แพรรี่ ไพรวัลย์ หรือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สำหรับดิฉัน ปัญหาเรื่องครูบาไก่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าท่านจะไปนอนแช่น้ำตกที่ไหน ขี่เจ็ทสกีซ้อนท้ายหนุ่มหล่อยังไง ดิฉันไม่สนใจค่ะ ต่อให้เห็นภาพเหล่านี้แล้วจะรู้สึกว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่นั้น เป็นเรื่องเสียอาจาระ และไม่ควรแก่สมณสารูปแค่ไหนก็ตาม
ดิฉันจะไม่สนใจเลยนะคะ ถ้าครูบาไก่ ไม่ใช่พระที่ถูกยกย่องให้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นเกจิอาจารย์ มีหูทิพย์ตาทิพย์ (หนักเข้าถึงกับบางคนบอกว่าเป็นพระอรหัน) ให้เป็นพระที่มีสตอรี่หรือเรื่องเล่าในทางวัตรปฏิบัติมากมายไปหมด
ดิฉันจะไม่สนใจค่ะ ถ้าครูบาไก่ เป็นเพียงพระหนุ่มทั่วๆ ไปรูปหนึ่ง พระซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้พยายามด้วยตนเอง (หรือมีคนอื่นพยายาม) ทำให้ชาวพุทธบางส่วนเข้าใจว่า ท่านมีคุณวิเศษ ท่านมีวัตรปฏิบัติที่ดี เป็นพระซึ่งควรแก่การที่ฆราวาสจะกราบไหว้บูชาได้อย่างสนิทใจ
ปัญหาของดิฉัน หรืออาจของใครหลายคนในตอนนี้ด้วย อยู่ที่ว่า ตกลงแล้ว ภาพลักษณ์ที่ครูบาไก่สร้างขึ้นเพื่อต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจ กับภาพลับที่มีคนขุดออกมาแฉ เป็นภาพเดียวกันหรือเปล่า ครูบาไก่เบื้องหน้า กับครูบาไก่เบื้องหลัง สะอาดบริสุทธิ์เหมือนกันหรือไม่
นี่คือสิ่งที่ดิฉันสนใจและตั้งคำถามค่ะ
นักบวชบางพวกประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อความเจริญงอกงามแห่งไตรสิกขา แต่นักบวชบางพวกแสร้งประพฤติพรหมจรรย์เพื่อหวังลาภสักการะ เลี้ยงปากท้อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
ครูบาไก่ เป็นนักบวชอย่างไหนเจ้าคะ ดิฉันอยากถาม
ในสังคมพุทธ ที่คนพุทธจำนวนไม่น้อย กระสันเสี่ยนอยากกราบไหว้พระอรหันต์ อยากทำบุญบูชากับพระที่มีอะไรมากกว่าวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายงดงาม เราก็คงจะเห็นพระแบบครูบาไก่อยู่เรื่อยๆ
พระที่เบื้องหน้าแสร้งสงบเสงี่ยมชวนให้ศรัทธา แต่เบื้องหลังกลับไม่เคยปฏิบัติเพื่อการละตัณหาหรือกามคุณจริงๆ พระที่สวมแค่เครื่องแบบจีวร แต่ความจริงกลับรักษาศีลได้เท่าฆราวาส
ก็คงจะมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ นะคะ ตราบใดที่สังคมพุทธ ยังคงมองพระว่า ใส่จีวร = ศักดิ์สิทธิ์ จบ