่ยอมรับของผู้คนต่อไปเรื่อยๆ หรือมีความโด่งดังกลับขึ้นมาอีกแบบมากๆ จากที่เป็นที่สนใจอยู่แล้วจากทุกๆ คน ซึ่งอาจจะมาจากรุ่นต่อไป เพราะตอนนี้รุ่น 1 ในวงเหลือแค่ 2 คนแล้ว ซึ่งถ้าฟังเนื้อเพลงก็คือความรู้สึกของเราจริงๆ หนูใส่ในนั้นไว้หมดแล้ว (หัวเราะ) ก็จะขอฝากน้องๆ ตัววง ให้เอ็นดูพวกเราต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ก็ฝากด้วยค่ะ”