xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” จัดให้ “แทนไท” แบบสุดซอย ยกคำพิพากษาฟาด! โยงพนันออนไลน์-ฟอกเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิ” จัดหนักให้ “แทนไท” แบบสุดซอย ยกคำพิพากษาศาลแพ่งยึดทรัพย์ 176 ล้าน ระบุชัดโยงพนันออนไลน์-ฟอกเงิน ชี้แจงที่มาไม่ได้ แต่คดีอาญากลับหลุดรอดอย่างปาฏิหาริย์เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง เผยหลังโดน “แทนไท” ฟ้องเรียกเงิน 1 พันล้าน เป็นโอกาสได้เรียกดูเอกสาร พร้อมชี้คำสั่งลบข้อความมีอะไรทะแม่งๆ



หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ในฐานะผู้ดำเนินรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ค (Sondhitalk)” ต่อศาลแพ่งและศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1,000 ล้านบาท กรณีนายสนธิกล่าในรายการว่านายแทนไทได้เงินจากการทำผิดกฎหมาย ดำเนินธุรกิจสีเทา รวมทั้งมีการฟอกเงินนั้น ล่าสุดในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสนธิได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว โดยเริ่มจากการแนะนำให้รู้จักกับทนายความของนายแทนไท คือ นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง

รู้จักทนาย "แทนไท" เคยว่าความให้ "ชินแสโชกุน" - ผู้กองบอยจ่อปืนยิงหัวเมีย

นายสนธิกล่าวว่า ทนายเอี้ยง เป็นญาติกับทนาย นายเชาวน์ มีขวด อดีตรองโฆษกและผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช จบโรงเรียนมัธยมฯ จากโรงเรียนร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนธราภิวัฒก์ จบนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน จากรามคำแหง เปิดสำนักกฎหมาย ชื่อ นิติศักดิ์ มีขวด และเพื่อน เคยว่าความคดีใหญ่ๆ อยู่ 2 คดี


คดีแรก คดี "ซินแสโชกุน" หรือ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ อายุ 35 ปี มีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน คดีนี้เกิดขึ้นในเดือนมกราคม-เมษายน 2560 ซินแสโชกุน และพวก โฆษณาเชิญชวนประชาชนผ่านเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ YouTube ให้สมัครสมาชิกร่วมลงทุน จำเลยมีการจัดโปรแกรมไปเที่ยว สมาชิกเดินทางไปที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบินแอร์บัส มีประชาชน 871 ราย หลงเชื่อ สมัครเป็นสมาชิก ร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย ได้รับความเสียหายมาก เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร ส่วนทัวร์ญี่ปุ่นก็ไม่มีจริง ลอยแพ ทิ้งเคว้งหลายร้อยคนกลางสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท

คดีดังกล่าวนี้ศาลพิพากษาจำคุกซินแสโชกุน 4,355 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่คงจำคุก 20 ปี ตามกฎหมาย คนอื่นก็รับโทษไป ตอนนี้ ซินแสโชกุน ก็ยังอยู่ในคุก


คดีที่สอง นายนิติศักดิ์ เป็นทนายให้ "ผู้กองบอย” ในคดีใช้ปืนจ่อหัวภรรยาก่อนลั่นไกยิงเสียชีวิต วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ "น้องปูนิ่ม" เห็นว่า ผู้กองบอย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ข้อหาฆ่าผู้อื่น ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี ชดใช้ค่าเสียหาย 720,000 บาท


ข้อสังเกตคดี “แทนไท” ฟ้องเรียก 1,000 ล้าน มีอะไรทะแม่งๆ

นายสนธิได้ตั้งข้อสังเกตคดีนายแทนไท ฟ้องเรียกเงิน 1,000 ล้านว่า ไม่ได้ประหลาดใจ ชั่วชีวิตการเป็นสื่อมวลชน 50 กว่าปี ต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ฉ้อฉล โดนคดีความเป็นร้อยๆ คดี เมื่อเห็นคำฟ้องของนายแทนไทก็มีความรู้สึกว่ามีอะไรทะแม่งๆ มีกลิ่นอะไรผิดปกติ ดังนี้

ข้อที่หนึ่ง ทนายผมแจ้งข้อมูลว่า คดีนี้ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ฝั่งนายแทนไท ให้ทนายยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งในเวลาสิบโมงเช้า แล้วยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินทันที

