หลังศาลแขวงพระนครเหนือสั่งปรับ "นอท กองสลากพลัส" ขายสลากกินเเบ่งฯ เกินราคา 2.6 ล้าน โดยเจ้าตัวตัดสินใจรับสารภาพ พร้อมเผยเชื่อคดีนี้ไม่ได้มีผลต่อคดีอื่นที่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ากองสลากพลัสไม่ได้ทำผิด จึงตัดสินใจรับสารภาพเพื่อให้จบเรื่องนี้ไป
จากกรณีศาลแขวงพระนครเหนือสั่งปรับ "นอท กองสลากพลัส" ในความผิดฐานขายสลากกินเเบ่งฯ เกินราคา 2.6 ล้านบาท โดยเจ้าตัวเปลี่ยนใจรับสารภาพ พร้อมบอก "รับให้จบๆ ไป ไม่เสียเวลาทำมาหากิน" ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (10 มี.ค.) เฟซบุ๊ก "นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์" หรือ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ผู้บริหารบริษัทลอตตารี่ ออนไลน์ จำกัด ได้โพสต์ระบุข้อความหลังจากกรณีดังกล่าวว่า "คดีที่ตัดสินวันนี้ คือคดีที่ตำรวจไปเคาะประตูบ้านลูกค้า 4,200 คดีทั่วประเทศ แต่มีลูกค้าผมให้ปากคำเพียง 300 กว่าคน ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2564
ซึ่งผ่านมาจะหมดอายุความแล้วในวันที่ 24 มีนาคมนี้แล้ว ตอนนั้นผมขายสลากแบบมีค่าบริการ แต่เรารวมค่าบริการเข้าไปเลยโดยไม่ได้แจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งเราเคยโดนจับและปรับมาแล้ว 1 ครั้ง โดยตำรวจปรับกรรมละ 5,000 บาท รวม 250,000 บาท ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไรตำรวจถึงไปรื้อเรื่องนี้มาทำอีก ทั้งๆ ที่ไม่มีเจ้าทุกข์ และการสอบสวนก็ไม่รัดกุมเรียบร้อย
คดีนี้ถ้าผมจะสู้คงสู้ได้ แต่หลังจากที่คิดดูแล้ว คดีนี้ไม่ได้มีผลต่อคดีอื่นๆ ที่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ากองสลากพลัสไม่ได้ทำผิด ผมจึงตัดสินใจรับสารภาพเพื่อให้จบเรื่องนี้ไป จะได้มีเวลาไปทำคดีอื่นๆ ที่จำเป็น
โดยศาลสั่งปรับผมเป็นจำนวนเงิน 2,672,000 บาท คดีนี้ใช้เวลาทำเพียง 1 เดือนกับ 10 วัน"