“สนธิ” เผยดีเอสไอแจ้งข้อหา “แทนไท” ฟอกเงิน-จัดให้เล่นพนันออนไลน์ ตบหน้า “ชูวิทย์” ที่บอกว่าแปลงร่างไปทำธุรกิจสุจริตแล้ว ซ้ำเงินที่รับโอนจาก “นอท กองสลากพลัส” 200 ล้าน เป็นเงินร่วมลงทุน ไม่ใช่เงินกู้ตามที่อ้าง
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายแทนไท ณรงค์กูล ชายหนุ่มที่อวดรวยด้วยการประมูลป้ายทะเบียนรถราคาแพงถึง 45 ล้านบาท และนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เจ้าของแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งออนไลน์ “กองสลากพลัส” ที่ถูกสั่งปิดไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีมติออกหมายเรียกตัวนายแทนไท และ บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในฐานะ ผู้ต้องหาข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหมายเรียกดังกล่าวถือเป็นการตบหน้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ก่อนหน้านี้ออกมาพูดเหมือนการันตีหลังจากพบกับนายแทนไทว่า นายแทนไทนั้น อดีตไม่รู้เป็นยังไง แต่ปัจจุบันกลับเนื้อกลับตัวมาทำอาชีพสุจริตแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอได้แถลงข่าวโดยระบุว่าคดีของนายแทนไทและนายนอท พันธ์ธวัช เป็นการร่วมกันก่อเหตุ โดยหมายเรียกนายแทนไทเป็นหนึ่งใน 4 หมายเรียกผู้ต้องหาที่เป็นนายทุนของนอท กองสลากพลัส โดยหมายเรียกฉบับแรกคือ นายแทนไท หมายที่สอง คือ บริษัทไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ของนายแทนไทที่มีข้อสงสัยว่าเอาเงินมาจากไหนมาเพิ่มทุนบริษัทจาก 5 ล้านบาทเป็น 900 ล้านบาทภายใน 8-9 เดือน หมายที่สามและสี่ เป็นหมายบุคคล เป็นนักธุรกิจที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักในสังคม โดยทั้งสองรายนี้ได้ประสานมาว่าจะเข้ารับทราบข้อหาใน วันที่ 20 เมษายน 2566 นี้ จากนั้นดีเอสไอจะนำส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาซึ่งมีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ รวมอยู่ด้วยให้กับพนักงานอัยการ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสรุปสำนวนแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2566 นี้
“สำหรับคุณแทนไทนั้นรู้สึกว่าจะเป็นคนมีดวงสมพงษ์กับอัยการ เพราะเรื่องของคุณแทนไทนั้นเคยถูกอัยการสั่งไม่ฟ้องมาแล้วแต่ว่าไม่รอดคดีแพ่ง ผมก็ไม่รู้ว่างวดนี้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องอีกหรือเปล่า ก็เลยอยากจะฝากท่านอัยการว่าท่านอัยการคนเก่าอัยการสูงสุดท่านสิงห์ชัยนั้น ท่านมีชื่อเสียงมากนักเว็บพนันออนไลน์หลายคนคดี เรื่องเกี่ยวกับเว็บพนันเมื่อไปถึงมือท่านอัยการสูงสุดก่อนท่านเกษียณท่านได้เซ็นสั่งไม่ฟ้องออกมาหลายคดีแล้ว ผมหวังว่าท่านอัยการคนปัจจุบันหรือคนที่จะต่อจากคนปัจจุบันนี้ไปคงจะพิจารณาเรื่องราวนี้ให้ดีๆ มีคนตั้งข้อสงสัยกับอัยการมามากตั้งแต่สมัยท่านอัยการสิงห์ชัยแล้ว แล้วคดีที่โดนสั่งไม่ฟ้องคือคดีคุณแทนไทหวังว่าคดีนี้่คงจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ” นายสนธิกล่าว
หลักฐานโยง “นอท กองสลากพลัส”
ส่วนที่นายพันธ์ธวัช ตั้งข้อสงสัยว่าตัวเองกลายเป็นเป้าที่ถูกกลั่นแกล้งหรือไม่นั้น นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ได้อธิบายที่มาที่ไปของคดีว่า ในตอนแรกการสืบสวนไม่ได้พุ่งเป้าไปนายพันธ์ธวัช แต่คดีนี้เริ่มมาจากคดีของบัญชีม้าที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อยักย้ายถ่ายเทเงินผิดกฎหมาย