ข้อที่สอง ซึ่งศาลท่านก็เมตตา เมตตาคุณแทนไท มาก ให้ไต่สวนฉุกเฉิน ไม่รอให้ผมซักค้าน ทั้งๆ ที่คดีนี้ไม่ได้เป็นคดีร้ายแรง เป็นคดีหมิ่นประมาทธรรมดา ซึ่งสื่อมวลชนปกติก็โดนกันอยู่แล้ว

ข้อที่สาม พอศาลไต่สวนฉุกเฉิน โดยไม่ให้ฝั่งผมซักค้าน ผมเป็นสื่อมวลชน แล้วผมเอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาพูด เอาข้อมูล เอาคำพิพากษาที่ศาลแพ่งตัดสินมาเผยแพร่ ท่านผู้ชมครับ ศาลแพ่งเคยพิพาษาว่านายแทนไท นั้น เปิดเว็บพนัน ฟอกเงิน แล้วสั่งยึดทรัพย์ไป 176 ล้าน ประหลาด! ศาลกลับมีคำสั่งคุ้มครองนายแทนไท ที่โดนศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ แล้วสั่งให้ลบข้อมูลที่คาดว่าจะหมิ่นประมาทนายแทนไท ทั้งหมด

ข้อที่สี่ เพื่อเป็นข้อเท็จจริงให้ทราบ ข้อมูลที่ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองนายแทนไท จะให้ผมลบข้อมูล ผมลบไม่ได้ เพราะว่ารายการนี้ผมไม่ได้เป็นเจ้าของ ท่านผู้ชมไปดูเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เอง จะมีชื่อว่า บริษัท ANEWSON จำกัด เป็นเจ้าของ ผมเป็นคนที่รับจ้างมาออกรายการเท่านั้น ลิขสิทธิ์อยู่ที่บริษัท เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านคุ้มครองผิดคน ท่านสั่งผิดคน สั่งให้ถอดข้อความ สั่งผมไม่ได้ ผมไม่ใช่เจ้าของเพจ หลักฐานมีหมด ซึ่งผมจะนำสืบ ถ้าผมไม่ผิด วันนี้ ช่วงเช้า ทนายความผมจะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเช่นกัน และผมก็จะรอ รอวันนี้ วันศุกร์นี้ ว่าศาลจะยอมไต่สวนฉุกเฉินให้อย่างรวดเร็วเหมือนอย่างที่ศาลอนุญาตให้นายแทนไท ไต่สวนฉุกเฉินอย่างรวดเร็วหรือไม่ ผมฝากท่านอธิบดีศาลแพ่งไว้ด้วยนะครับ

ข้อที่ห้า ท่านผู้พิพากษาครับ มีผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายระดับอดีตหัวหน้าองค์คณะศาลฎีกา ได้อ่าน แล้วบอกว่า คำสั่งคุ้มครองให้ผม ปิดปากผม โน่นนี่นั่น เป็นคำสั่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 35 ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 35 พูดว่าอย่างไร ? พูดว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้" นายสนธิกล่าว และว่า เรื่องนี้ตนจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างแน่นอน ว่าคำสั่งของศาลที่คุ้มครองนายแทนไทขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด


ย้อนคดี “แทนไท” ศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์ แต่คดีอาญาหลุดปาฏิหาริย์ในชั้นอัยการ

นายสนธิได้กล่าวย้อนไปถึงคดีที่นายแทนไท ถูกจับเมื่อปี 2563 เนื่องจากเป็นหัวขบวนในการทำธุรกิจพนันออนไลน์และฟอกเงิน ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 15,000 ล้านบาท แต่ในปี 2565 เมื่อตำรวจส่งสำนวนไปที่อัยการ กลับหลุดในชั้นอัยการอย่างปาฏิหาริย์ อัยการสูงสุดในยุคนั้นคือ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน โดยที่นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด นั้น สั่งให้อัยการ พนักงานสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 1 ลงนามสั่งไม่ฟ้อง

เอกสารเรื่องแจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง จากสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดี 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ในยุคนายสิงห์ชัย ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในยุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เอกสารพูดชัดเจนว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายแทนไท ผู้ต้องหาที่ 1 นายวสันต์ ขาวสะอาด ที่ 2 ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ลงนามโดย นายสมคิด สายเจริญ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ

