xs
xsm
sm
md
lg

“สืบพงษ์” แถลงกลับนั่งเก้าอี้ “อธิการ ม.รามคำแหง” หลังศาลปกครองสั่งคุ้มครอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สืบพงษ์ ปราบใหญ่” แถลงกลับนั่งเก้าอี้อธิการบดี ม.รามคำแหง หลังศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองระงับมติ สภา ม.ร.ปลดพ้นตำแหน่ง ศาลชี้ไม่เปิดโอกาสชี้แจง อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถลงข่าวศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากเหตุการณ์ที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้มีมติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี ด้วยข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณในพฤติการณ์ กรณีคือ 

1. ผศ.ดร.สืบพงษ์ให้ความช่วยเหลือนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยการรับโอนที่ดินจากนายสุพจน์ จำนวน 2 แปลง และกล่าวอ้างว่าเงินของนายสุพจน์ที่ถูกยึดเป็นของกลางส่วนหนึ่ง คือเงินจำนวน 4,500,000 บาทนั้นเป็นเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ เมื่อมีคำพิพากษาให้ที่ดินและเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ตกเป็นของแผ่นดิน ผศ.ดร.สืบพงษ์ไม่ได้รายงานให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งเป็นต้นสังกัดทราบ สภามหาวิทยาลัยเห็นว่าเป็นการประพฤติผิดต่อพระราชบัญญัติมาตรฐานจริยธรรม พ.ศ. 2562 และเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้บริหารตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยจรรยาบรรณข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้าง ม.ร. รวมถึงผิด พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547


2. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ใช้คุณวุฒิปริญญาเอกที่ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. มาสมัครเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ไม่มีฐานะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมาแต่แรก และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขาดจริยธรรม 

และ 3. ผศ.ดร.สืบพงษ์ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ทูลเกล้าฯ ถวายฎีการ้องทุกข์ โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการกระทำที่ขาดไร้จริยธรรมและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

ด้วยสาเหตุดังกล่าว ในการประชุมครั้งนั้นมีมติถอดถอนอธิการบดี และแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีอุปนายกสภามหาวิทยาลัย (ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย ลงนามหนังสือแต่งตั้งดังกล่าว และได้เพิกถอนสัญญาจ้าง ผศ.ดร.สืบพงษ์ จากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยรามคำแหงตามมา

ศาลมีความเห็นว่า กรณีสภามีมติถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ออกจากตำแหน่ง ควรต้องให้โอกาสเจ้าตัวได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน จึงเป็นการกระทำที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากมีมติพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไข ผศ.ดร.สืบพงษ์จะเสียโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง การทุเลาการบังคับของศาลในกรณีนี้จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของมหาวิทยาลัยหรือแก่บริการสาธารณะ โดยการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีต้องเป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการและของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภามหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ ศาลยังมีความเห็นว่าการแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทน
อธิการบดี น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การ
เยียวยาแก้ไขในภายหลังแก่ ผศ.ดร.สืบพงษ์ โดยอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ใน
ตำแหน่งอธิการบดี อีกทั้งศาลเห็นว่า ผศ.ดร.สืบพงษ์ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีได้ต่อไป
ศาลจึงได้มีคำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการบังคับตามมติของสภา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี และแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งทุเลาการบังคับคำสั่งการถอดถอนอธิการบดีออกจากตำแหน่ง และการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ผช.ดร.สืบพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดี ม.รามฯ จึงได้นำคำสั่งศาลดังกล่าวแจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว.ทราบแล้ว รวมถึงแจ้งให้ที่ประชุมสภา ม.ร.ทราบ เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ม.ร.ตามเดิม แต่ปรากฏว่าสภา ม.ร.ได้ทำหนังสือแจ้งกลับมาว่าไม่สามารถปฎฏิบัติตามคำสั่งศาลได้เนื่องจากก่อนหน้านี้สภา ม.ร.ได้มีมติเลิกจ้างตนเองจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้วเป็นเหตุให้ตนเองไม่สามารถเป็นอธิการบดี ม.ร.ได้ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคุ้มครองของศาลปกครอง จึงได้แจ้งไปยังศาลปกครองทราบเพื่อมีคำสั่งต่อไป

“การที่สภา ม.ร.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองของศาลปกครอง ทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเสียหาย ถ้าไม่ยอมรับคำสั่งศาลก็ควรไปใช้กระบวนการศาลในการยื่นอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับรองอธิการและผู้บริหาร ม.รามฯ ที่ตนแต่งตั้งขึ้น เพื่อเดินหน้าพัฒนาองค์กรต่อไป” ผช.ดร.สืบพงษ์กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น