แพรรี่ฝากคำถามถึง “ครูบาไก่” อยากเป็นนักบวชแบบไหน ให้คนศรัทธาหรือรักษาศีลได้แค่เท่าฆราวาส หลังมีภาพ นอนแช่น้ำตก ขี่เจ็ตสกี แชร์ว่อนโซเชียล
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ ครูบาไก่สรงน้ำในบริเวณน้ำตก ที่มีชายหนุ่มห้อมล้อม รวมถึงภาพนั่งเจ็ตสกีที่ทะเล และภาพผ้าห่ม ขณะนั่งห่มผ้าในห้องนอน ที่กำลังแชร์ในโซเชียลในขณะนี้
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า “ครูบาไก่” ได้ออกมาอธิบายภาพดังกล่าวว่า ภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้เมื่อครั้งที่ไปกิจนิมนต์ที่ จ.กำแพงเพชร และที่พักอยู่ใกล้กับน้ำตกคลองลาน ลูกหลานจึงชวนลงเล่นน้ำในน้ำตก จึงลงไปสรงน้ำด้วย แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไร
เมื่อถามถึงความเหมาะสม ในทางพระสงฆ์ก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะ แต่ก็ไม่ได้ผิดมากมาย เพราะทุกอย่างที่ถ่ายออกมาก็อยู่กับลูกหลานที่มาอยู่ในวัด ส่วนทางกฎหมายนั้น ก็ให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (22 ม.ค.) อดีตพระมหาไพรวัลย์ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า
“สำหรับดิฉัน ปัญหาเรื่องครูบาไก่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าท่านจะไปนอนแช่น้ำตกที่ไหน ขี่เจ็ตสกีซ้อนท้ายหนุ่มหล่อยังไง ดิฉันไม่สนใจค่ะ ต่อให้เห็นภาพเหล่านี้แล้วจะรู้สึกว่าสิ่งที่ท่านทำอยู่นั้นเป็นเรื่องเสียอาจาระ และไม่ควรแก่สมณสารูปแค่ไหนก็ตาม
ดิฉันจะไม่สนใจเลยนะคะ ถ้าครูบาไก่ไม่ใช่พระที่ถูกยกย่องให้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นเกจิอาจารย์ มีหูทิพย์ตาทิพย์ (หนักเข้าถึงกับบางคนบอกว่าเป็นพระอรหันต์) ให้เป็นพระที่มีสตอรีหรือเรื่องเล่าในทางวัตรปฏิบัติมากมายไปหมด
ดิฉันจะไม่สนใจค่ะ ถ้าครูบาไก่อป็นเพียงพระหนุ่มทั่วๆ ไปรูปหนึ่ง พระซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้พยายามด้วยตนเอง (หรือมีคนอื่นพยายาม) ทำให้ชาวพุทธบางส่วนเข้าใจว่าท่านมีคุณวิเศษ ท่านมีวัตรปฏิบัติที่ดี เป็นพระซึ่งควรแก่การที่ฆราวาสจะกราบไหว้บูชาได้อย่างสนิทใจ
ปัญหาของดิฉัน หรืออาจของใครหลายคนในตอนนี้ด้วย อยู่ที่ว่า ตกลงแล้วภาพลักษณ์ที่ครูบาไก่สร้างขึ้นเพื่อต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจ กับภาพลับที่มีคนขุดออกมาแฉ เป็นภาพเดียวกันหรือเปล่า ครูบาไก่เบื้องหน้า กับครูบาไก่เบื้องหลัง สะอาดบริสุทธิ์เหมือนกันหรือไม่
นี่คือสิ่งที่ดิฉันสนใจและตั้งคำถามค่ะ
นักบวชบางพวกประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความเจริญงอกงามแห่งไตรสิกขา แต่นักบวชบางพวกแสร้งประพฤติพรหมจรรย์เพื่อหวังลาภสักการะเลี้ยงปากท้อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
ครูบาไก่ เป็นนักบวชอย่างไหนเจ้าคะ ดิฉันอยากถาม
ในสังคมพุทธ ที่คนพุทธจำนวนไม่น้อยกระสันเสี้ยนอยากกราบไหว้พระอรหันต์ อยากทำบุญบูชากับพระที่มีอะไรมากกว่าวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายงดงาม เราก็คงจะเห็นพระแบบครูบาไก่อยู่เรื่อยๆ
พระที่เบื้องหน้าแสร้งสงบเสงี่ยมชวนให้ศรัทธา แต่เบื้องหลังกลับไม่เคยปฏิบัติเพื่อการละตัณหาหรือกามคุณจริงๆ พระที่สวมแค่เครื่องแบบจีวร แต่ความจริงกลับรักษาศีลได้เท่าฆราวาส
ก็คงจะมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ นะคะ ตราบใดที่สังคมพุทธยังคงมองพระว่า ใส่จีวร = ศักดิ์สิทธิ์ จบ”