“ท่านผู้ชมครับ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว นายแทนไท คงคิดว่าตัวเองได้รับการฟอกจากอัยการสูงสุด ที่มีคำสั่งนี้ก่อนเกษียณอายุแค่ 2 เดือน ไปคิดเอาเองก็แล้วกันนะครับ มีคนโวยวายมากที่อยู่ในสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่าท่านสิงห์ชัย ก่อนเกษียณอายุ 2-3 เดือน ท่านฟิตจังเลย ท่านเรียกแต่ละคดีมาแล้วก็สั่งการไป เพราะท่านจะเกษียณอายุแล้ว ท่านผู้ชมตีความเอาเองแล้วกัน ผมไม่มีสิทธิที่จะไปอธิบายว่าเพราะอะไร”นายสนธิกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของกลางและทรัพย์สินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดพนันออนไลน์ของนายแทนไท กับพวก ซึ่งมีมูลฐานความผิดในพระราชบัญญัติฟอกเงิน ที่ทางตำรวจได้ดำเนินการตรวจยึด นำส่งสำนักงาน ปปง. ซึ่งได้ยื่นเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้ยึดให้ตกเป็นของแผ่นดินนั้น เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ศาลแพ่งมีคำพิพากษายึดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายแทนไท ตามข้อที่หนึ่ง คดีหมายเลขดำ ที่ ฟ. 50/2564 หมายเลขแดง ที่ ฟ. 101/2565 ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน นำขายทอดตลาด ทั้งหมด 31 รายการ มูลค่า 176,127,860.99 บาท


นายสนธิกล่าวอีกว่า คดีนี้มีความพิลึกพิลั่น ย้อนแย้งกัน ตรงที่นายแทนไท รอดคดีอาญา เพราะอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง แต่กลับไม่รอดคดีแพ่ง โดนศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์ 176 ล้าน เป็นตลกร้าย คดีเดียวกันแท้ๆ หลักฐานเดียวกันแท้ๆ แต่ดุลพินิจของกระบวนการยุติธรรมกลับออกมาแตกต่างกัน

“จริงๆ แล้วอัยการก็น่าจะแถลงแสดงเหตุผล มีหลักพิจารณาอะไรบ้าง ถึงตัดสินใจยุติคดีไปเลย แทนที่จะส่งคดีให้ศาล คือไม่ยอมส่งให้ศาล ปรากฏว่าอัยการไม่ทำ ใช้อำนาจที่ตัวเองมีอยู่สั่งไม่ฟ้อง แล้วส่งกลับไปให้ตำรวจ ตำรวจก็ค้านตามพิธีการว่าไม่เห็นด้วย ก็ส่งกลับไป ไปชี้ขาดที่อัยการสูงสุด อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าท่านสิงห์ชัย ท่านกำลังจะเกษียณในอีก 2-3 เดือน ท่านเลยตัดสินใจว่าสั่งไม่ฟ้องดีกว่า”

นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อไปดูเอกสารคำสั่งยึดทรัพย์นายแทนไท ปรากฏว่าศาลแพ่งได้มีคำพิพากษายึดทรัพย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายตามคดีหมายเลขดำ ที่ ฟ. 50/2564 หมายเลขแดง ที่ ฟ.101/2565 ให้ทรัพย์สินดังมีรายการต่อไปนี้เป็นของแผ่นดินและนำขายทอดตลาด หนึ่ง รถยนต์ยี่้ห้อ Porsche Macan 2.0 ลิตร สอง รถยนต์ยี่ห้อ Porsche รุ่น 911 CARRERA S COUPE สาม รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN รุ่น 720S COUPE สี่ รถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น GT-R ห้า รถยนต์ HONDA รุ่น CIVIC หก รถยนต์ Lamborghini รุ่น Aventador SVJ เงินสดอีก 1 ล้านบาท กรรมสิทธิ์ห้องชุด เงินฝากในบัญชีอื่น และทรัพย์สินดิจิทัล


ทรัพย์สินที่ถูกยึดมีชื่อผู้ครอบครองเป็น นายแทนไท ณรงค์กูล นายธนพล ณรงค์กูล นางปรียาภรณ์ ณรงค์กูล นายอรุวัช ณรงค์กูล นายพิชญ์นันท์ สุวรรณโณ นายณัฐวุฒิ แก้วสองสี

