ตำรวจสุพรรณบุรียศ ส.ต.อ.ที่ยื่นใบลาออกก่อนหน้านี้ โพสต์เฟซบุ๊กวอนอย่าเล่นสงครามจิตวิทยาใส่ เอาไปโยงกับเหตุที่โคราช และอย่ารังแกกัน ระบุตลอดเวลาที่ทำหน้าที่อุทิศเวลาและชีวิตมากมายแค่ไหน แค่อยากให้สังคมดี สาเหตุการลาออกเคยมีใครเข้าใจหรือยัง
วันนี้ (21 ก.พ.) จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์หนังสือที่ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม ผู้บังคับหมู่ (งานป้องกันและปราบปราม) สภ.เมืองสุพรรณบุรี มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ เพราะหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ ปกป้องผู้กระทำความผิด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตไม่ได้รับการเหลียวแล และยืนยันว่าไม่เคยถูกต้องโทษในคดีอาญาหรือถูกตั้งกรรมการคดีทางวินัยแต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวโพสต์กลับมาว่า “ผมเขียนจริงครับไม่ใช่คอนเทนต์แน่นอน ผมลาออกไม่ใช่ผมไม่สู้แต่ผมจะสู้ในฐานะประชาชนคนธรรมดาครับ สู้มาก็สู้กลับก็แค่เดิมพันด้วยชีวิต ชีวิตนี้พอแล้วจะไปกลัวอะไรอีกครับ” ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ฮือฮา! ใบลาออกตำรวจยศ ส.ต.อ.เผยหมดศรัทธา-ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตไม่ได้รับการเหลียวแล
บิ๊กโอ๋ภาค 7 ล้อมคอก สั่งสอบ ส.ต.อ.หมดศรัทธาลาออก หวั่นลดทอนขวัญกำลังใจ
ล่าสุดเฟซบุ๊ก Chaiyaphat Ord-ord ซึ่งระบุว่าเป็นเฟซบุ๊กของ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม โพสต์ข้อความระบุว่า
"ประวัติส่วนตัว
ชื่อ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม
สำเร็จการศึกษา
- หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก รุ่นที่ 10 /49 ประจำปี 2549
- นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 36
- หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 5 ศฝร.ภ.7 ประจำปี 2556
หลักสูตรทางทหาร
- นายสิบนักเรียนชั้นต้น เหล่าทหารสรรพาวุธ รุ่นที่ 5 (ชกท.อาวุธ)
- หลักสูตรหน่วยทหารขนาดเล็ก (นทล.) รุ่นที่ 2 ค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน
หลักสูตรทางตำรวจ
- หลักสูตรกระโดดร่มแบบสายกระตุกคงที่ รุ่นที่ 223 ค่ายนเรศวร
- หลักสูตรนักปฏิบัติการใต้น้ำ รุ่นพิเศษ 1 กองบังคับการตำรวจน้ำ
อย่าเล่นสงครามจิตวิทยาใส่ผมเลย
อย่าลดทอนความน่าเชื่อถือและน้ำหนักคำให้การของผมโดยเอาไปโยงกับเหตุที่โคราช
ผมก็รุ่นเดียวกับอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้กล้าที่ระงับเหตุที่โคราชเหมือนกันครับ ส.ต.อ.กฤษดา ยังรักษาตัวอยู่เลยครับ (ขอโทษที่เอ่ยนาม)
เรารังเกียจการกระทำของเขาได้
แต่อย่ารังเกียจความเป็นคนของเขา
สรรเสริญการกระทำของเขาได้
แต่ต้องดูแลและปกป้องเขาด้วยครับ"
ต่อมายังได้แชร์ข้อความที่เคยโพสต์เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 ระบุว่า "ขายม้ามันไม่เท่นะพี่ ยิ่งเป็นผู้มีหน้าที่ด้วยแล้ว ไม่ต้องแทงหลังผมหลอก ผมเปิดก่อนเลย ... ถ้าองค์กรมันปกป้องคนชั่ว เดี๋ยวผมเดินออกไปเองครับ" ซึ่งเจ้าตัวแชร์โพสต์อีกครั้ง ระบุว่า "ถ้ามันไม่สุดทางจะเดินไปต่อได้ไหม"
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ภาพความทรงจำในการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ระบุว่า "อย่ารังแกผมเลย ตลอดเวลาที่ผมปฏิบัติหน้าที่ ผมอุทิศเวลาและชีวิตไปมากมายแค่ไหน แค่อยากให้สังคมมันดี ก้มหน้าก้มตาทำไม่เคยบ่น ทุ่มหมดตัวหมดใจในที่ไม่ใช่ ต่อให้ล้มไปตรงหน้าเขาก็หาว่าเราไม่ดี ผมโลกส่วนตัวตรงไหน ผมทำงานไม่ดีอีกเหรอ ผมเก็บตัวยังไง...? ผมต้องซึมเศร้าด้วยเหรอ สาเหตุการลาออกครั้งแรก สาเหตุการลาออกครั้งที่สอง เคยมีใครเข้าใจผมจริงๆ สักครั้งบ้างหรือยัง"
และเมื่อย้อนไปอ่านโพสต์ก่อนหน้านี้ มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งตีพิมพ์ข่าวระบุว่า "ด้านเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งกล่าวว่า ก่อนที่ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ จะเป็นตำรวจนั้น เคยเป็น ตชด.มาก่อน รุ่นเดียวกับจ่าคลั่งที่โคราช และมีความคิดไม่เหมือนตำรวจ แต่มีความคิดเหมือนทหาร ตำแหน่งเดิมอยู่งาน ป. แต่ขอไปทำงานด้านสืบสวน"
ทำให้เจ้าตัวกล่าวว่า "ผมรุ่นเดียวกับตำรวจอรินทราชที่ถูกยิงที่ศีรษะด้วยครับ แล้วไม่ว่าทหารหรือตำรวจเป็นอาชีพที่ประชาชนเขาไว้ใจให้ถืออาวุธ เป็นอาชีพที่เสียสละและมีเกียรติ และยิ่งต้องตอบแทนประชาชน ด้วยการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่การมีตำรวจทรยศความไว้ใจของประชาชนไปทำผิดเสียเองนี่ ผมมีความคิดแบบทหารตรงไหนครับ ความคิดแบบสามัญสำนึกผมยังมีไม่ได้เลยหรือครับ "คิดเหมือนทหาร" (ไอคอนแสดงความไม่พอใจ) ไม่เคยขอไปสืบครับผมโดนเตะไป คนทำงานอยู่ที่ไหนก็ทำงานครับ คนไม่ทำงานอยู่ที่ไหนก็ไม่ทำเหมือนเดิมครับ ฝากไว้ให้คิด นิทราราตรีสวัสดิ์ครับ"