อีกหนึ่งตำรวจน้ำดีมีน้ำใจ ผู้ปฏิบัติงานใช้กฎหมายควบคู่หลักปกครอง ได้ใจทั้งประชาชน ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ หรือสารวัตรต่อ สว.จร.สภ.เมืองพัทยา นายตำรวจนายนี้ไม่ใช่มีดีกรีเพียงแค่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ด้วยความมุ่งมั่นในวัยเด็กทำให้การปฏิบัติหน้าที่ตำรวจนั้นเต็มไปด้วยความรักในอาชีพ
ครั้งหนึ่งประชาชนคนหนึ่งได้หลงทางและรถสียอยู่พัทยาได้พบกับ สารวัตรต่อ โดยบังเอิญ ก็ได้ให้การเอื้อเฟื้อรวมถึงจัดหาที่พักให้โดยไม่รู้ว่าผู้เขียนนั้นเป็นสื่อมวลชนแต่ท่านก็มีน้ำใจให้แก่ประชาชน จนผู้เขียนได้ทำความรู้จักและสืบทราบเบื้องลึกจากผู้ใต้บังคับบัญชาและการปฏิบัติหน้าที่ของสารวัตรต่อ จึงเห็นว่าท่านเป็นแบบนี้ เป็นตำรวจที่ดี ที่จะสร้างชื่อให้วงการตำรวจขจรไกลในภายหน้า ทั้งการปฏิบัติหน้าที่ สารวัตรต่อจะลงพื้นที่เองอยู่เสมอ ทั้งโบกรถกลางสี่แยกไฟแดง หรือแม้กระทั่งท่ามกลางสายฝน และน้ำท่วม การกำชับการปฏิบัติงานผู้ใต้บังคับบัญชาทุกเช้าสิ่งที่สารวัตรต่อจะขาดไม่ได้เลยคือเน้นย้ำเรื่องการดูแลช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน และเหตุการณ์ซึ่งหน้าทุกมิติ
ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ปฏิบัติตามนโยบายของสารวัตรจราจรอย่างดีเยี่ยม เพราะทุกนายรู้ว่าสารวัตรต่อจะลงพื้นที่ช่วยกำกับดูแลแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนเดือนเมษายน ผู้เขียนก็แอบไปเห็นสารวัตรต่อจะจัดหาตู้แช่ น้ำ เครื่องดื่มอัดลมเย็นๆ เตรียมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำงานได้ดื่มแก้กระหาย เป็นมุมเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย
นอกจากนี้ ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมษายน 2566 ปีนี้ ทาง พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ หรือสารวัตรต่อ สว.จร.สภ.พัทยา ก็ได้ฝากความห่วงใยแก่ประชาชนว่า ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าทุกๆ ท่าน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ตนอยากให้ผู้ขับขี่ทุกท่าน เมาไม่ขับ ให้ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านรวมถึงพี่น้องประชาชนคนอื่นที่ใช้รถใช้ถนน ตนเตรียมแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา รวมถึงการดูแลสอดส่องความปลอดภัย ลดจุดเสี่ยงปัญหาอาชญากรรมบนท้องถนนและในทุกมิติ เนื่องจากพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก มีการจัดนิทรรศกาลต่างๆ ตนขอให้สงกรานต์ปีนี้ทุกท่านได้เที่ยวกลับภูมิลำเนาอย่างมีความสุข หากท่านใดมีโอกาสแวะมาพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาทุกนายยินดีต้อนรับและคอยช่วยเหลือทุกท่านให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
พ.ต.ต.อรุษ สภานนท์ หรือ สว.ต่อ เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช คุณพ่อทำงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนคุณแม่รับราชการเป็นพยาบาลที่ รพ.หัวไทร ตอนเด็กศึกษาที่ ร.ร.บางกะปิ ชอบเล่นกีฬา มีกลุ่มก๊วนเพื่อนที่เล่นกีฬาด้วยกัน เมื่อถึงวัยใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงได้ชักชวนเพื่อไปสอบ ร.ร.เตรียมทหาร โดยได้ไปติวเข้มเพื่อเตรียมการสอบแถวถนนศรีอยุธยา แต่ครั้งแรกสอบไม่ติด สว.ต่อไม่เคยคิดย่อท้อหรือยอมแพ้ จึงได้ตั้งใจศึกษาและเข้าสอบอีกครั้งจนสามารถสอบติดและจบ ร.ร.เตรียมทหารเหล่าตำรวจ รุ่นที่ 48 และ ร.ร.นายร้อยตำรวจรุ่นที่ 64 สร้างความภาคภูมิใจให้ตนเองและพ่อแม่เป็นอย่างมาก จากเด็กนักเรียนมัธยมที่มีอิสระเมื่อเข้าไปในรั้ว ร.ร.เตรียมทหารนั้นจะไม่สามารถทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นได้อีก สิ่งที่ได้นอกจากความรู้ วิชาการ และภาคปฏิบัติ ก็คือการปรับพฤติกรรม สร้างระเบียบวินัย ปลูกฝังความรักสามัคคี
รับราชการครั้งแรกได้ลงบรรจุเป็นพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแพ จ.สตูล สังกัด ตำรวจภูธรภาค 9 สมัยนั้นที่ สภ.ท่าแพมีคดี 127 คดี มีพนักงานสอบสวนเพียง 2 นาย ก็ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่จนสะสางคดีไม่มีคดีค้างเก่า ปฏิบัติงานได้ 2 ปี ตามวาระได้ย้ายมาเป็น รอง สวป.สภ.เมือง ยโสธร ในช่วงเวลา 2 ปี ก่อนย้ายมาเป็นรอง สว.สส.บก.น.6 อยู่ 2 ปี ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่ง สว.จร.สภ.เมืองพัทยา จนกระทั่งปัจจุบัน ที่ผ่านมา การได้ไปดำรงตำแหน่งในที่ต่างๆ ทำให้ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้เพิ่มพูนประสบการณ์มากขึ้น
และเมื่อ 17 ต.ค. 2565 พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ ได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจทำหน้าที่จราจรดีเด่นประจำปี 2565 จาก พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่จราจรดีเด่นอันดับ 1 ของ ภ.2 อีกด้วย