จากเอกสารยึดทรัพย์ของ ปปง. ที่ชงขึ้นไปให้ศาลแพ่งพิจารณา ระบุว่า ได้ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำการสืบสวนตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ www.sagame1688.com ซึ่งนายแทนไท ณรงค์กูล เป็นผู้จดทะเบียนจัดตั้ง ได้ลักลอบเผยแพร่ ชักชวน และจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารในการทำธุรกรรมหลายบัญชี รวมทั้งบัญชีเงินฝากธนาคารของนายแทนไท ณรงค์กูล มีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมาก ตำรวจก็เลยรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี กล่าวโทษโดยพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

เอกสาร ปปง. ได้ระบุถึงบัญชีม้าจำนวนมาก และมีบัญชีนายแทนไท เองด้วย ถือว่าหลักฐานด้านเส้นทางการเงินแน่นหนา ศาลแพ่งก็เลยพิพากษายึดทรัพย์สินต่างๆ อันชี้แจงที่มาที่ไปไม่ได้ กว่า 176 ล้าน นี่ถือว่าเป็นคดีแรกๆ เลยที่ศาลสั่งยึดทรัพย์จากบรรดาคนสีเทาที่สร้างตัวจนร่ำรวยจากเว็บพนันออนไลน์


คำพิพากษาชี้ชัดเอี่ยวพนันออนไลน์-ฟอกเงิน แจงที่มาทรัพย์สินไม่ได้

นายสนธิกล่าวต่อว่า นายแทนไท ถึงแม้ว่าปี 2565 จะถูกยึดทรัพย์ไปกว่า 176 ล้าน แต่ทุกวันนี้ยังร่ำรวย มีเงินเป็นพันล้าน เป็นเจ้าของบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี กุมภาพันธ์-กันยายน ปีที่แล้ว 7-8 เดือน เพิ่มทุนบริษัทจาก 5 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท ด้วยเงินสด ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทอีกหลายต่อหลายแห่ง แต่พออัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา แทนไท กับพวก ก็เลยตีปีก คิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างบนโลก เหมือนายนอท พันธ์ธวัช แห่ง "กองสลากพลัส" ที่เคยพูดว่าซื้อได้ทั้งตำรวจ ซื้อได้ทั้งอัยการ และตอนนี้เงินทุนสีเทาพวกนี้เริ่มเข้าไปซื้อศาลได้บางคนแล้ว

แต่นายแทนไท อาจลืมไปว่าคดีแพ่งนั้น คำพิพากษายึดทรัพย์ ระบุชัดเจนว่า เพราะนายแทนไท เกี่ยวโยงกับคดีการพนันออนไลน์และการฟอกเงิน ที่สำคัญ คำพิพากษาระบุชัดเจนว่า นายแทนไท ไม่สามารถชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องถูกยึดทรัพย์


“กลับมาถึงคดีอาญาบ้าง ตามคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสูงสุด คำสั่งที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องและส่งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ถูกผู้ใหญ่ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ใหญ่จริงๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งว่า แม้กระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ก็อ้างว่าคนที่จะขอดูรายละเอียดของคดีนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในคดีนี้เท่านั้น ณ วันนี้ คุณแทนไท มาฟ้องผม และผมกลายเป็นจำเลย ผมก็เลยกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับความเป็นมาและความเป็นไปของคดีดังกล่าว ผมกับทนายจะใช้โอกาสนี้เรียกเอกสารสั่งไม่ฟ้องทั้งหมดมาดูว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ผมต้องการดูอะไร ? หนึ่ง พนักงานสอบสวนเป็นใคร สอง หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นใคร สาม อัยการพิจารณาคดีเป็นใคร สี่ อัยการคนไหนในสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ลงนามสั่งไม่ฟ้อง รวมไปถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด”

นายสนธิกล่าวด้วยว่าคำพิพากษาศาลแพ่งที่สั่งยึดทรัพย์นายแทนไทมีรายละเอียดจำนวนมาก ในสัปดาห์หน้า วันศุกร์ที่ 17 ก.พ.จะนำมาเล่าในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” อีกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น