ผอ.ศูนย์คดียาเสพติดเจ้าของสำนวน อธิบายว่าจุดเริ่มต้นสำหรับคดีพิเศษที่ 288/2565 “ร่วมกันฟอกเงิน” คือ ดีเอสไอได้รับข้อมูลแจ้งเบาะแสว่ามี กลุ่มจัดหาบัญชีม้าที่เรียกว่าโบรกเกอร์บัญชีม้า จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ และขายให้กลุ่มอาชญากรรมต่างๆ โดยหัวหน้าแก๊งโบรกเกอร์บัญชีม้านี้ชื่อว่า นายสุทิน ใจสนุก กลุ่มชื่อ "ม้าเดินได้" เปิดบัญชีม้าไว้ถอนเงินออก ดำเนินการในลักษณะฟอกเงินให้กับกลุ่มอาชญากรรมผิดกฎหมายต่าง ๆ เช่น พนันออนไลน์ ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ เป็นต้น โดยแต่ละเดือน นายสุทิน จะเบิกถอนเงินสดให้กลุ่มฟอกเงินไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท โดยข้อมูล ดีเอสไอ พบว่า 3 ปี มีกว่า 800 บัญชี และยังไม่รวมที่ปิดบัญชีหรือตรวจไม่พบอีก
ต่อมาดีเอสไอสืบสวนพบว่าผู้มาใช้บริการกลุ่มนายสุทินโยงไปถึงนอทกองสลากพลัส มีความพัวพันตรงที่ร่วมกันในการนำสลากที่ถูกรางวัลแล้วมูลค่า 53 ล้านบาทให้นายเฟยไปขึ้นรางวัลเพื่อสร้างเส้นทางการเงินขึ้นมา เมื่อนำสลาก 53ล้านบาทไปขึ้นเงินเงินที่ได้มาเป็นแคชเชียร์เช็คจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เงิน 53 ล้านบาทจึงกลายเป็นเงินที่ได้จากการถูกรางวัลทำให้นายนอทถูกแจ้งข้อหาด้วย ไม่มีใครจงใจเล่นงานแต่ดีเอสไอมีที่มาที่ไป
ขณะเดียวกันคดีพิเศษ 288/2565ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 23 รายจากทั้งหมด 41 รายที่เหลือเป็นเพียงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับและหลบหนีส่วนใหญ่แล้วเป็นบัญชีม้าทางดีเอสไอเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการภายในวันที่ 30 เมษายนนี้
“แทนไทป้ายแพง”ร่วมลงทุน “นอท” ไม่ใช่ให้กู้
คดีพิเศษ 6/2566 ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน พบว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มขายล็อตเตอรี่ออนไลน์ของของพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ และเกี่ยวข้องกับนายทุนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือนายแทนไท ณรงค์กูล โดยพฤติการณ์ของนายแทนไทที่เป็นเหตุให้ดีเอสไอแจ้งข้อหาในคดี 6/2566 เริ่มจากดีเอสไอเตรียมอายัดเงินในบัญชีนายนอท กองสลากพลัส จากมูลเหตุคดีแรก แต่พบว่าก่อนถูกอายัดเงินในบัญชีมีการโอนเงิน 2 ครั้ง มูลค่า 200 ล้านบาท, 150 ล้านบาทและ 50 ล้านบาทไปให้นายแทนไท ดีเอสไอจึงเชิญนายแทนไทมาสอบปากคำ นายแทนไทอ้างว่าเป็นการให้กู้ยืมแต่พนักงานสอบสวนพบหลักฐานเป็นลักษณะ "ร่วมกันลงทุน" ต่างจากการกู้ยืมที่มีการตอบรับดอกเบี้ยอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ หลักฐานทั้งที่นายแทนไทและบริษัทนำมาชี้แจงแสดงว่าไม่ใช่การกู้เงินแต่เป็นการร่วมลงทุนจึงเป็นเหตุให้แจ้งข้อกล่าวหาและมารับทราบข้อหาแล้วเมื่อวันที่ 7เมษายน 2566
เรื่องนี้อธิบดีดีเอสไอเปิดเผยถึงรายละเอียดที่นายแทนไทพร้อมทนายความเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 7เมษายนที่ผ่านมาว่า นายแทนไทโต้แย้งว่าเป็นการให้กู้ แต่ในข้อเท็จจริงจากทีมคณะสอบสวนที่ดูข้อมูลอย่างละเอียดแล้วเป็นลักษณะการร่วมลงทุน ต่างจากการกู้เงินแล้วได้รับดอกเบี้ยอย่างสิ้นเชิง ซึ่งรายละเอียดต้องขอสงวนไว้เป็นข้อต่อสู้ทางคดี แต่เชื่อว่าหลักฐานที่นายแทนไทกับทางบริษัทฯ เอามาแสดงไม่ใช่การกู้เงินแต่เป็นการร่วมลงทุน ดังนั้นในข้อหาที่แจ้งต่อนายแทนไทและนิติบุคคลของบริษัทเป็นลักษณะที่มีการร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและฟอกเงิน
“เรื่องการร่วมลงทุนนั้นรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ได้แคปเอารายการข้อมูลที่คุณนอทเอาไปออกรายการกับคุณกรรชัย คุณหนุ่ม แค่พลิกออกมาว่ามีใครบ้างที่มีสัญญากู้เงิน ทำให้ผมและทีมงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกคนหนึ่งที่ขออนุญาตปิดชื่อ เช็กออกมาว่านี่มันหนังสือการร่วมลงทุ นนี่ไม่ใช่การกู้เงิน และจากจุดนี้เลยก็เลยไปมัดเอาคุณแทนไทเต็มตัว”นายสนธิกล่าว