เตือนภัยสายเที่ยว! สาวเล่าเงินหายจุดสแกนหลังรอต่อเครื่อง ขอดูกล้องกลับได้เงินคืนเฉย

อุทาหรณ์ สาวเผยประสบการณ์เงินหาย 4 หมื่นเยนบริเวณจุดสแกนขณะรอต่อเครื่อง ขอเช็กกล้อง สุดท้าย จนท.เอากระเป๋าไปสแกนใหม่เงินกลับเข้ากระเป๋าเฉย พร้อมเตือนดูแลทรัพย์สินให้ดี

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความไว้สำหรับเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ ลงในกลุ่ม “คนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น” หลังตนเองเจอประสบการณ์เงินหาย 4 หมื่นเยนขณะรอต่อเครื่องที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่เมื่อขอดูกล้องจุดบริเวณสแกนเจ้าหน้าที่กลับบ่ายเบี่ยง แต่พอมาสแกนอีกรอบเงินกลับมาอยู่ในกระเป๋าหน้าตาเฉย ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความเล่าว่า

“เรื่องมีอยู่ว่า สามีเราเป็นคนที่นับเงินตลอดเวลาเป็นปกติ หลังจากสแกนของเสร็จ ขึ้นมานั่งรอต่อเครื่อง คุณสามีก็นับเงินอีกรอบ แล้วเงยหน้ามาบอกว่า เงินเราหายไป 4 ใบ เท่านั้นแหละ รีบลงไปตรงจุดสแกนอีกรอบ

ย้อนเรื่องไปถึงตอนสแกน วันนี้แถวยาว คนเยอะ ชุลมุนมากๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ค้นกระเป๋าปกติ แต่พาสามีเราย้ายไปโต๊ะที่ห่างจากเครื่องสแกนข้างประตู มุมค่อนข้างอับข้างประตูด้านซ้ายมือ แล้วเปิดพร้อมกันสองใบ สลับไปสลับมา ตัวเราก็ไม่ทันได้สังเกต มัวแต่เก็บของพะรุงพะรัง แต่สามีบอกว่าเจ้าหน้าที่เหมือนทำอะไรที่แขน แต่ก็คิดว่าไม่เกี่ยว นึกว่าคันแขนมั้ง แต่ก็กลัวยัดของ

เราและสามีรีบเดินกลับไปที่จุดสแกนทันที และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเงินเราหาย โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งโทร.ไปหาบอส แล้วสักพักก็ตามมาทีมหนึ่ง มาถามเราว่าคนไหนเป็นคนเช็ก เราไม่แน่ใจว่าคนไหน แต่เป็นผู้หญิง ใส่แว่น ใส่แจ็กเก็ต เราอธิบายว่า สามีเราถูกย้ายมาเช็กตรงนี้ แล้วเจ้าหน้าที่ เปิดถุงเงินดู แล้วเงินหายไป ขอเช็กกล้องหน่อย

เจ้าหน้าที่เป็นสิบคนยืนล้อมเรา ให้สามีเรา ไปสแกนกระเป๋าอีกรอบ ตอนแรกให้หยิบถุงเงินขึ้นมาสแกนอีก สามีเราบอกว่าไม่เอาแล้ว ไม่เปิดแล้ว สแกนไปทั้งใบเลย ระหว่างสแกน หัวหน้ายืนคุยกับเรา คุยว่าไปไหน มาจากไหน ชอบฟิลิปปินส์เหรอ แล้วกระเป๋าสามีก็สแกนเสร็จ เจ้าหน้าที่บอกว่า ลองเช็กอีกทีสิว่าเงินครบมั้ย

เฮ้ย!! เซอร์ไพรส์ เงินย้ายมาอยู่กระเป๋าหน้า 4 ใบพอดี ตอนแรกเราจะโวยวาย สามีบอกว่า อย่า เขาคืนแล้ว จบแล้ว

ก่อนลงไป รื้อกระเป๋าเช็กหมดแล้ว เพราะเราก็คิดว่าสามีนับผิด หรือว่าเก็บไว้ที่อื่น

ส่วนตัวคิดว่าทีมน่าจะรู้กันหมด เพราะเราขอดูกล้อง ก็บ่ายเบี่ยง ทุกคนดูชิลๆ มองหน้ากัน คุยกันภาษาฟิลิปปินส์ น่ากลัวมากจริงๆ

ท้ายนี้ เราโชคดีได้เงินกลับมาครบ ถึงแบงก์จะยับนิดหน่อย แต่ก็ยังได้คืน ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุก ดูแลทรัพย์สินอันมีค่าดีๆ นะคะ”