นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา ยกเคสผู้ป่วยวัย 7 ขวบปล่อยฟันผุเรื้อรังทำหนองขึ้นสมองเข้า ICU หวิดดับ เตือนอย่าละเลยปัญหาช่องปาก
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัยฝากไปถึงผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องฟันผุ หลังเจอเคสฟันผุเรื้อรังทำหนองขึ้นสมองต้องเข้า ICU โดยนายแพทย์ จิรรุจน์ได้ระบุข้อความว่า
“ฟันผุเรื้อรังจนหนองขึ้นสมอง จากปัญหาแค่ฟันผุ มันไปถึงเกือบเอาชีวิตไม่รอดได้อย่างไร
ผมขอยกกรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ และเตือนใจคุณผู้ปกครองทุกท่าน ในการดูแลสุขภาพในช่องปากให้แก่บุตรหลานของท่านดีๆ นะครับ
เคสนี้เป็นเด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบ มาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดฟันไข้สูง เพียง 2 วัน จากนั้นมีอาการปวดศีรษะ ซึมลง จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แล้วส่งต่อไปยัง ICU เด็กของเรา
ผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เป็นตามภาพที่เห็นไหมครับ มีการคั่งของหนอง ในช่องเยื่อหุ้มสมองชั้นซับดูรัล (subdural empyema - ซับดูรัลเอมพายอี มา) ตรงลูกศรสีแดงที่ชี้หลายจุด
ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาใน ICU และผ่าตัดระบายหนองออกจากสมอง ผลการเพาะเชื้อก็ตามคาดเลยครับ ขึ้นเชื้อ Streptococcus anginosus group (SAG) ทั้งจากหนองที่พบในชั้นเยื่อหุ้มสมอง และในกระแสเลือด
คำถามคือเจ้าเชื้อตัวนี้พบได้ที่ไหนในร่างกายเราบ้าง แล้วมันมาก่อปัญหาให้ผู้ป่วยคนนี้ได้อย่างไร
หากเปิดตำราดูจะพบว่าเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus anginosus group (SAG) เป็นเชื้อที่พบในช่องปากนี่แหละครับ
ซึ่งเมื่อเปิดช่องปากของผู้ป่วยรายนี้ก็เป็นไปตามคาด ในรูปที่แสดง นั่นคือเราพบฟันผุ และเหงือกที่อักเสบมีหนองอยู่หลายตำแหน่ง และมีการบวมของต่อมน้ำเหลืองใต้คางเป็นจำนวนมาก
ฟันผุและเหงือกอักเสบอย่างเรื้อรังต่อเนื่อง และมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดการสะสมของหนองที่เยื่อหุ้มสมอง ที่ได้กล่าวข้างต้น
หากเราทบทวน การศึกษาก่อนหน้านี้ก็จะพบว่าเจ้าเชื้อนี้ล่ะครับเป็นเชื้อที่พบได้ในคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากและฟัน ไม่ว่าจะเป็นฟันผุหรือเหงือกอักเสบเรื้อรัง
จริงๆ แล้วในคนปกติก็พบเชื้อนี้นะครับ แต่หากไม่มีการอักเสบ หรือช่องทางให้เชื้อเหล่านี้เล็ดลอดเข้ามาสู่กระแสเลือดในปริมาณมากๆ ได้ ก็มักไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด
ผมจึงอยากฝากกรณีนี้ให้เป็นเครื่องเตือนใจของคุณผู้ปกครอง ให้หันมาสนใจสุขภาพในช่องปากของบุตรหลานของท่าน ตั้งแต่เรื่องของการแปรงฟันตั้งแต่เด็กเล็กๆ
ถึงเวลาต้องเลิกขวดนมก็คือเลิกโดยเด็ดขาด
ไปจนถึง การบริโภคอาหาร ที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดฟันผุ เช่นของหวานน้ำตาล ที่มากเกินไป
ส่วนตัวแนะนำว่าควรพาบุตรหลานไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กฟันเป็นประจำ ไม่ต้องรอให้เกิดฟันผุ แล้วค่อยไปหาหมอฟัน ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก
ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ จากฟันผุธรรมดาๆ กลายเป็นปัญหาที่อาจพาให้เสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นอย่าประมาทนะครับ”