หากเอ่ยชื่อ "สพัชญ์นนทน์ เชสพีเดส" ตามบัตรประชาชนรับรองว่าไม่มีใครรู้จักหรอกว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าแฟนภาพยนตร์ไทยช่วง 30-40 ปีที่แล้ว หากบอกชื่อพระเอกแถวหน้าระดับตำนานคนหนึ่งของวงการไม่มีใครไม่รู้จัก "ทูน หิรัญทรัพย์" พระเอกมาดทะเล้นที่มีนางเอกคู่ขวัญคือ "จารุณี สุขสวัสดิ์" "เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์" รวมถึง "สุพรรษา เนื่องภิรมย์" "อำภา ภูษิต" เป็นต้น
เขาฝากผลงานภาพยนตร์ไทยในยุคเฟื่องฟูไว้กว่า 100 เรื่อง ที่โด่งดังมีมากมายหลายเรื่อง รวมทั้ง "ลูกสาวกำนัน" ที่ประกบ "จารุณี สุขสวัสดิ์" นางเอกคู่ขวัญ และ "สมบัติ เมทะนี" อดีตพระเอกใหญ่ผู้ล่วงลับ
กระทั่งมาถึงยุคละครโทรทัศน์ แฟนๆ ก็จะมักเห็น "ทูน หิรัญทรัพย์" ในบทบาทเล่นเป็นพ่อของนางเอก หรือเจ้าพ่อ อย่างคุ้นตากันดี
ที่ผ่านมา เขาได้คลุกคลีกับบุคคลในแวดวงการเมืองและหน่วยงานของรัฐมาไม่น้อย เพียงแต่ไม่เป็นที่พูดถึงหรือรู้กันทั่วไป เพราะส่วนใหญ่จะถูกโฟกัสไปที่งานแสดงมากกว่า จริงๆ เขายังสวมหมวกช่วยงานของ กกต.กลาง หน่วยงานดูแลวิทยุชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งงานของบริษัทเขาเองคือจัดงานอีเวนต์ให้กับหน่วยราชการหลายแห่งมานานพอสมควร
กระทั่งปัจจุบัน "ทูน หิรัญทรัพย์" ได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองด้วยการเป็นสมาชิก "พรรครวมแผ่นดิน" และได้รับมอบหมายหน้าที่เป็น "โฆษกพรรค" เพื่อสร้างความเข้าใจ ชี้แจงนโยบายของพรรคให้เข้าถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนด้วยอุดมการณ์แนวคิดของพรรคที่ต้องการลดความขัดแย้งในสังคมสร้างความสามัคคีอยู่กันแบบสมานฉันท์ และร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป
"พรรครวมแผ่นดิน" จึงเป็นพรรคที่รวบรวมบรรดาผู้มีความรู้ มีคุณวุฒิ มีประสบการณ์ จากหลากหลายวงการโดยเฉพาะแวดวงบันเทิง ซึ่งมีทั้งดารา นักร้อง ตลก และแขนงอื่นๆ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ มารวมกันจำนวนมาก เพื่อช่วยนำแนวทาง นโยบายของพรรคไปสู่พี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง
เพราะบรรดาศิลปินทั้งหลายนั้นมีโอกาสได้สัมผัสพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ มาตลอด จึงน่าจะเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้ พรรครวมแผ่นดิน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนจะตัดสินใจเลือกตัวแทนของพรรค คือ ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) เข้าไปทำงานในสภา ทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินต่อไป
"ปัญหาเรื่องปากท้องเรื่องเศรษฐกิจก็จะต้องเร่งแก้ไขให้ทันท่วงที โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งประเทศเรามีการส่งออกโดยเฉพาะ "ข้าว" ซึ่งได้รับการยอมรับไปทั่วโลก" เราจึงต้องพัฒนา สมาร์ทฟาร์มเมอร์ คือเกษตรกรให้ทันสมัย" "บ๊อบ" หรือ "ทูน หิรัญทรัพย์" กล่าว
"พรรครวมแผ่นดินได้วางกลยุทธ์คนทำงานไว้ 2 กลุ่มคือ กลุ่มวิชาการ ซึ่งเป็นนักการเมืองมืออาชีพ และผู้เชี่ยวชาญทุกวงการ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา แพทย์ อีกกลุ่มก็คือ กลุ่มศิลปินสาขาต่างๆ ที่พร้อมจะเป็นกลุ่ม Change Together ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องคนไทยให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพราะประเทศเราเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่เราต้องอยู่กับบ้านหลังนี้ต่อไปไม่ว่าใครจะเข้ามาดูแล อาจจะมีทรุดโทรมบ้างเราก็ต้องช่วยปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่ เราจะไม่ย้อนกลับไปสู่ความขัดแย้งเพราะจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง"
