เจ้าของร้านชาบูหม่าล่าแห่งหนึ่งเจอลูกค้าหัวหมอ สั่งเมนูที่ไม่มีในบุฟเฟต์แล้วไม่จ่ายเพิ่ม อ้าง "บุฟเฟต์ไม่ควรมีอะลาคาร์ต" ท้าปิดระบบไปเลย สุดท้ายเปลี่ยนระบบ ใส่วงเล็บ (จ่ายเพิ่ม) ชัดเจน
วันนี้ (15 ก.พ.) เฟซบุ๊กเพจ Hotpot Man ชาบูหม่าล่า โพสต์วิดีโอคลิปอธิบายว่า ร้านของตนเป็นชาบูหม่าล่าบุฟเฟต์ มี 3 ราคา ได้แก่ 299 บาท, 399 บาท และ 499 บาท ปัจจุบันใช้ระบบคิวอาร์โค้ดสั่งอาหาร เพื่อลดความผิดพลาดและเพื่อความรวดเร็ว และเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เลือกราคาที่ต่ำกว่า เช่น 299 บาท แต่อยากรับประทานเมนูที่ไม่มีในบุฟเฟต์ราคานั้น เช่น เมนูของบุฟเฟต์ราคา 499 บาท และอยากให้ขายแบบแยกเมนู (อะลาคาร์ต) ให้ จึงได้ทำระบบให้คนที่เลือกรับประทานแบบบุฟเฟต์ไม่มีจำนวนเงิน แต่หากต้องการรับประทานเมนูอื่นที่ไม่รวมในบุฟเฟต์ จะระบุว่าเป็นอะลาคาร์ต และมีราคาชัดเจน มีลูกค้าคนหนึ่งมารับประทานวันแรก สั่งเมนูอะลาคาร์ตเยอะมาก รวมจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม 200 บาท เมื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าลูกค้าไม่จ่าย อ้างว่าเป็นร้านบุฟเฟต์ไม่ควรมีอะลาคาร์ต ซึ่งวันแรกอาจจะเป็นความผิดพลาดของทางร้านที่อธิบายไม่ละเอียดชัดเจน จึงไม่ให้พนักงานเถียงกับลูกค้า ไม่จ่ายก็ไม่เป็นไร
ปรากฏว่าวันต่อมาลูกค้าคนดังกล่าวมารับประทานเป็นครั้งที่สอง และทำพฤติกรรมเดิม คือสั่งราคา 299 บาท แล้วสั่งเมนูอะลาคาร์ต รอบนี้พนักงานไหวตัวทันเพราะจำตัวได้ ก่อนจะเสิร์ฟรก็ถามก่อนว่า อันนี้ไม่ได้รวมอยู่ในบุฟเฟต์ ลูกค้าจะรับไหม ถ้าไม่รับทางร้านยกเลิกให้ แต่ถ้าจะรับ ทางร้านต้องคิดเงิน ลูกค้าไม่พอใจเล็กน้อยแล้วบอกว่า เป็นบุฟเฟต์ไม่ควรมีอะลาคาร์ต คุณปิดระบบนี้ไปเลย พนักงานจึงแก้ปัญหาด้วยการปิดระบบนี้ แล้วแจ้งโต๊ะอื่นว่าถ้าจะสั่งเมนูที่ไม่มีในบุฟเฟต์ให้แจ้งที่พนักงาน สรุป วันนั้นระหว่างที่ลูกค้าคนดังกล่าวรับประทานอยู่ ทางร้านต้องปิดระบบอะลาคาร์ตเพื่อลูกค้าโต๊ะดังกล่าวโต๊ะเดียว ส่วนลูกค้าโต๊ะอื่นต้องเรียกพนักงานเวลาจะสั่งเมนูที่ไม่มีในบุฟเฟต์ ตนมองว่าลูกค้าดังกล่าวโลกหมุนรอบตัวเอง ต่อไปไม่ให้พนักงานปิดระบบแล้ว
นอกจากนี้ ยังระบุในแคปชันอีกว่า "ฝากถึงลูกค้าคนนั้นนะคะ ถ้ามาอีกรอบหน้า ขออนุญาตปิดประตูแทนปิดระบบนะคะ (หัวเราะ) ปกติเจอแต่ลูกค้าน่ารักๆ นานๆ ทีจะเจอแบบนี้ ก่อนจะออกมากินข้าวนอกบ้าน ช่วยเรียนรู้การอยู่ร่วมกับสังคมก่อน สำหรับยุ้ยให้ลูกค้าเป็นพ่อพระเจ้าอยู่แล้ว แต่บางครั้ง พ่อพระเจ้าก็สมควรโดนด่าค่ะ (หัวเราะ) ขออภัยในความไม่สุภาพค่ะ"
ภายหลัง เจ้าของร้านได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกครั้งว่า ที่ให้ลูกค้าเข้าร้านเพราะไม่สามารถแยกกมลสันดานจากรูปร่างหน้าตาได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าประเภทไหน แบบไหน ทางร้านยินดีต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว ส่วนทำไมทางร้านต้องยอม เพราะให้ความสำคัญต่อลูกค้า จึงฝึกพนักงานทุกคนว่าห้ามทะเลาะกับลูกค้า ห้ามมีเรื่องกับลูกค้าไม่ว่าจะหนักแค่ไหนก็ตาม คนที่จะเข้าไปด่าคือเจ้าของร้าน ทั้งสองวันตนไม่ได้อยู่ที่ร้านสาขาสาทร พนักงานทำถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนระบบโดยเมนูที่ไม่มีในบุฟเฟต์จะวงเล็บว่าจ่ายเพิ่มกี่บาท เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว