กรุงเทพธนาคมเตรียมทดสอบเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษมแบบงดรับผู้โดยสาร 21 ก.พ. ก่อนเปิดให้บริการในเดือน มี.ค.นี้ หลังหยุดเดินเรือก่อนหน้านี้ แล้วชัชชาติบอกว่าไม่คุ้ม พบเดินเรือแบบชั่วคราว 1 ปี ปรับลดค่าจ้างเดินเรือจากเดือนละ 2.4 ล้านเหลือ 1.8 ล้าน
วันนี้ (18 ก.พ.) รายงานข่าวจากบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้บริหารจัดการสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในวันที่ 21 ก.พ. ทางบริษัทฯ จะเริ่มดำเนินการนำเรือไฟฟ้าแล่นทดสอบในคลองผดุงกรุงเกษม แบบงดรับผู้โดยสาร ในโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการในเดือน มี.ค. 2566 นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการพัฒนาการเดินทางทางเรือเพื่อการท่องเที่ยวในคลองบางลำพูในอนาคต โดยความคืบหน้าจะประกาศแจ้งให้ทราบรายละเอียดต่อไป และขออภัยในความไม่สะดวก
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งได้หยุดเดินเรือไปเมื่อเดือน ก.ย. 2565 ว่า ที่ผ่านมามีผู้โดยสารน้อยมาก แต่ค่าจ้างเดินเรือยังมีอยู่ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้ใช้บริการเพียง 14,000 คนต่อเดือน ค่าบริการต่อคนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 171 บาทต่อคน จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม หรือเอาเงินที่จ่ายไปทำอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่านี้ อาจเป็นรูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้คนใช้บริการมากขึ้น เช่น Shuttle Bus หรือทำเรื่องท่องเที่ยว เรื่องดังกล่าวเรียกเสียงวิจารณ์จากโลกโซเชียลฯ เพราะเห็นว่าการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนก่อนทำไว้ดีอยู่แล้วกลับยกเลิก
ขณะเดียวกัน ยังหยิบยกกรณีที่กรุงเทพมหานครเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขต มีถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงกว่า 111 ล้านบาท ที่มีผู้ร้องเรียนต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อนหน้านี้ ภายหลังนายชัชชาติอ้างว่าจะทำต่อ แต่ต้องประเมินสถานการณ์ เพราะค่าใช้จ่ายต่อหัวแพงมาก จึงต้องประเมินทางเลือกอื่นที่ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักการจราจรและขนส่งมอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จัดหาเอกชนเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษมชั่วคราว 1 ปี แต่ปรับลดค่าจ้างเดินเรือจาก 2.4 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 1.8 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ในรูปแบบเรือท่องเที่ยว