หวิดสิ้นชื่อ “จิมมี่ ชวาลา” เศรษฐีใจบุญพันล้านเมืองนครศรีธรรมราช ขับรถกระบะถูกรถบรรทุกสิบล้อเฉี่ยวชนจนกระบะพังยับ แต่โชคดีเจ็บเพียงเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เวลา 18.00 น. เกิดอุบัติเหตุขณะที่นายจิมมี่ ชวาลา อายุ 66 ปี เศรษฐีใจบุญพันล้านเมืองนครศรีธรรมราช กำลังขับรถยนต์กระบะตอนครึ่งสีเทา ยี่ห้อโตโยต้า นครศรีธรรมราช ไปตามถนนสายนาพรุ-สี่แยกหัวถนน ถึงบริเวณสะพานหนองแตน ท้องที่ ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช กลับจากทำธุระส่วนตัว ขณะที่กำลังขับหน้ารถบรรทุกสิบล้อคันหนึ่ง ปรากฏว่าได้ถูกรถบรรทุกชนท้ายรถยนต์กระบะของนายจิมมี่ ทำให้รถยนต์กระบะของนายจิมมี่เสียหลักหมุนหัวรถด้านหน้ามาชนกับรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวอย่างจัง ทำให้สภาพด้านหน้ารถยนต์กระบะพังยับเสียหลักจอดกลางถนน ส่วนรถบรรทุกสิบล้อคู่กรณีได้ขับเลยไปประมาณเกือบ100 เมตรแล้วจอดสภาพรถสิบล้อเสียหายเล็กน้อย
หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.พระพรหม รถกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ และพลเมืองดี ชาวบ้านและรถกู้ชีพ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่าภายในรถยนต์กระบะตรงเบาะที่นั่งคนขับพบนายจิมมี่ ชวาลาคนขับนั่งอยู่ในรถเพียงคนเดียวยังมีสติดีได้รับบาดเจ็บที่แขนขวาเลือดออกเล็กน้อย แต่ไม่สามารถเปิดประตูด้านคนขับออกมาได้ แม้ จนท.หน่วยกู้ภัยต่างๆ และพลเมืองดีจะพยายามดึงเปิดประตูด้านคนขับแต่ไม่สามารถเปิดได้ ซึ่ง จนท.กู้ภัยจึงตัดสินใจไปเปิดประตูด้านข้างคนขับออกมาได้ ก่อนที่ จนท.จะทำการช่วยเหลืออุ้มร่างนายจิมมี่ออกมาอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนายจิมมี่ยังมีสติดีพูดจารู้เรื่องไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มีเพียงบาดแผลเลือดไหลที่แขนขวาเล็กน้อย ก่อนที่จนท.กู้ภัยจะรีบนำร่างนายจิมมี่ขึ้นรถกู้ภัย ส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชทำการรักษาบาดแผลจนพ้นขีดอันตรายท่ามกลางความโล่งอกของชาวนครศรีธรรมราชที่รู้ข่าวว่านายจิมมี่ปลอดภัยดีแล้ว เนื่องจากนายจิมมี่ เป็นคนดีใจบุญทำให้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองจนรอดปลอดภัยมาได้ในครั้งนี้
สำหรับนายจิมมี่ ชวาลา วัย 66 ปี เป็นคนใจบุญ ทำธุรกิจห้างผ้ารายใหญ่ของ จ.นครศรีธรรมราช เคยบริจาคเงิน 25 ล้านบาท ซื้อทองคำบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร บริจาคเงินให้กับโครงการก้าวคนละก้าวของ “ตูน บอดี้สแลม” จำนวน 16 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลจัดซื้อเครื่องมือการแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอีกหลายครั้งหลายสิบล้านบาท จนได้รับคำชื่นชมจากสังคมว่าเป็น “เศรษฐีผู้ใจบุญเมืองนคร”