"ทูน หิรัญทรัพย์" กล่าวว่า พรรครวมแผ่นดินจะร่วมประสานประนีประนอมทุกฝ่าย ช่วยแก้กฎหมายฉบับที่ไม่เอื้อต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องและสถานการณ์ปัจจุบัน เราเป็นพรรคขนาดกลาง จึงก็แล้วแต่ว่าพรรคผู้ที่ชนะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเห็นความสำคัญของ พรรครวมแผ่นดิน ให้เราเข้าไปช่วยงาน เราก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ เพราะพรรครวมแผ่นดินต้องการให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีมากกว่า
"ในส่วนของพรรค เราเน้นการทำงานเพื่ออุดมการณ์ในการที่จะทำให้ประชาชนพี่น้องมีความสุขมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งทางหัวหน้าพรรคเอง ("พลเอก ชัชชัย ภัทรนาวิก" หรือ "บิ๊กโป๊บ" อดีตผู้บัญชาการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล - ศตก. กองบัญชาการกองทัพไทย) ก็เป็นข้าราชการทำงานต่างประเทศมานาน ท่านก็จะนำส่วนที่ดีๆ ของแต่ละประเทศมาใช้ ในขณะที่ประธานที่ปรึกษาพรรคและหัวหน้าสาขาภาคเหนือ พรรครวมแผ่นดิน ("กชพร เวโรจน์" หรือ "มาดามหยก") ก็พร้อมที่จะสนับสนุน ให้เกิดกิจกรรมการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่โฆษณาประชาสัมพันธ์แล้วทำไม่ได้จริง เราให้ความสำคัญในการปฏิบัติที่ต้องทำได้จริง"
"ทูน หิรัญทรัพย์" กล่าวอีกว่า พรรคมีมุมมองในเรื่องของการพัฒนาประเทศว่าเปรียบเสมือนสามเหลี่ยม ซ้ายล่าง ก็คือ ด้านสังคม เศรษฐกิจ จริยธรรม อะไรต่างๆ ถ้ามีคนมีคุณภาพเข้าไปจัดการตรงนี้ก็จะไปที่ด้านขวาซึ่งก็หมายถึงความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำครอบครัว ผู้นำองค์กร ก็จะทำให้สังคมมีคุณภาพ ซึ่งก็จะนำไปสู่เหลี่ยมข้างบนสุด ก็คือคุณภาพประเทศและเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ทั่วโลกยอมรับได้ แล้วก็ย้อนกลับมาสู่สังคมไทยที่มีความเป็นอยู่ที่ดี
"ในส่วนของคนรุ่นใหม่รุ่นเก่านั้นเราคิดว่าอยู่ร่วมกันได้เพราะคนรุ่นเก่าก็มีประวัติศาสตร์ก็มีแบบอย่างบางสิ่งที่ดี ส่วนคนรุ่นใหม่ก็มีชีวิตไลฟ์สไตล์ที่ต่างออกไปตามยุคสมัย แต่ก็สามารถที่จะทำงานด้วยกันได้ อยู่ด้วยกันได้ ซึ่งก็ต้องร่วมมือกัน คนรุ่นใหม่ก็มีเทคโนโลยีที่สะดวกในปัจจุบัน เราก็มาร่วมกันผลักดันเพื่อจะได้นำความรู้ และปัญญาให้สอดคล้องกันไปปฏิบัติได้"
"คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าก็เปรียบเหมือนน้ำสีต่างกันแต่ก็สามารถไหลไปด้วยกันได้ เศรษฐกิจปากท้อง การทำมาหากินของคนก็ต้องทำไปพร้อมกันด้วย" โฆษกระดับพระเอก พรรครวมแผ่นดิน กล่าว
สำหรับคณะกรรมการบริหารพรรครวมแผ่นดินชุดใหม่ ชุดปัจจุบัน ประกอบด้วย พลเอก ชัชชัย ภัทรนาวิก หัวหน้าพรรค, พลตรี พิชิต บุตรวงศ์ มนตรี พรมวัน รุ่งโรจน์ รุ่งณรงค์รักษ์ รองหัวหน้าพรรค, รณฤทธิชัย คานเขต เลขาธิการพรรค, ณัฐพล ทองคำ เหรัญญิกพรรค, สพัชญ์นนทน์ เชสพีเดส หรือ ทูน หิรัญทรัพย์ โฆษกพรรค, "กชพร เวโรจน์" "มาดามหยก" ประธานที่ปรึกษาพรรคและหัวหน้าสาขาภาคเหนือ